เวทีเสวนา เรียกร้องตรวจสอบการนำเด็กโพสต์รับบริจาค

สามเสน 29 พ.ค.-เครือข่ายคณะทำงานด้านเด็กและสตรี เสนอ 8 ข้อเรียกร้อง หยุดการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก โดยเฉพาะมาตรการตรวจสอบการรับบริจาคผ่านสื่อโซเชียล



เครือข่ายคณะทำงานด้านเด็กและสตรี เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า จัดเสวนาเรื่อง “ระบบดูแลหญิงท้องไม่พร้อม คือการป้องกันอาชญากรรมเด็ก” วันนี้ (29พ.ค.) ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย โดยหยิบยกประเด็นกรณีของหญิงวัย 29 ที่แสดงตัวว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 2 คน อ้างว่าเด็กป่วยเป็นโรคประหลาด นำเด็กมาโพสต์ลงในสื่อสังคมออนไลน์เพื่อขอรับบริจาค กระทั่งเป็นข่าวนำไปสู่การตรวจสอบและดำเนินคดี


รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม กล่าวว่า บริบทความหมายของคำว่าท้องไม่พร้อมแตกต่างกันไปในแต่ละสังคม สำหรับประเทศไทยส่วนหนึ่งเกิดจากกรอบความคิดและค่านิยมของสังคมที่ว่าผู้ชายเป็นใหญ่ กระบวนการที่เกิดขึ้นคือเครื่องสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ จากปัญหาในระดับปัจเจก(ครอบครัว)ที่ลุกลามกลายเป็นปัญหาระดับโครงสร้าง(สังคม) โดยเฉพาะนำไปสู่การที่ผู้ให้กำเนิดหรือมิจฉาชีพนำเด็กมาหาผลประโยชน์ให้ตนเอง


นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกาญจนาภิเษก กล่าวว่า  ข่าวการนำเด็กมาหาผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นนั้น นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสลดใจ สะท้อนถึงจุดอ่อนของกลไกต่างๆในสังคมที่มีต่อการให้ความช่วยเหลือหญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อมและครอบครัวที่ไม่พร้อมจะดูแลเด็ก นอกจากนี้ปัญหาการอุ้มบุญแบบผิดกฎหมายพบว่ามีชาวไทยชาวต่างชาติร่วมกันทำเป็นกระบวนการ ซึ่งการป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ให้ได้ผลต้องอาศัยกฎหมายจากรัฐที่ชัดเจนและจริยธรรมจรรยาบรรณของผู้ที่เกี่ยวข้องต่อการกระทำที่ต้องคำนึงถึงความเป็นมนุษย์มากกว่าผลตอบแทนหรือเม็ดเงินที่ได้รับ

ทั้งนี้ คณะทำงานและเครือข่าย ออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้องเสนอแนะต่อกรณีการแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก และการขอเด็กโดยไม่ดำเนินการตามกฎหมายบุตรบุญธรรมและการทารุณกรรมเด็กเพื่อนำมาหารายได้ คือ 1.ทุกฝ่ายต้องร่วมกันทบทวนพัฒนากลไกในการป้องกันการท้องไม่พร้อมให้ทั้งชายหญิงมีบทบาทรับผิดชอบเสมอกัน

2.สังคมไทยควรปรับทัศนคติมุมมองหญิงท้องไม่พร้อมหรือจำเป็นต้องยกบุตรให้ครอบครัวบุญธรรม เป็นการเข้าใจและเห็นใจมากกว่าประณาม 

3.จัดบริการทางสังคมสำหรับหญิงท้องไม่พร้อม อาทิ บริการปรึกษาทางเลือก การช่วยเหลือทั้งก่อนและหลังคลอดที่เพียงพอ 

4.รัฐควรเพิ่มเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กถ้วนหน้าจาก 600 บาท เป็น 2,000 บาท 

และ 5.มาตรการตรวจสอบการรับบริจาคในสื่อโซเชียลมีเดียที่นำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์จากเด็ก .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ