กทม.29 พ.ค.- รองโฆษก อสส.พฤติกรรมเข้าข่ายแจ้งข้อหา”ค้ามนุษย์” และข้อหา รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ กรณี น.ส.ปุ๊ก
จากกรณีนางสาวปุ๊ก อายุ 29 ปี ถูกตำรวจกองปราบปราม จับกุมจากการโพสต์ข้อความพร้อมภาพบนเพจเฟซบุ๊ค ขอความช่วยเหลือบริจาคเงินและสั่งซื้อสินค้า เนื่องจากจำเป็นต้องนำเงินไปรักษาลูกสาวคนโตอายุ 4 ขวบ ป่วยเป็นโรคประหลาดก่อนที่จะเสียชีวิตเมื่อเดือนสิงหาคม 2562 และต่อมานางสาวปุ๊ก ก็อ้างว่าลูกชายคนเล็กอายุ 3 ขวบ ป่วยด้วยโรคพันธุกรรมแบบเดียวกัน แต่เมื่อแพทย์ตรวจสอบอาการเด็กแล้วพบพิรุธว่าอาจถูกสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายร่างกาย ขณะที่นางสาวปุ๊ก กลับได้เงินช่วยเหลือไปร่วม 20 ล้านบาท และเบื้องต้นถูกตั้งข้อหา “รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อ, ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย, ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและฉ้อโกงประชาชนนั้น
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ทำความเข้าใจในข้อหา“รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ” ว่า เป็นการแจ้งข้อหาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎขั้นแรกตามที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นข้อหาตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเพื่อให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการนำตัวเด็กออกมาจากสภาพแวดล้อมที่อันตราย และให้อำนาจหน่วยงานที่รับผิดชอบมีเวลาในการสืบสวนสอบสวน ไม่ใช่การแจ้งข้อหาในฐานความผิดค้ามนุษย์ ส่วนประเด็นข้อหาค้ามนุษย์ โดยหลักต้องเข้าข่าย นำบุคคลมาเพื่อการขายอวัยวะ ผลิตสื่อลามกอนาจาร ให้บังคับขอทาน และนำมาเป็นทาส ซึ่งกรณีนี้อาจเป็นการนำมาขอทานหรือไม่ พนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และชี้ให้เห็นว่า พฤติกรรมของนางสาวปุ๊ก นำเด็กมาขอทานอย่างไร ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ต้องใช้พยานหลักฐานที่เป็นนิติวิทยาศาสตร์ เป็นตัวนำในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยต้องเชื่อมโยงให้เห็นว่า การเสียชีวิตของเด็กคนแรกและการได้รับบาดเจ็บสาหัสของเด็กคนที่สอง มีสารใดบ้างในร่างกาย เพื่อชี้ให้เห็นพฤติกรรมของนางสาวปุ๊ก ที่อาจเข้าข่ายฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หรือ ฆ่าโดยการทารุณโหดร้าย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต ทั้งนี้ทางอัยการ ขอยืนยันว่า ไม่สามารถก้าวล่วงการทำงานของพนักงานสอบสวน และเชื่อว่าพนักงานสอบสวนทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุด และอัยการก็จะทำหน้าที่พิจารณาให้ความเห็นทางคดี ตามสำนวนที่พนักงานสอบสวนส่งมาอย่างดีที่สุดเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย
