สมาคมนักข่าวฯ 13 พ.ย.- “อภิสิทธิ์” เรียกร้องนายกฯ แสดงความจริงใจแก้รัฐธรรมนูญ บอกให้ส.ว.ยกมือผ่าน ก็จะทำให้ประเทศมีทางออก “คุณหญิงสุดารัตน์” ให้นายกฯ เสียสละลาออก เลือกตั้งใหม่ปลายปี 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (P-Net) และ 30 องค์กรประชาธิปไตย ร่วมจัดเวทีประชุมทางการเมือง หัวข้อ “บทบาทรัฐสภาในการโหวตแก้รัฐธรรมนูญ 7 ญัตติ กับจุดเปลี่ยนประเทศไทย”
นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ประธาน ครป.กล่าวว่า กลุ่มที่เป็นจุดชี้ขาดอนาคต คือ ส.ว.ทั้ง 250 คน ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มอำนาจและชนชั้น เป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ในสังคมที่ถูกถ่ายทอดอำนาจจากคนบางกลุ่ม เพื่อเข้ามาทำงานในรัฐสภาฯ วันนี้ หากไม่ลดทอนอำนาจของ ส.ว. ก็จะทำให้ปัญหาของการแก้รัฐธรรมนูญไม่บรรลุ และความขัดแย้งในสังคมเพิ่มมากขึ้น
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมาร่วมครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการบริหารพรรคประชาธิปัตย์แต่มาในนามส่วนตัว และแม้จะมีชื่อตกเป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่ แต่เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ กำหนดข้อกฏหมายที่จะทำให้หลุดจากแคนดิเดตนายกฯได้นั้น จะต้องล้มละลาย ตาย และติดโทษคดียาเสพติด ซึ่งตนยังไม่พร้อมทั้ง 3 สถานะ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากยังจำกันได้เมื่อปี 2559 ตนออกมาคัดค้านไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยเฉพาะหมวดหมู่เรื่องสิทธิเสรีภาพที่ถูกริดรอน แม้จะอ้างว่า เป็นฉบับปราบโกง แต่กลไกทั้งหมดโน้มเอียง อ่อนแอ ไม่เป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากลอย่างที่เคยกล่าวอ้างไว้ และตนไม่เคยสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตอนนั้นถูกเสนอชื่อเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯ จนที่สุดก็ได้มาเป็น นายกฯ เพราะพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นศูนย์รวมของความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นหลังประเทศมีประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ตนค้านก็เป็นจริง ไม่ผิดอย่างที่เคยบอกไว้ในวันนั้น และเมื่อวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นต้นตอของความขัดแย้งก็ควรจะแสดงความรับผิดชอบ แสดงจุดยืนที่ชัดเจนด้วยความจริงใจต่อการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 7 ฉบับ ซึ่งจะเป็นเรื่องง่ายและได้รับเสียงสนับสนุนในรัฐสภา หากพล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นยืนพูดต่อหน้าทุกคน แล้วขอให้ ส.ว.ยกมือให้รัฐธรรมนูญผ่าน เท่านี้ก็จะทำให้ประเทศหาทางออกได้ แม้จะยืนยันว่าจะไม่ลาออกก็ตาม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าพลเอกประยุทธ์ไม่ลาออกก็จะทำให้การเผชิญของกลุ่มที่คัดค้านกลับมาสร้างบรรยากาศที่ตึงเครียด จนท้ายที่สุดทำให้ประเทศไทยหาทางออกไม่ได้กลับไปใช้ทางออกเดิม
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ุ ประธานผู้ก่อตั้งสถาบันสร้างไทย กล่าวว่า วันนี้ความความขัดแย้งทั้งหมดจะยุติได้ หากพล.อ.ประยุทธ์ มีความจริงใจและเสียสละครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการลาออก เพราะหากดึงดัน ไม่รับข้อเสนอของฝ่ายที่เห็นต่างก็จะทำให้สถานการณ์ดิ่งลงมากกว่านี้ ส่วนการประชุมรัฐสภา วันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ จะถือเป็นการชี้ชะตาและพิสูจน์ความจริงใจของพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมย้ำข้อเสนอ บันได 3 ขั้นเลือกตั้งใหม่ภายในปลายปี 2564
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว. ในฐานะสมาชิกรัฐสภาที่จะร่วมโหวตนั้น กล่าวว่า เชื่อว่า จะมีร่างฯที่จะความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระรับหลักการ เช่น ร่างแก้มาตรา 256 ของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยส่วนตัว อยากรับร่างรัฐธรรมนูญของไอลอว์ เพราะเห็นว่า มีวัตกรรมการตั้ง ส.ส.ร. แต่ยังติดใจในหลายประเด็น เช่น การให้ ส.ว.พ้นจากตำแหน่งทันที ทำให้ยังไม่สามารถที่จะโหวตรับร่างของไอลอว์ได้.-สำนักข่าวไทย