สธ. 25 มิ.ย.- อย. ร่วม ป.ป.ส. สุ่มตรวจยาเสพติด 25 ตันมูลค่า5 หมื่นล้านบาท ก่อนเผาทำลายพรุ่งนี้ โดยยาบ้ายังคงครองแชมป์ มากที่สุด พร้อมเตรียมเสนอขอแก้กฎหมาย ยาเสพติด เพิ่มความรวดเร็วในการเผาทำลายยาเสพติดของกลางให้รวดเร็วขึ้น หลังพบปัญหา ยาเสพติดของกลางเหลือคงคลังมาก 200 ตัน คดียังไม่สิ้นสุด
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการอย. ร่วมกับพันตำรวจโทไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์. รองเขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) สุ่มตรวจยาเสพติดของกลางที่ศาลชั้นต้น มีคำสั่งหริอพิพากษาให้ริบของกลาง 25,301 กิโลกรัม จาก 2,751 คดี. ที่จะเตรียมเผาทำลาย ในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) รอบแรก ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 8 ตัน จากนั้น ทยอยเผาอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 13และ 14 ก.ค. ด้วยวิธีไพโรไลติกอินซินเนอะเรชั่น ความร้อนสูง 850 องศาเซลเซียส โดยมูลค่าของกลางยาเสพติดนี้รวมทั้งสิ้น 55,941 ล้านบาท ซึ่งยาเสพติดที่เผาทำลาย ส่วนใหญ่เป็นยาบ้า รองลงมา ไอซ์ และ เฮโรอีน
นพ.ไพศาล กล่าวว่า เนื่องจากปริมาณยาเสพติดของกลางมีมากขึ้น เป็นผลมาจากการจับกุม และแต่ละครั้งจำนวนการจับก็มีปริมาณยาเสพติดมากขึ้น ทำให้คลังเก็บยาเสพติดของกลางของอย. เริ่มไม่พอรองรับ เตรียมเสนอของแก้ไข พ.ร.บ.ยาเสพติด ในส่วนของ ของกลางยาเสพติด ไม่รอคดีสิ้นสุด ถึงเผาทำลายของกลาง แต่ให้มีกระบวนการ พิสูจน์ว่าของกลาง ในทางวิทยาศาสตร์จากนั้นลงบันทึกไว้ เพื่อไม่ให้ของกลางที่จัดเก็บคงคลังมีจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้มีของกลางยาเพสติดที่รองคดีสิ้นสุด 203 ตัน ซึ่งเกินปริมาณที่คลังยาเสพติด 2 คลัง ของอย.จัดเก็บตามมาตรฐาน โดยคลังยาเสพติด 1 จำนวน 25 ตัน กลับเก็บมาถึง 54 ตัน. ส่วนคลังยาเสพติด 2 รองรับได้ 120 ตัน กลับเก็บมากถึง 174 ตัน.
พันตำรวจโทไพศิษฎ์ กล่าวยอมรับว่าปริมาณของกลางยาเสพติดที่จับกุมได้มากขึ้นทุกปี ส่วนหนึ่งเพราะพื้นที่ของไทยใกล้แหล่งผลิตยาเสพติด อีกทั้งช่วงสถานการณ์โควิด -19 พบรูปแบบการซื้อขายยาเสพติด เปลี่ยนไป เน้นมาขายทางออนไลน์ และส่งยาทางไปรษณีย์ และพัสดุมากขึ้น จึงได้มีการประสานของความร่วมมือหน่วยงาน ทั้งรัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสินค้าให้เพิ่มความระมัดระวัง.-สำนักข่าวไทย