กทม.29 พ.ค.-ศาลสมุทรปราการ แก้เรือนจำพื้นที่ไม่พอจัด “คุ้มครองสิทธิสัญจร คดีเสร็จไว ต้านภัยโควิด” ให้ผู้พิพากษา สอบคำให้การ-ให้คำแนะนำด้าน กฎหมายผู้ต้องหา-จำเลย ช่วงพิษโควิด-19
นายณรัช อิ่มสุขศรี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า วันนี้ศาลจังหวัดสมุทรปราการร่วมกับเรือนจำกลางสมุทรปราการ จัดโครงการคุ้มครองสิทธิสัญจร ต้านภัยโควิด-19 สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และประธานศาลฎีกาได้ออกคำแนะนำให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศปฎิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากรของศาลและคู่ความ รวมทั้งลดจำนวนคนเข้ามาศาลเพื่อเลี่ยงการติดเชื้อภายใต้หลักการ Social Distancing อีกทั้งตามแนวปฏิบัติของคณะอนุกรรมการบริหารจัดการคดีภายใต้สถานการณ์โรคระบาดดังกล่าวแนะนำให้ใช้ระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพ (Conference) ระหว่างศาลกับเรือนจำโดยไม่จำต้องให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำผู้ต้องหาและจำเลยมาศาล แต่ด้วยปัญหาเกี่ยวกับระบบสื่อสารทางไกลผ่านจอภาพระหว่างศาลจังหวัดสมุทรปราการ กับเรือนจำกลางสมุทรปราการ มีเพียง 1 ช่องทาง แต่มีภารกิจที่จำเป็นต้องใช้ระบบดังกล่าวเกือบ 100 คดีต่อวัน เช่น ฝากขังผู้ต้องหา, สอบคำให้การจำเลย , อ่านคำพิพากษา , อ่านคำสั่งประกันตัว ทำให้เกิดข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้ระบบ และเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19ทำให้คดีที่นัดพิจารณาช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.63 ต้องเลื่อนไปจำนวนมาก โดยเฉพาะคดีที่จำเลยไม่ได้รับการปล่อยชั่วคราวย่อมได้รับผลกระทบในเรื่องสิทธิเสรีภาพอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ ศาลจังหวัดสมุทรปราการ เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาจึงทำความร่วมมือกับเรือนจำกลางสมุทรปราการ จัด”โครงการคุ้มครองสิทธิสัญจร ต้านภัยโควิด-19” ขึ้น ภายใต้สโลแกน “คุ้มครองสิทธิสัญจร คดีเสร็จไว ต้านภัยโควิด”
จากยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ.2561-2564 ยุทธศาสตร์ E สนับสนุนการอำนวยความยุติธรรมให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับนโยบายประธานศาลฎีกา พ.ศ.2562-2563 ด้านการยกระดับขั้นพื้นฐานการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาหรือจำเลย ในการดำเนินโครงการคุ้มครองสิทธิสัญจร ต้านภัยโควิด-19 ผู้พิพากษาประจำศูนย์คุ้มครองสิทธิฯ ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ จะเป็นฝ่ายเดินทางไปยังเรือนจำกลางสมุทรปราการเพื่ออ่านอธิบายฟ้องและให้คำแนะนำด้านกฎหมายแก่จำเลยที่คดีค้างพิจารณา ภายใต้กรอบเท่าที่จะทำได้ โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไม่จำต้องพาจำเลยซึ่งมีจำนวนมากมาศาล ทั้งนี้เรือนจำกลางสมุทรปราการ จะจัดสถานที่ที่เหมาะสมและปลอดภัยรองรับการปฎิบัติหน้าที่ดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย
