ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศติดต่อกัน 13 วันแล้ว

สธ.7 มิ.ย.-ศบค.เผยพบผู้ป่วยรายใหม่ 8 รายพักในState Quarantine ทั้งหมด 3 อันดับแรก คือกลับจาก คูเวต- ซาอุดีอาระเบีย-อินโดนีเซีย ส่งผลให้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศติดต่อกัน 13 วันแล้ว 



พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย โดยทั้ง 8 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ State Quarantine ทำให้วันนี้ ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ คือ 0 รายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 13 


ส่วนสถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,112 ราย แยกเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 รายเดินทางมาจากต่างประเทศ 668 ราย และตรวจพบในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 175 ราย วันนี้ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้นอีก 1 รายรวมรักษาหายแล้ว 2,972 ราย สูงถึง 99.5% ที่รักษาหาย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 82 ราย และวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ตัวเลขยังคงที่อยู่ที่ 58 ราย

ทั้งนี้  หากจำแนกตามเพศ เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง  และรักษามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อายุเฉลี่ยคงที่อยู่ที่ 39 ปี ที่น่าสนใจคือในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ  ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คนทำงานทำให้อายุเฉลี่ยที่พบผู้ติดเชื้อ อยู่ที่ 20-29 ปีมากขึ้น


สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย คือ  กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5ราย เดินทางมาถึงไทยวันที่ 2 มิ.ย. ตรวจเชื้อโควิค-19 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แต่ไม่พบเชื้อ  เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยตรวจพบเชื้อทุกราย แต่ไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ ส่วนอีก 2 รายเดินทางกลับมาจากคูเวต เป็นเพศชายอายุ 46 และ 37 ปีอาชีพรับจ้างเดินทางมาถึงไทย 24 พ.ค. ตรวจหาเชื้อ 27 พ.ค.แต่ไม่พบเชื้อและตรวจอีกครั้ง 6 มิ.ย.ครั้งที่ 2 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรปราการอีก1 ราย เดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย เป็นผู้ป่วยเพศชายอายุ 52 ปี เดินทางมาถึงไทย 5 มิ.ย.รายนี้ตรวจคัดกรองที่สนามบินปรากฏว่าพบเชื้อโควิค-19 มีอาการไข้ ไอ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในState Quarantine จนถึงวันนี้ 7 มิ.ย.มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 175 ราย อัตราผู้ป่วยที่พบคือกลับจากประเทศต้นทาง 3 อันดับแรก คือคูเวต ซาอุดีอาระเบียและอินโดนีเซีย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มากที่สุด คือผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ มีเพียง 1 รายเท่านั้น  ที่เป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบในประเทศ คือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า หากจำแนกตามอาชีพในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศ อาชีพที่พบมากที่สุดคือนักเรียน นักศึกษา พนักงานนวด รับจ้างทั่วไปและพนักงานบริษัทหรือโรงงาน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 จาก ศบค.อีกครั้ง ในกิจการที่ยังมีความเสี่ยงคือโรงเรียน ผับบาร์ สถานรับเบี้ยงเด็กที่ยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างมาก แม้ 13 วันที่ผ่านมาไม่มีการติดเชื้อในประเทศ ตามหลักการระบาดวิทยา แล้วระยะฟักตัวของเชื้อคือ14 วัน แม้จะครบ14 วันก็ยังประมาทไม่ได้ จุดที่จะบอกว่าความเสี่ยงต่ำของการระบาดของเชื้อ คือ 28 วัน จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ การ์ดอย่าตก 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก พบผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 7ล้านราย เสียชีวิตเกือบ 4 แสนราย โดยภานใน 1 วัน ป่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 4,000 คน และสหรัฐ ยังคงเป็นอันดับแรก ส่วนบราซิล อยู่ในสถานการณ์ที่น่าห่วง สำหรับฝั่งเอเชีย ประเทศอินเดีย มีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันทะลุ  1 หมื่นราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมเกือบ 2แสนราย อยู่ในอันดับ 6 และประเทศไทยอยู่ที่อันดับที่ 81

ทั้งนี้  องค์การอนามัยโลกประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ก่อนออกนอกเคหสถาน โดยก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าให้สวมหน้ากากอนามัยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยและบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีประกาศคำแนะนำไหม่ว่า แนะนำให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกนอกบ้านรวมถึงล้างมือเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

ขณะที่ทีมนักวิจัยในประเทศจีนในเมืองอู่ฮั่นวิจัยผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงจะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่มีอัตราป่วยความดันโลหิตสูงถึง 4 เท่า อีกหนึ่งประเด็น มาจากซาอุดีอาระเบีย ประกาศปิดเมืองเจดดาห์ หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดอย่างหนัก เมืองเจดดาห์เป็นเมืองสู่นครเมกกะ ซึ่งจะมีผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่เดินทางไปเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียใช้มาตรการที่เข้มงวดพร้อมประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่ บ่าย 3 ถึง 6โมงเช้า ให้พนักงานเอกชนพนักงานของราชการปฏิบัติงานที่บ้าน หลังจากพบว่ามีการระบาดเพิ่มขึ้น มีการใช้แผนกผู้ป่วยวิกฤติ ICU เพิ่มขึ้น ขณะนี้ซาอุดีอาระเบียมีผู้ป่วยสะสมของโควิด-19 มากที่สุดในประเทศกลุ่มอาหรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่