เสนอคูปองครอบคลุมกิจการท่องเที่ยวทุกประเภท

สำนักข่าวไทย 10 มิ.ย.-สทท. เผยผู้ประกอบการพร้อมรับแพคเกจกระตุ้นท่องเที่ยว เสนอคูปองท่องเที่ยวครอบคลุมผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยวทุกประเภท


นาย ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยกับสำนักข่าวไทย ภายหลังกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เตรียมเสนอแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยแพ็คเกจ “เที่ยวปันสุข” ที่จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โรค covid-19 (ศบค.) ในวันศุกร์นี้ รวมทั้งมาตรการการเปิดระเบียงท่องเที่ยวหรือ Travel Bubble คือเปิดให้ท่องเที่ยวในประเทศที่ปลอดเชื้อและไม่กักตัว 14 วัน 


ประธาน สทท. กล่าวว่า แผนดังกล่าวถือว่าเป็นมาตรการที่จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง หลังประสบกับภาวะหยุดชะงัก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องมาหลายเดือน ขณะนี้ทางฝั่งของผู้ประกอบการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้มีการปรับตัวรูปแบบการท่องเที่ยววิถีใหม่ New Normal เตรียมพร้อมรับกับมาตรการที่จะกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นมาตรการทางด้านสุขอนามัย อาทิ ความสะอาดของสถานที่ การเว้นระยะห่างระหว่างกัน ฯลฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 

นาย ชัยรัตน์ เพิ่มเติมว่า ในมุมมองของตนนั้นยังมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่อยากให้ทาง ศบค.พิจารณาเพิ่ม โดยอยากเสนอให้เรื่องของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยเฉพาะการใช้คูปอง ไม่จำกัดเฉพาะโรงแรมที่พักเท่านั้น แต่อยากให้ครอบคลุมในทุกกิจการ-กิจกรรมทางการท่องเที่ยวทั้งหมด อาทิ สวนสัตว์ สวนสนุก โรงละคร ฯลฯ เนื่องจากทุกกิจการ-กิจกรรมล้วนได้รับผลกระทบจากโควิด-19ทั้งหมด และจะได้ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเป็นหนึ่งในภาคอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยด้วย


สำหรับรายละเอียด 2 แพคเกจที่จะใช้กระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ 1.กำลังใจ เพื่อตอบแทนบุคลากรที่ปฏิบัติงานแนวหน้าในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อาทิ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 1,200,000 คน โดยจะสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน (3 วัน 2 คืน) ผ่านบริษัทนำเที่ยวในประเทศ , 2.เที่ยวปันสุข โดยจะให้เป็นบัตรกำนัลดิจิทัล สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งต้องเป็นการเดินทางข้ามจังหวัดเท่านั้น โดยจะให้กับประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 4,000,000 คน ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ ซื้อบัตรกำนัลดังกล่าว โดยสามารถใช้เป็นส่วนลดในการเข้าพักที่เข้าร่วมกับโครงการ ซึ่งวิธีใช้บัตรกำนัลดังกล่าว สามารถนำไปแสดงกับที่พักก่อน เมื่อเช็กอินห้องพักแล้ว รัฐจะโอนเงินคืนให้กับประชาชนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้จ่ายในโรงแรม อาทิ ห้องพัก ห้องอาหาร สปา และร้านขายสินค้าที่ระลึกต่อไป .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง