ซีอีโอซีพีโชว์นำบริษัทก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ปลุกพลังธุรกิจยั่งยืน

กรุงเทพฯ  18 มิ.ย. – ซีอีโอเครือซีพีขึ้นเวทีระดับโลก UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020  โชว์การนำซีพีก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 เป็นกรณีศึกษา ชี้วิกฤติโลกร้อนจะรุนแรงกว่าวิกฤติโควิด-19 หลายเท่าตัว ปลุกพลังภาคธุรกิจทั่วโลกเตรียมรับมือและรวมพลังสร้างความยั่งยืน


นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ร่วมงานเวทีระดับโลก ในหัวข้อ “การทบทวนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นพร้อมปูทางสู่การฟื้นตัว” บนเวทีผู้นำด้านความยั่งยืนระดับโลก “UN Global Compact Virtual Leaders Summit 2020” จัดขึ้นในโอกาสครบรอบ 20 ปี UN Global Compact  ซึ่งรวบรวมสุดยอดผู้นำระดับโลกกว่า 200 คน ร่วมแบ่งปันวิสัยทัศน์และมุมมองธุรกิจบนรากฐานของความยั่งยืนให้ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งจากวิกฤติโควิด-19 ภายใต้แนวคิด “Recover Better, Recover Stronger, Recover Together” โดยมีผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านรูปแบบออนไลน์ Virtual Meeting กว่า 15,000 คน จาก 193 ประเทศทั่วโลก

นายศุภชัย เปิดเผยถึงแนวการรับมือกับโควิด-19  ว่า เครือซีพีตระหนักอย่างมากในการให้ความสำคัญกับวิธีการที่ธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้ในท่ามกลางวิกฤติ ซึ่งสิ่งแรกสำคัญที่สุด คือ การประกาศนโยบายเพื่อดูแลพนักงาน คือ ประกาศว่าจะไม่มีการเลิกจ้าง เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการรักษางานเพื่อสร้างความมั่นคงให้พนักงาน และเป็นการไม่เพิ่มภาระให้แก่ปัญหาสังคม นอกจากนี้เครือซีพีได้นำจุดแข็งขององค์กรคือการดำเนินธุรกิจด้านอาหารไปช่วยเหลือสังคมที่กำลังเดือดร้อน  โดยมีการจัดส่งอาหารให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย  ผู้ป่วย COVID-19 รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และสมาชิกในครอบครัว และผู้ที่ต้องกักตัวเพื่อเฝ้าระวังโรค  นอกจากนี้ยังสร้างโรงงานเพื่อผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรีแก่บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และประชาชนทั่วไปเพื่อบรรเทาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย


นอกจากนี้ ได้กล่าวแนะนำภาคธุรกิจเอกชนว่าเรื่องสำคัญที่ควรวางแผนการเผชิญกับวิกฤติในอนาคต คือมุ่งเน้นการรักษางานของพนักงานในองค์กรเอาไว้ และต้องไม่หยุดลงทุน เพื่อนักลงทุนจะไม่ได้สูญเสียความมั่นใจ เพราะสิ่งที่จะก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจอย่าง Great Depression คือภาวะที่ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ลงทุนขาดความเชื่อมั่น และนั่นจะทำให้ระบบเศรษฐกิจหยุดชะงัก ซึ่งต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น การดำเนินธุรกิจควรให้ความสำคัญในการบริหารจัดการ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงต้องระมัดระวังว่าเราจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไร

ซีอีโอเครือซีพี กล่าวต่อไปว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเพียงวิกฤติที่เกิดขึ้นชั่วคราวที่โลกสามารถจัดการรับมือได้แม้จะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง แต่เชื่อว่าในที่สุดโควิด-19 ก็จะหายไป แต่ความท้าทายของโลกที่ทุกคนไม่ควรมองข้ามคือปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการว่างงาน ปัญหาขยะ ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืนทั้งสิ้น ซึ่งภาคธุรกิจเอกชนทั้งหลายเมื่อต่อสู้กับวิกฤติโควิด-19 และก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปได้จะต้องกลับมาผนึกกำลังความร่วมมือกับภาครัฐ ภาคประชาสังคม และอื่น ๆ เพื่อสร้างประโยชน์ที่จะนำมาสู่ความยั่งยืน  โดยกล่าวให้กำลังใจภาคธุรกิจเอกชนพร้อมปลุกพลังด้วยว่า “เชื่อว่าวิกฤติมาพร้อมกับโอกาสเสมอ การเปลี่ยนรูปแบบ (Reform) ธุรกิจขององค์กร จะผลักดันให้เรากลายเป็นนวัตกรรมมากขึ้น ต้องให้ความสำคัญกับการสร้างคน สร้างภาวะผู้นำอย่างทั่วถึงทั้งองค์กร เราต้องทำให้ดีที่สุดจากสถานการณ์ครั้งนี้”

“ผู้นำวันนี้ต้องนำการเปลี่ยนแปลง (Change agent) และมีจิตสำนึก (Mindset) ด้านความยั่งยืน เป็นตัวอย่างที่ดี มีวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่ และที่สำคัญ คือ ควรเห็นความสำคัญของการร่วมมือ เพราะไม่สามารถก่อให้เกิดความยั่งยืนเพียงลำพัง จำเป็นต้องอาศัยการสร้างพันธมิตร ความร่วมมือแบบประชารัฐ (Public Private Partnership) จึงเป็นกุญแจดอกสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผู้นำองค์กรจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงผ่านกระบวนการทางธุรกิจ สินค้า บริการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมขององค์กร โดยจะต้องลงมือทำอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม” นายศุภชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ