fbpx

“สันติ” สั่งเอ็กซิมแบงก์ปรับกลยุทธ์ หนุนผู้ส่งออกเจาะตลาดใหม่รายประเทศ

กรุงเทพฯ  20 พ.ค. – รมช.คลังกำชับเอ็กซิมแบงก์เร่งสำรวจตลาดใหม่เอื้อผู้ส่งออก แนะประสานทูตพาณิชย์ชี้ช่องทางขยายตลาด เช็คสินค้ารายประเทศที่ขาดแคลน พร้อมให้เอ็กซิมแบงก์อุ้มผู้ส่งออกลดผลกระทบจากปัญหาโควิด-19  


นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังผู้บริหารธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK รายงานผลการดำเนินงาน ว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหาร EXIM BANK วางกลยุทธ์เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ส่งออก ให้ครอบคลุมธุรกิจทุกรูปแบบ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็ก สตาร์ทอัพ และธุรกิจขนาดกลาง ทั้งด้านการให้เครดิต การหาช่องทางการค้าขาย การขยายตลาดใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการส่งออกทำธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้มากขึ้น   

ดังนั้น ได้เร่งให้เอ็กซิมแบงก์ไปจัดทำฐานข้อมูลรายประเทศและรวบรวมเป็นสถิติ พร้อมจัดทำการประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด- 19 เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนให้กับผู้ประกอบการ สามารถนำไปพิจารณาช่องทางการทำตลาดของสินค้า เพื่อการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้คล่องตัวมากขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้เอ็กซิมแบงก์พิจารณาการสนับสนุนด้านสินเชื่อ ธุรกรรมการเงินที่เกี่ยวข้อง ทั้งประกันการส่งออก และ Letter of Credit หรือ LC ภายใต้ภารกิจของธนาคารที่เป็นส่วนสำคัญของการขยายตลาดส่งออกของไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หลังจากที่ต้องประสบปัญหาการชะลอตัวของภาคการส่งออกในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ เอ็กซิมแบงก์ไม่ควรทำหน้าที่เพียงแค่ปล่อยสินเชื่อหรือค้ำประกันการส่งออกเพียงอย่างเดียว ควรจะต้องทำหน้าที่ในการเจาะตลาด หาตลาด หรือแหล่งข้อมูลใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ส่งออกมีช่องทางในการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น 


“อยากให้เอ็กซิมแบงก์ไปสำรวจภารกิจตัวเอง โดยต้องทำหน้าที่มากกว่าการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ไม่เช่นนั้นก็เหมือนกับสถาบันการเงินทั่วไป ไม่ใช่ธนาคารเพื่อการส่งออก เอ็กซิมแบงก์ต้องสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ ทั้งด้านการค้ำประกัน การสอดส่องดูแลว่าประเทศที่เป็นคู่ค้าของเรามีความน่าเชื่อถือหรือไม่อย่างไร โดยประสานกับทูตพาณิชย์ดูว่าประเทศนั้น ขาดแคลนหรือต้องการสินค้าประเภทไหน บางสินค้าผู้ประกอบการไทยก็สามารถผลิตได้ เพียงแต่ผู้ประกอบการไม่รู้  ดังนั้น อาจจะต้องประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไหนขาดแคลนอะไร  เพื่อที่ผู้ประกอบการไทยจะได้หาช่องทางส่งออกไป มองว่าสิ่งเหล่านี้คือภารกิจที่สำคัญของเอ็กซิมแบงก์” นายสันติ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากรัฐบาลปลดล็อกการเดินทาง คาดว่าทุกคนจะมุ่งออกไปหาตลาด ทำให้การแข่งขันสูงในช่วงนี้จะมีมาตรการสนับสนุนอย่างไร เช่น ด้านเงินทุนอาจจะปล่อยกู้ไม่คิดดอกเบี้ย หรือในด้านการตลาดก็ประสานกับทูตพาณิชย์แต่ละประเทศ ดูว่าสินค้าอะไร เซ็กเตอร์ไหนที่มีโอกาส  อาจจะจัดสัมมนาให้กับสมาคมผู้ประกอบการ โดยเชิญทูตพาณิชย์มาให้ข้อมูล หากต้องการเงินทุนก็เติมให้  สิ่งเหล่านี้จะทำให้เอ็กซิมแบงก์ เป็นคำตอบในการที่จะรีสตาร์ทการส่งออกที่ได้ชะงักไป ให้กลับมาได้ และทำให้เอ็กซิมแบงก์เป็นองค์กรหนึ่งที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

คดีสะเทือนขวัญ ฆ่าหั่นศพ “ยากูซ่า” จ.นนทบุรี

คดีสะเทือนขวัญ พบชิ้นส่วนมือ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ล่าสุดตำรวจจับกุมหนึ่งในผู้ต้องหาได้แล้ว และทราบว่าทั้งผู้ตายและผู้ลงมือฆ่าหั่นศพ เป็นแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่น

ชาวบ้านร้องโรงงานเก็บสารเคมีเร่งเยียวยาเหตุไฟไหม้

ชาวบ้านที่เดือดร้อนจากเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม จ.ระยอง เรียกร้องโรงงานช่วยเหลือ บอกน้ำสักขวดก็ไม่ได้

แบงก์ชาติ​ส่งหนังสือให้ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำสะดุด

ปลัดคลัง ระบุแบงก์ชาติ​ส่งหนังสือถึง ครม.ทบทวนดิจิทัลวอลเล็ต​​ ไม่ทำให้สะดุด ชี้เป็นข้อเสนอเก่า​​ เดินหน้าตามแผนเดิม​ 

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา เริ่มมีสัญญาณที่ดี-การสู้รบเงียบสงบ

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังการสู้รบเงียบสงบเกินกว่า 24 ชั่วโมง คาดมีการเจรจากันของกลุ่มต่อต้านและทางการเมียนมา หยุดยิงชั่วคราวเพื่อลดผลกระทบ