สธ. 20 เม.ย. – “อนุทิน” ร่วมติดตามสถานการณ์โควิด ย้ำติดเชื้อมากแต่ไม่รุนแรง สั่งการให้ รพ.ในสังกัดเตรียมพร้อมฉีดวัคซีนโควิด รุ่น 2 ร่วมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ให้ สปสช.คิดแพ็กเกจบริการ พร้อมชี้คนตายปริศนาในห้องพัก อย่าเพิ่งด่วนสรุปตายเพราะโควิดสายพันธุ์ใหม่ เพราะโควิดเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ไม่มีทางเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ส่วนใหญ่หลังชันสูตรศพพบว่ามาจากสาเหตุอื่น แค่มีการติดเชื้อโควิดร่วม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้ (20 เม.ย.)ได้มาติดตามสถานการณ์การระบาดของโควิด ต้องเข้าใจขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้มีการห้ามทำกิจกรรม หรือจำกัดการเดินทาง ทำให้เกิดการรวมตัวของคนหมู่มาก ซึ่งก็เป็นไปตามที่กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการติดเชื้อมากขึ้น แต่ไม่รุนแรง เนื่องมาจากคนไทยส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและการติดเชื้อตามธรรมชาติ ส่วนสายพันธุ์ใหม่ของเชื้อโควิด XBB.1.16 ก็เป็นธรรมดาของเชื้อไวรัส ที่ต้องมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยเองก็มีวัคซีนรุ่น 2 (ไบวาเลนท์) ลดความรุนแรงของอาการ ดังนั้นกลุ่มคน 608 หรือคนที่ได้รับวัคซีนนานเกิน 6 เดือน ก็รวมมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมยืนยันขณะนี้วัคซีนมีเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณในการจัดซื้อวัคซีนใหม่ เนื่องจากมีหลายประเทศบริจาคให้ไทย ทั้งเยอรมนี อิตาลี
นายอนุทิน กล่าวว่า ต่อไปในอนาคตโรคโควิด ก็จะกลายเป็นโรคประจำฤดูกาล เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ซึ่งในวันที่ 1 พ.ค.นี้ จะมีการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิดและไข้หวัดใหญ่ร่วมกัน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยได้มอบหมายให้ สปสช.ไปคิดแพ็คเกจ จัดรูปแบบบริการให้กับประชาชน เพื่อความสะดวก โดยการฉีดนี้เพื่อรองรับการเข้าสู่ฤดูฝน ที่คาดว่าจะมีผู้ป่วยติดเชื้อทั้งโควิด และไข้หวัดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ให้ รพ.ทุกแห่งเตรียมจัดตั้งแผนกสำหรับฉีดวัคซีน พร้อมย้ำมาตรการป่วยโควิดเหมือนเดิม คือ หากมีอาการก็สามารถหยุด 5 วัน แต่หากจำเป็นต้องพบปะผู้คนก็ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค และไม่ต้องกักตัวเหมือนในอดีต เพราะโรคโควิดในขณะนี้ ไม่เหมือนกับในอดีตที่ไม่มียา หรือวัคซีน แต่ขณะนี้ทั่วโลก มีทั้งยาและวัคซีน ทั้งนี้เมื่อป่วยโควิดก็ไม่ควรปิดบัง บอกคนทั่วไปได้เหมือนโรคอื่นทั่วไป เพื่อให้คนใกล้ชิดได้ระวังตัว หากไปในที่สาธารณะก็ต้องสวมหน้ากาก อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ป่วยก็สามารถใส่หน้ากากได้ หากเดินทางไปในที่สาธารณะ หรือใช้ป้องกันฝุ่น
ส่วนกรณีที่บุคลากรสาธารณสุข กังวลเมื่อโควิดกลับมาระบาด ภาระงานจะมาขึ้นและกังวลว่าค่าเสี่ยงภัยเดิมยังได้ไม่ครบนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งนี้เชื่อว่าไม่มีบุคลากรสาธารณสุขคนไหนคิดเรื่องแบบนี้แน่นอน เพราะถึงอย่างไรทุกคนก็พร้อมดูแลประชาชน ซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากร ไข้หวัดใหญ่และโควิด ยังดูแลเหมือนเดิม และประชาชนก็ยังคงได้รับบริการฟรี ส่วนกรณีการพบคนเสียชีวิตปริศนาในห้องพัก ย่านสาทร แล้วกู้ภัย ตรวจพบเชื้อโควิดนั้น ก็ไม่อยากให้ด่วนสรุปว่าสาเหตุการตายมาจากโควิด เพราะการเสียชีวิต จากโควิดต้องเป็นเรื่องของระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ไม่มีทาง ที่จะมีลักษณะการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ต้องรอการชันสูตร ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้รวบรวมเรื่องนี้ไว้เสมอ ซึ่งที่ผ่านมาเกือบทั้งหมดไม่ได้เสียชีวิตจากโควิด เพียงแต่พบเชื้อโควิดในผู้เสียชีวิต และสาเหตุการเสียชีวิตก็มาจากเรื่องอื่น .-สำนักข่าวไทย
