“มนัญญา” เตรียมเสนอแบน “ไกลโฟเซต”

กรุงเทพฯ  26 มิ.ย. – “มนัญญา” ยืนยันแบนสารเคมีเกษตรอันตราย เดินหน้าปรับเปลี่ยนทำเกษตรอินทรีย์ เตรียมเสนอแบน “ไกลโฟเซต” ด้านกรมวิชาการเกษตรเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรนำ “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส” ส่งคืนร้านค้าภายใน 90 หลังกฎหมายแบนมีผลบังคับใช้


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเกษตรกรร้องต่อศาลปกครอง โดยระบุว่าได้รับความเดือดร้อนจากการยกเลิกใช้พาราควอต ซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดวัชพืชและคลอร์ไพริฟอสซึ่งเป็นสารป้องกันกำจัดแมลง โดยยืนยันว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำเพื่อความปลอดภัยของเกษตรกร โดยจะส่งเสริมการปรับเปลี่ยนให้ทำเกษตรอินทรีย์ ซึ่งไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตรเลย รวมทั้งทำเพื่อสุขภาพของคนไทยทุกคนด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมเสนอไกลโฟเซตสารป้องกันกำจัดวัชพืชอีกชนิด ที่ผ่านมาอยู่ในมาตรการจำกัดการใช้ซึ่งใช้ได้กับพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด คือ อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าวโพด และไม้ผล แต่จากการตรวจสอบพบว่า เกษตรกรที่มาอบรมการใช้สารเคมีดังกล่าวนำไปใช้ในแปลงปลูกพืชอื่นโดยเฉพาะผัก จึงจะต้องแบนไกลโฟเซตให้ได้ด้วย

สำหรับการทำประชาพิจารณ์ (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่…) พ.ศ….ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2563 เรื่อง อาหารที่มีสารพิษตกค้าง (ฉบับที่ 3) ซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานอาหารและยา (อย.) มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการแสดงความเห็นด้วยเรื่องการเพิ่มรายชื่อวัตถุอันตรายทางการเกษตร 2 ชนิดคือ พาราคอวตและคลอร์ไพรอฟอสแนบท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ หากไม่เห็นด้วยเพราะเหตุใด รวมทั้งการยกเลิกปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (MRLs) ของ 2 สารนี้ นั่นคือ การให้ค่าตกค้างของสารพิษดังกล่าวในอาหารเป็นศูนย์ (Zero Terroance)  ทังนี้ต้องการให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ผู้นำเข้าผลิตผลทางการเกษตรเพื่อใช้เป็นอาหาร ผู้นำเข้า/ผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เป็นต้น ร่วมกันแสดงความเห็นต่อ โดยส่งแบบฟอร์มสำหรับรับฟังการแสดงความคิดเห็นได้ที่ อย. ภายในวันที่ 18 กรกฎาคม จากนั้นจึงจะออกประกาศเพื่อบังคับใช้ต่อไป ยืนยันว่า เป็นการออกประกาศที่มุ่งเน้นความปลอดภัยทางสุขอนามัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ


นางสาวอิงอร ปัญญากิจ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่และสารวัตรเกษตรเร่งให้คำแนะนำเกษตรกรเพื่อนำพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส ซึ่งอยู่ในครอบครองคืนที่ร้านจำหน่าย ตามคำสั่งกรมวิชาการเกษตร ภายใน 90 หลังจากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมที่แบนสาร 2 ชนิดนี้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้ยืนยันว่ากรมวิชาการเกษตรไม่มีนโยบายจะจับกุมเกษตรกร แต่จำเป็นต้องแนะนำให้ปฏิบัติตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนด จากนั้นร้านจำหน่ายต้องส่งคืนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า และแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภายใน 180 วัน หรือก่อนวันที่ 28 กันยายน 2563 สำหรับผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องแจ้งปริมาณต่อพนักงานเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร เพื่อรวบรวมแจ้งปริมาณวัตถุอันตรายและแผนการทำลาย ภายใน 270 วัน หรือก่อนวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย