สุราษฎร์ธานี 16 มิ.ย.- สุราษฎร์ฯ เดินหน้าตามหาฉลามวาฬบาดเจ็บ หลังครูสอนดำน้ำพบเชือกรัดหางเป็นแผลลึกโพสต์ขอความช่วยเหลือ ด้านศูนย์วิจัยฯ ชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง คาดเป็น “เจ้าโทน” พร้อมส่งอุปกรณ์ตัดเชือกประจำเกาะเต่าเข้าช่วยได้ทันที ห่วงแผลหากปล่อยไว้นานเสี่ยงอันตราย
สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก ประจำค่าย สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) เปิดเผยกรณีครูสอนดำน้ำเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี พบฉลามวาฬบาดเจ็บถูกเชือกรัดหางเป็นแผลลึกว่า ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จึงประสานไปยังเครือข่ายนักดำน้ำเกาะเต่า เกาะพะงันและเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก รวมทั้งเรือประมงบริเวณใกล้เคียงให้ช่วยกันค้นหา จากข้อมูลของศูนย์วิจัยฯ เคยพบฉลามวาฬอยู่บริเวณเกาะเต่าและเกาะพะงัน พฤติกรรมว่ายน้ำและอาศัยอยู่ตามลำพัง ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นฉลามวาฬตัวเดียวกับที่ชื่อ “ เจ้าโทน ” หรือไม่ ซึ่งขณะนี้นักวิจัยกำลังเร่งเปรียบเทียบลักษณะเฉพาะอยู่
สัตวแพทย์หญิงพิมพ์ชนก กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบจากคลิปวิดีโอและภาพที่ครูสอนดำน้ำได้บันทึกไว้ คาดว่าถูกเชือกรัดมาระยะหนึ่งแล้วและเริ่มมีอาการอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นอันตรายได้ หรือถ้าแย่ที่สุดก็อาจจะทำให้หางของฉลามวาฬขาด อย่างไรก็ตาม ได้ส่งเครื่องมืออุปกรณ์ตัดเชือกไปประจำไว้ที่เกาะเต่า หากนักดำน้ำหรือเครือข่ายช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากพบเห็นฉลามวาฬที่ถูกเชือกรัดก็สามารถเข้าตัดเชือกได้ โดยไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยฯ เพราะหากสามารถตัดเชือกออกได้เร็วก็ไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการรักษาบาดแผล เนื่องจากสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ
ด้านนางพรรณี แมคคาธี (Phannee Mccarthy) ครูสอนดำน้ำ ที่พบฉลามวาฬบาดเจ็บ กล่าวว่า ตอนแรกที่พบฉลามวาฬทุกคนที่ลงไปเรียนดำน้ำตื่นเต้นมาก แต่พอเขาว่ายมาใกล้ ๆ เห็นเชือกติดอยู่ข้าง หลังรู้สึกสงสาร และเห็นแผลจากเชือกรัดเข้าไปถึงเนื้อ ฉลามวาฬว่ายวนมาหารอบที่ 3 เหมือนมาขอความช่วยเหลือ จึงเข้าไปนำมีดที่เคยใช้ตัดอวนช่วยปลามาแล้ว แต่ครั้งนี้มีดตัดเชือกรัดหางฉลามวาฬไม่ขาด
“เสียใจที่ไม่สามารถช่วยได้ จึงตัดสินใจนำคลิปไปโพสต์ขอความช่วยเหลือ และประสานผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยว ซึ่งขณะนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเริ่มค้นหาและช่วยเหลือฉลามวาฬแล้ว” ครูพรรณี กล่าว
ด้านนายวิชัย สมรูป ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า การช่วยเหลือจะใช้คณะสัตวแพทย์จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ชุมพร) ร่วมกับชมรมนักดำน้ำเกาะเต่า ร่วมค้นหาและมีเจ้าหน้าที่ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 4 ที่ปฎิบัติงานฟื้นฟูปะการังอยู่บริเวณเกาะเต่าช่วยค้นหาด้วย ขณะนี้ยังการค้นหายังไม่พบตัว เพราะฉลามวาฬตัวนี้อาศัยอยู่ตามลำพัง.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพ : ครูพรรณี