นนทบุรี 21 ก.ย. – พาณิชย์ปรับกลยุทธ์ส่งออกสร้างรายได้ ขอคนพาณิชย์ต้องทุ่มเท แม้วิกฤติโควิด-19 สงครามการค้าและค่าเงินบาทให้ถือเป็นโอกาสส่งออกไทย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ปรับยุทธศาสตร์ภายใต้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 สงครามการค้าและค่าเงินบาท โดยต้องบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้ความร่วมมือกับทุกกระทรวงเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยการส่งออกของไทยเดือนกรกฎาคม 2563 ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังผ่านจุดต่ำสุดในเดือนมิถุนายน 2563 สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกที่หดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้านี้ จึงคาดว่าการส่งออกของไทยจะสามารถฟื้นตัวได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ ได้ให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์สู่ช่องทางออนไลน์และไฮบริด (Hybrid Exhibition) คือควบคู่กันมากขึ้น โดยปรับรูปแบบงานแสดงสินค้านานาชาติและจัดกิจกรรมคู่ขนานทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ปรับรูปแบบการจัดคณะผู้แทนการค้า (Trade mission) และจัดงานแสดงสินค้าไทยในต่างประเทศสู่รูปแบบใหม่โดยการส่งตัวอย่างสินค้าพร้อมเอกสารอิเล็กทรอนิกส์และโบรชัวร์รายการสินค้าให้ทูตพาณิชย์เป็นเซลล์แมนประเทศไทยนำไปจัดแสดงแทน พร้อมมีการติดระบบเจรจาออนไลน์
นอกจากนี้ ยังเน้นให้ทุกภาคส่วนของกระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์ร่วมกับผู้นำเข้าและห้างโมเดิร์นเทรดใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของต่างประเทศให้เกิดประโยชน์ระหว่างนี้ และผลักดันสินค้าไทยผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน และจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business matching ) ทุกระยะ โดยใช้การเจรจาช่องทางออนไลน์ เพื่อหาออเดอร์ส่งออก นอกจากนี้ ยังปรับรูปแบบการอบรมสัมมนาสู่ช่องทางออนไลน์โดยผ่าน Facebook Live ,Webinar, Edutainment, e-Learning ,Zoom conference เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงองค์ความรู้สะดวกรวดเร็ว ลดการเดินทางสอดรับกับวิถีชีวิตยุคใหม่ และจากมูลค่าการส่งออกติดลบในช่วงปี 2556-2558 ซึ่งตอนนั้นมีปัจจัยลบกระทบต่อการส่งออกไทย เช่น ค่าเงินบาทแข็งค่า รวมทั้งเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติซับไพร์ม ทำให้เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญชะลอตัว เช่น ญี่ปุ่น จีน และภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรตลาดโลกปรับลดลง ส่วนปี 2559 -2561 การส่งออกของไทยกลับมาเป็นบวก โดยขยายตัวระดับสูงในปี 2560 ถึงร้อยละ 6.03 แต่ผลกระทบสงครามการค้าที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2561 ทำให้การส่งออกของไทยปี 2561 ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.27 และต่อมาก็ติดลบในปี 2562 ร้อยละ 5.92
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งอยู่ในมือของรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่าการส่งออกมีสัญญาณฟื้นตัวและครึ่งปีหลังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้นำทีมเอกชนเดินทางขายสินค้าไทยไปทั่วโลกในบทบาทเซลล์แมนประเทศไทย เพื่อผลักดันการส่งออกผ่านการทำข้อตกลงและกิจกรรมขยายตลาดต่างประเทศ รวมมูลค่า 94,822 ล้านบาท ระหว่างนี้กำลังติดตามเร่งรัดการส่งมอบสินค้า ซึ่งเดินหน้าเกือบครึ่ง แต่เมื่อต้นปี 2563 ทั่วโลกต่างประสบปัญหาการระบาดของโควิด-19 และได้รับผลกระทบต่อการค้าและการส่งออกเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก และควรพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส สำหรับประเทศไทยควรปรับกลยุทธ์และปรับทัพของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ทุกคนต้องทุ่มเทหนักมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การส่งออกของไทยปรับตัวดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย