ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศติดต่อกัน 13 วันแล้ว

สธ.7 มิ.ย.-ศบค.เผยพบผู้ป่วยรายใหม่ 8 รายพักในState Quarantine ทั้งหมด 3 อันดับแรก คือกลับจาก คูเวต- ซาอุดีอาระเบีย-อินโดนีเซีย ส่งผลให้ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศติดต่อกัน 13 วันแล้ว 



พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.แถลงสถานการณ์ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย โดยทั้ง 8 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ State Quarantine ทำให้วันนี้ ผู้ติดเชื้อภายในประเทศ คือ 0 รายต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 13 


ส่วนสถานการณ์ภาพรวมของประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,112 ราย แยกเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,444 รายเดินทางมาจากต่างประเทศ 668 ราย และตรวจพบในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ 175 ราย วันนี้ผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้นอีก 1 รายรวมรักษาหายแล้ว 2,972 ราย สูงถึง 99.5% ที่รักษาหาย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 82 ราย และวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ตัวเลขยังคงที่อยู่ที่ 58 ราย

ทั้งนี้  หากจำแนกตามเพศ เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง  และรักษามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ อายุเฉลี่ยคงที่อยู่ที่ 39 ปี ที่น่าสนใจคือในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนไทยเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ  ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา คนทำงานทำให้อายุเฉลี่ยที่พบผู้ติดเชื้อ อยู่ที่ 20-29 ปีมากขึ้น


สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 8 ราย คือ  กลับมาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5ราย เดินทางมาถึงไทยวันที่ 2 มิ.ย. ตรวจเชื้อโควิค-19 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แต่ไม่พบเชื้อ  เมื่อกลับมาถึงประเทศไทยตรวจพบเชื้อทุกราย แต่ไม่มีอาการ และเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ ส่วนอีก 2 รายเดินทางกลับมาจากคูเวต เป็นเพศชายอายุ 46 และ 37 ปีอาชีพรับจ้างเดินทางมาถึงไทย 24 พ.ค. ตรวจหาเชื้อ 27 พ.ค.แต่ไม่พบเชื้อและตรวจอีกครั้ง 6 มิ.ย.ครั้งที่ 2 พบเชื้อแต่ไม่มีอาการและเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรปราการอีก1 ราย เดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย เป็นผู้ป่วยเพศชายอายุ 52 ปี เดินทางมาถึงไทย 5 มิ.ย.รายนี้ตรวจคัดกรองที่สนามบินปรากฏว่าพบเชื้อโควิค-19 มีอาการไข้ ไอ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในจังหวัดสมุทรปราการ ทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในState Quarantine จนถึงวันนี้ 7 มิ.ย.มีผู้ป่วยทั้งสิ้น 175 ราย อัตราผู้ป่วยที่พบคือกลับจากประเทศต้นทาง 3 อันดับแรก คือคูเวต ซาอุดีอาระเบียและอินโดนีเซีย

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่มากที่สุด คือผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ มีเพียง 1 รายเท่านั้น  ที่เป็นผู้ป่วยที่ตรวจพบในประเทศ คือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้า หากจำแนกตามอาชีพในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ป่วยที่กลับจากต่างประเทศ อาชีพที่พบมากที่สุดคือนักเรียน นักศึกษา พนักงานนวด รับจ้างทั่วไปและพนักงานบริษัทหรือโรงงาน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ติดตามมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 4 จาก ศบค.อีกครั้ง ในกิจการที่ยังมีความเสี่ยงคือโรงเรียน ผับบาร์ สถานรับเบี้ยงเด็กที่ยังเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดอย่างมาก แม้ 13 วันที่ผ่านมาไม่มีการติดเชื้อในประเทศ ตามหลักการระบาดวิทยา แล้วระยะฟักตัวของเชื้อคือ14 วัน แม้จะครบ14 วันก็ยังประมาทไม่ได้ จุดที่จะบอกว่าความเสี่ยงต่ำของการระบาดของเชื้อ คือ 28 วัน จึงอยากขอความร่วมมือประชาชนยังคงปฏิบัติตามมาตรการ การ์ดอย่าตก 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก พบผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 7ล้านราย เสียชีวิตเกือบ 4 แสนราย โดยภานใน 1 วัน ป่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 4,000 คน และสหรัฐ ยังคงเป็นอันดับแรก ส่วนบราซิล อยู่ในสถานการณ์ที่น่าห่วง สำหรับฝั่งเอเชีย ประเทศอินเดีย มีผู้ป่วยรายใหม่ต่อวันทะลุ  1 หมื่นราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมเกือบ 2แสนราย อยู่ในอันดับ 6 และประเทศไทยอยู่ที่อันดับที่ 81

ทั้งนี้  องค์การอนามัยโลกประกาศให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ก่อนออกนอกเคหสถาน โดยก่อนหน้านี้เคยประกาศว่าให้สวมหน้ากากอนามัยเฉพาะผู้ที่มีอาการป่วยและบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้มีประกาศคำแนะนำไหม่ว่า แนะนำให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกนอกบ้านรวมถึงล้างมือเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

ขณะที่ทีมนักวิจัยในประเทศจีนในเมืองอู่ฮั่นวิจัยผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงจะมีอัตราการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่มีอัตราป่วยความดันโลหิตสูงถึง 4 เท่า อีกหนึ่งประเด็น มาจากซาอุดีอาระเบีย ประกาศปิดเมืองเจดดาห์ หลังพบว่ามีการแพร่ระบาดอย่างหนัก เมืองเจดดาห์เป็นเมืองสู่นครเมกกะ ซึ่งจะมีผู้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่เดินทางไปเป็นจำนวนมาก ล่าสุดสาธารณสุขซาอุดีอาระเบียใช้มาตรการที่เข้มงวดพร้อมประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่ บ่าย 3 ถึง 6โมงเช้า ให้พนักงานเอกชนพนักงานของราชการปฏิบัติงานที่บ้าน หลังจากพบว่ามีการระบาดเพิ่มขึ้น มีการใช้แผนกผู้ป่วยวิกฤติ ICU เพิ่มขึ้น ขณะนี้ซาอุดีอาระเบียมีผู้ป่วยสะสมของโควิด-19 มากที่สุดในประเทศกลุ่มอาหรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาสั่งแบนหนัง-ละครไทย

พนมเปญ 13 มิ.ย. – เว็บไวต์ขแมร์ไทม์ส ของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภา เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชายกเลิกการออกอากาศละครไทย เลิกฉายหนังไทย และอาจจะยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากไทยด้วยเพื่อรักษาอธิปไตยและศักดิ์ศรีของประเทศในยามที่เผชิญแรงกดดัน กระทรวงข่าวสารกัมพูชาได้ออกหนังสือถึงเจ้าของสถานีโทรทัศน์ทุกแห่งแจ้งให้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 12 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทุกสถานีของกัมพูชาต้องงดออกอากาศภาพยนตร์ไทยทุกประเภทเพื่อความเหมาะสมของสถานการณ์และรักษาความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้กระทรวงศิลปะและวัฒนธรรมกัมพูชายังออกประกาศแจ้งเตือนให้ระงับการฉายและห้ามนำเข้าภาพยนตร์ไทยทุกประเภทในกัมพูชาตั้งแต่ 12 นาฬิกาวันนี้เป็นต้นไป.-816.-สำนักข่าวไทย

 อิสราเอลระบุเปิดฉากโจมตีอิหร่าน

เยรูซาเล็ม 13 มิ.ย. – กองกำลังอิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อขัดขวางมิให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ สื่อของอิหร่านและผู้เห็นเหตุการณ์รายงานว่า เกิดเหตุระเบิดหลายครั้งที่โรงงานเพิ่มสมรรถนะแร่ยูเรเนียม อิสราเอลเรียกปฏิบัติการโจมตีนี้ว่า “สิงห์ผงาด” (Rising Lion) โดยระบุว่าการโจมตียังพุ่งเป้าไปที่บรรดาผู้บัญชาการของอิหร่านและโรงงานผลิตขีปนาวุธ พร้อมกันนั้น อิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมือกับการโจมตีตอบโต้ด้วยขีปนาวุธและโดรนจากเตหะราน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้กล่าวผ่านข้อความวิดีโอที่บันทึกไว้ว่า ขณะนี้กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ชี้ขาดในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล นายเนทันยาฮูเขากล่าวด้วยว่า อิสราเอลเล็งเป้าโจมตีไปที่นักวิทยาศาสตร์ที่กำลังพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โครงการขีปนาวุธนำวิถี และโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เมืองนาทานซ์ (Natanz) ในปฏิบัติการที่จะดำเนินต่อไปอีกหลายวัน เจ้าหน้าที่กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลกำลังโจมตีเป้าหมายทางนิวเคลียร์และทางทหาร ‘หลายสิบแห่ง’ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าอิหร่านมีวัสดุเพียงพอที่จะสร้างระเบิดนิวเคลียร์ได้ถึง 15 ลูกภายในไม่กี่วัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า อิสราเอลได้ดำเนินการฝ่ายเดียวเนื่องจากเชื่อว่าปฏิบัติการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฎิบัติการครั้งนี้ของอิสราเอล ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากข่าวนี้.-813.-สำนักข่าวไทย

“ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา

ศาลฎีกาฯ 13 มิ.ย.-“ทักษิณ” ไม่มาศาลฎีกา​ “ทนายวิญญัติ” รอศาลกำหนดแนวทางพิจารณา นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี​ เดินทางมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประมาณ 8.30 น. พร้อมทีมทนาย 4-5 คน โดยไม่ปรากฏนายทักษิณ เดินทางมาศาลแต่อย่างใด นายวิญญัติ เปิดเผยถึงกรณีศาลฯได้นัดไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้นายทักษิณ ได้รับการเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ วันนี้ว่า​ เป็นการนัดของศาลฎีกาฯ เพื่อจะดำเนินการกระบวนการไต่สวน​ ซึ่งต้องรอดู ตนในฐานะทนายความผู้รับมอบอำนาจของนายทักษิณ​ มาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นว่า กระบวนการพิจารณาคดีจากนี้ไป จะกำหนดหรือวางแนวทางอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ ขอให้สัมภาษณ​์หลังจากที่เสร็จกระบวนการก่อน เนื่องจากว่ายังไม่ทราบ ว่าจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การเป็นทนายความมาพอจะคาดเดาได้ ส่วนในคดีนี้มีโอกาสที่นายทักษิณจะมาหรือไม่​ นายวิญญัติ​ กล่าวว่ายังตอบไม่ได้ และการพิจารณาวันนี้ไม่น่านาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ต้องดูว่า เราจะทำคำชี้แจงอย่างไร และหน่วยงานต่างๆ บุคคลที่ได้รับหมายได้ยื่นคำชี้แจงมาหรือไม่ ต้องมาดูว่ามีใครยื่นมาบ้าง หลังจากนั้นศาลจะให้โอกาสทุกฝ่าย ในการชี้แจง.-319​.-สำนักข่าวไทย

เครื่องบินตกอินเดีย

นายกฯ แสดงความเสียใจเครื่องบินตกที่อินเดีย

กทม. 13 มิ.ย.-นายกฯ แสดงความเสียใจโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมเครื่องบินตกที่เมืองอาเมดาบัด ในนามของประชาชนและรัฐบาลไทย ขอแสดงความเสียใจไปยังท่านนายกรัฐมนตรีโมที @NarendraModi และผู้ที่ประสบความสูญเสียจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ I am deeply saddened by the tragic plane crash in Ahmedabad earlier today. On behalf of the people and Government of Thailand, I extend our heartfelt condolences to PM @NarendraModi and all those who suffered loss in this tragedy.-314.-สำนักข่าวไทย