BIG STORY : ผลพวงคดี “ทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง” ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต

กทม. 26 มิ.ย. – กว่า 8 ปี ที่ตำรวจไทยและตำรวจสากลติดตามตัวลูกชายเครื่องดื่มชูกำลัง หลังก่อเหตุขับรถชนตำรวจเสียชีวิต สุดท้ายผลพวงจากคดีนี้ส่งผลให้ 7 นายตำรวจที่ร่วมคลี่คลายคดี ถูก ป.ป.ช สั่งเอาผิด ย้อนรอยคดีนี้จากวันแรกถึงวันนี้ จากรายงานของทีมข่าวอาชญากรรม 


ผ่านมาแล้วกว่า 8 ปี คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังขับรถหรูเฟอร์รารี ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตคาที่ บนถนนสุขุมวิท คดีนี้มีเงื่อนงำตั้งแต่นาทีแรก เมื่อตำรวจระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อ ในขณะนั้น นำตัวคนดูแลรถในบ้านมามอบตัว บอกว่าเป็นคนขับชนตำรวจ แต่คดีนี้มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน ไม่มีใครเชื่อว่าคนดูแลรถเป็นคนขับตัวจริง จึงเป็นที่มาของการนำกำลังล้อมบ้านอยู่วิทยา หลังพบหลักฐานรอยคราบน้ำมันเลี้ยวเข้าไปในบ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ในสมัยนั้น ต้องเข้าไปเจรจากดดันให้ผู้ต้องหาตัวจริงมอบตัว ในที่สุด “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา จึงรับสารภาพว่าเป็นคนขับรถตัวจริง

หลักฐานสำคัญที่บ่งบอกว่าผู้ต้องหาไม่อยู่ในสภาพที่มีสติครบถ้วน คือภาพการเดินขึ้นบันไดเพียง 3 ขั้น ที่เดินเซจนเกือบล้ม เขาอ้างว่าไม่สบาย กินยาแก้หวัดเข้าไป จึงมีอาการดังกล่าว


คดีนี้มีตำรวจถูกตั้งกรรมการสอบคนแล้วคนเล่า เริ่มตั้งแต่สารวัตรป้องกันปราบปรามที่นำแพะมามอบตัว ถูกตั้งกรรมการสอบ พร้อมถูกสั่งย้าย 30 วัน 

จากนั้น 18 กรกฎาคม 2559 มีการสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. เอาผิดตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 10 นาย ฐานช่วยเหลือให้ผู้ต้องหาไม่ถูกดำเนินคดี

ล่าสุด ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลังกับตำรวจทั้งสิ้น 7 นาย มีตั้งแต่ระดับผู้บังคับการในสมัยนั้น ถึงพนักงานสอบสวนที่ทำคดี โดยพบว่าในจำนวน 7 นาย มีเกษียณอายุราชการไปแล้ว 2 นาย ส่วนอีก 5 นาย ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และได้เลื่อนตำแหน่งตามวงรอบปกติ


คดีนี้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไม่ร้ายแรง ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ คนแรก พ.ต.ท.วิรดล ทับทิมดี พนักงานสอบสวนในขณะนั้น ฐานเจตนาละเว้นไม่ดำเนินคดียาเสพติด ไม่นำผลความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เข้ามาอยู่ในสำนวน และละเว้นไม่ออกหมายจับจนผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ประเทศอังกฤษ

กลุ่มหัวหน้าพนักงานสอบสวน ถูกชี้มูลความผิดไม่ร้ายแรง กรณีเป็นคณะพนักงานสอบสวนร่วมลงนามในสำนวนการสอบสวน

และกลุ่มที่ 3 ระดับผู้บังคับการ และรอง ผบก. ในขณะนั้น ถูกชี้มูลความผิดไม่ร้ายแรง กรณีเป็นผู้บังคับบัญชา กลับไม่กำกับดูแลเพื่อให้การสอบสวนเป็นธรรม ถือเป็นความบกพร่องในหน้าที่ 

พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดไม่ร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 จะมีหลักเกณฑ์การลงโทษจากเบาไปหาหนัก ตั้งแต่ภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง และตัดเงินเดือน คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล บอกว่าได้ลงโทษตำรวจทั้ง 5 นายไปแล้ว

ส่วนการติดตามดำเนินคดีนายวรยุทธ เบื้องต้นถูกตั้ง 5 ข้อหา คือ 

1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 

2.ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกชน หรือชนแล้วหนี 

3.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 

4.ขับรถโดยขณะมึนเมา 

และ 5.ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย 

แต่ผู้ต้องหาใช้ช่องทางกฎหมายต่อสู้จนคดีขาดอายุความไปแล้ว 4 ข้อหา เหลือเพียงข้อหาเดียวคือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอายุความ 15 ปี ซึ่งจะหมดอายุความ วันที่ 3 ก.ย. 2570 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า 

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครตอบได้ว่าทางการจะสามารถนำตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีได้หรือไม่ สิ่งที่ สตช.ทำคือร่วมกับอัยการกองการต่างประเทศ ส่งหมายจับให้ตำรวจสากล (อินเตอร์โพล)  ประกาศเป็นบุคคลตามหมายจับเท่านั้น. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ไขข้อกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

ค้านนำเข้าเนื้อวัวสหรัฐ

“สมาคมโคเนื้อ” นำมวลชนคัดค้าน “วัวอเมริกา”

สมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย นำเกษตรกรผู้เลี้ยงโคจาก 60 กลุ่มทั่วประเทศ กว่า 100 คน ชุมนุมหน้ากระทรวงเกษตรฯ​ เพื่อยื่นหนังสือถึง​นายกฯ และ​รัฐมนตรี​ 3 กระทรวง​ คัดค้านนโยบายการเปิดนำเข้าเนื้อโคและเครื่องในโคจากสหรัฐ​ หวั่นราคาตกต่ำซ้ำรอย​และ​กระทบ​สุขภาพประชาชน

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

ราคาทอง

ฉุดไม่อยู่! ทองไทยขึ้นอีก ตามราคาโลกหวั่นสงครามการค้า

ราคาทองคำไทย ในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำนิวไฮอีก ตามราคาทองตลาดโลกที่ขยับขึ้น เพราะหวั่นสงครามการค้าโลก ด้านเงินบาทแข็งค่าขึ้นใยรอบ 6 เดือน ฉุกทองไทยไม่พุ่งแรงมากนัก