กทม. 17 มิ.ย. – สำนักข่าวไทยเกาะติดคดีสาววัย 29 ปี ก่อเหตุฆาตกรรมและตัดอวัยวะเพศพ่อจนเสียชีวิต ขณะนี้ตำรวจยังสอบปากคำไม่ได้ เพราะผู้ก่อเหตุให้การวกวนจากอาการข้างเคียงของยาเสพติด และสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากการถูกทุบตีตั้งแต่เด็ก รวมถึงกรณีสามีของผู้ก่อเหตุก่อคดีข่มขืนลูกสาวของตนเอง จิตแพทย์รอตรวจสอบข้อมูลสภาพจิตผู้ก่อเหตุ
ความคืบหน้าตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (17 มิ.ย.) ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง นำอาหารและน้ำไปให้ผู้ต้องหา ก่อนพูดคุยและนำตัวไปส่งตรวจหาสารเสพติดและสภาพจิตใจที่สถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ หรือโรงพยาบาลธัญญารักษ์ โดยขณะควบคุมตัวไปขึ้นรถ ผู้ต้องหาพูดจาโต้ตอบได้ ตะโกนว่าไม่ได้ทำผิด ที่ผ่านมาเคยถูกผู้ตายทำร้าย ลงไม้ลงมือมาตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้สามียังเคยข่มขืนลูกของตน ซึ่งเคยมาแจ้งความไว้แล้ว ขณะที่แม่ของผู้ก่อเหตุเดินทางมาที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อทำเรื่องขอรับศพอดีตสามีไปประกอบพิธี แต่ไม่ได้ยื่นประกันตัวลูกสาว เพราะเกรงว่าอาจเกิดเหตุซ้ำรอย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าตั้งแต่ถูกจับกุมตัว ผู้ก่อเหตุมีลักษณะอาการเกี่ยวกับจิตใจ ตะโกนอยู่ภายในห้องควบคุมว่าถูกใส่ร้าย ถามว่าเมื่อไหร่จะปล่อยตัว นอกจากนี้มีข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุมักเดินทางมาที่สถานีตำรวจบ่อยครั้งเพื่อแจ้งความคดีของลูกสาว การมาแต่ละครั้งจะเรียกวินรถจักรยานยนต์รับจ้างให้มาส่ง บางครั้งไม่จ่ายเงินค่าโดยสาร ตำรวจต้องจ่ายค่ารถให้แทน
เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ (16 มิ.ย.) หลังตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุฆาตกรรมในบ้านพักหลังหนึ่ง ซอยชุมชนท่าทราย 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ ก่อนพบศพชายวัย 58 ปี สภาพถูกมีดฟันกลางหน้าผาก และอวัยวะเพศถูกตัดทิ้ง เมื่อสอบถามเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง จึงสงสัยว่าลูกสาววัย 29 ปี ที่เดินทางกลับมาบ้านพักเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะมีพยานเห็นเดินออกจากบ้านในสภาพเปรอะเปื้อนเลือด และถือกระเป๋าใบเล็ก 1 ใบออกไป
หลังจากนั้นชุดสืบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้ระดมกำลังออกติดตามตัวมาสอบปากคำ กระทั่งจับกุมได้เวลาประมาณ 02.30 น. ที่ปากซอยชิจเขต 1/31 แขวงทุ่งสองห้อง ขณะเดินอยู่ข้างถนน และมีภาพกล้องวงจรปิดจับนาทีที่ผู้ก่อเหตุทิ้งมีดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ กระทั่งถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง ตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่สามารถทราบแรงจูงใจของการฆาตกรรมครั้งนี้
เตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ต้องรอสอบสวน
ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง ระบุว่า พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถสอบปากคำได้ จึงต้องนำตัวส่งสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อให้วินิจฉัยอาการ หากแพทย์ระบุว่ามีอาการผิดปกติทางจิต ต้องทำการรักษาก่อน และกลับมาดำเนินคดีภายหลัง เนื่องจากขณะนี้มีเพียงคำให้การของพยานกับประวัติการรักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญาที่ระบุว่าไม่ได้มีอาการทางจิตที่รุนแรง แต่จากหลักฐานกล้องวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อ ชี้ให้เห็นว่านำมีดที่ก่อเหตุไปทิ้งถังขยะหน้าร้านชัดเจน
จากการสอบสวนแม่ผู้ต้องหาให้การว่า อดีตสามีเป็นคนพูดจารุนแรง หยาบคาย ชอบด่าทอ และต่อว่าลูกสาวบ่อยครั้ง แต่ไม่ถึงกับทำร้ายร่างกาย ส่วนสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลายครั้ง ส่วนมากเป็นการแจ้งความหรือตามความคืบหน้าในคดีสามีข่มขืนลูก ซึ่งคดีอยู่ในชั้นศาลแล้ว นอกจากนี้ ตัวผู้ก่อเหตุเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดหลายครั้ง จึงอาจเกิดความผูกพันกับสถานีตำรวจ
จิตแพทย์รอตรวจสอบข้อมูลสภาพจิตใจผู้ก่อเหตุ
ด้าน นพ.ศรุตพันธุ์ จักรพันธุ์ ณ อยุธยา ผอ.สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดว่าตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เตรียมส่งตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาที่สถาบันฯ หรือไม่ แต่เบื้องต้นต้องมีการพิสูจน์ว่าการก่อเหตุเป็นเพราะจิตใจขณะนั้นปกติหรือไม่ หรือมีอาการทางจิตเภท เบื้องต้นทราบจากข้อมูลว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเคยมีประวัติการใช้สารเสพติด ดังนั้น วิธีการแยกว่าผู้ก่อเหตุในขณะนี้มีอาการทางจิตที่เกิดจากการใช้ยาหรือสารเสพติดสามารถทำได้ โดยต้องตรวจพิสูจน์ปัสสาวะและซักประวัติก่อน . – สำนักข่าวไทย