กรุงเทพฯ 13 มิ.ย.-ส.ว.แนะปรับแผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจโดยเร็ว หวังพลิกฟื้นวิกฤติโควิด เสนอทุ่มงบฯให้กู้ดอกเบี้ยต่ำ รายละ300,000 บาท
นางประภาศรี สุฉันทบุตร สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในฐานะกรรมาธิการเศรษฐกิจการเงินและการคลัง วุฒิสภา เปิดเผยว่า สภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอย่างรุนแรงจากปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ควรจะเร่งประชุมเพื่อปรับปรุงแผนปฏิรูปประเทศ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาการปรับปรุงแผนการปฏิรูปประเทศออกไป 90 วัน นับแต่วันที่แต่งตั้งประธานและกรรมการปฏิรูปประเทศครบทุกด้าน เพราะหากล่าช้า แผนปฏิรูปประเทศโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจจะล่าช้าและส่งผลกระทบต่อการดำเนินการตามแผนและยุทธศาสตร์ การจัดสรรงบประมาณต่าง ๆ
“การพลิกพื้นเศรษฐกิจตามพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมวงเงิน 1 ล้านล้านบาท จากข้อมูลสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแจ้งว่า มีหน่วยงานรัฐ ต่าง ๆ เสนอโครงการขอใช้เงินกู้มากกว่า 30,000 โครงการวงเงินเกือบ 800,000 ล้านบาท เเบบเร่งรีบ คาดว่าจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งโครงการและวงเงินทั้งที่วางกรอบวงเงินไว้เพียง 400,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการก่อสร้าง จึงเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนโครงการที่เป็นไปได้ จะได้สร้างงาน นวัตกรรมใหม่ ๆ โดยเฉพาะคนในเมืองเศรษฐกิจในเมืองใหญ่ที่ถูกเลิกจ้าง แต่มีฝีมือด้านแรงงาน ได้รับแรงจูงใจจากรัฐฯ ให้เดินทางกลับคืนถิ่นบ้านเกิดในต่างจังหวัด เช่น จัดเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ อย่างน้อย 300,000 บาท ต่อครัวเรือนเพื่อให้ใช้ในการลงทุนตั้งตัวเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ เช่นเดียวกับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ SMEs ที่ติดภาระหนี้(NPL)รวมทั้งที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ก็ถือเป็นปัญหาใหญ่เฉพาะหน้า ที่ภาครัฐจะต้องหาทางช่วยเหลือด้วยโครงการที่เหมาะสม กิจการเหล่านี้เป็นเสมือนรากแก้วในการหล่อเลี้ยงชุมชนให้ดำรงอยู่ได้ หากประสบปัญหาจะเกิดความเสียหายสะเทือนไปถึงเศรษฐกิจและสังคมระดับประเทศได้” นางประภาศรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย