สุราษฎร์ธานี 23 พ.ค.-คืบคดีชาวบ้านล้อมรถ 3 ตำรวจนอกรีดเรียกเงิน 5 ล้าน “บังหมัด” พ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครง วันนี้ บังหมัดให้ปากคำพนักงานสอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานีเพิ่มเติม ก่อนนำชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำให้การ ด้านผู้การฯ เผย จะเร่งสรุปการสอบปากคำส่ง ปปช.ชี้มูลความผิด
จากกรณี 3 ตำรวจสังกัดกองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 8 บุกจับลูกหอยแครงพร้อมใช้อาวุธปืนจี้บังคับเรียก 5 ล้านบาทจากนายอนุชา บินมุซา หรือบังหมัด บินมูซาฟาร์ม ชาวประมงพื้นบ้าน และเป็นพ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงด้วยกัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการไม่ถูกดำเนินคดีจนสร้างความไม่พอใจ แก่ชาวบ้านชุมชนบางสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ถูกชาวบ้านปิดล้อม เหตุเกิดวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้นายอนุชาหรือบังหมัดผู้เสียหาย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม กับพนักงานสอบสวนที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี นาน 4 ชั่วโมง โดยมี พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้าทีมพนักงานสอบสวน ก่อนจะพานายอนุชา หรือ บังหมัด ไปนำชี้จุดถูกจับหอยแครง ก่อนถูกปืนจี้บังคับรีดเงิน 5 ล้านบาท เพื่อประกอบ สำนวนคดี นานประมาณ 15 นาที
ขณะที่ พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนยังได้สอบปากคำพยาน อีก 4 ปาก โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจ.สุราษฎร์ธานี ผู้ที่ชาวประมงให้ความนับถือเป็นผู้เคลียร์เหตุการณ์ในวันเกิดเหตุรวมอยู่ด้วย ที่เหลือเป็นกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/ผู้นำชุมชน ต.ท่าทองใหม่และชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และจะเร่งสอบปากคำผู้เสียหายและพยานให้เร็วที่สุด
จากนั้นส่งสำนวนการสอบปากคำให้ ปปช.ชี้มูล เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการตำรวจ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาอาจจะอยู่ที่ ปปช. อาจจะสั่งฟ้องศาลเอง หรือส่งกลับมาให้ตำรวจแจ้งคดีอาญาก็ได้สามารถทำได้ทั้ง 2 ทาง แต่คิดว่า ปปช. น่าจะดำเนินการเองเพื่อไม่เป็นที่ครหาต่อสังคม ส่วนรถที่ 3 ตำรวจใช้ตรวจสอบแล้วไม่ใช่ของกำนันในพื้นที่จ.สุราษฎร์ธานีเป็นญาติของตำรวจ.-สำนักข่าวไทย