ครม. รับทราบผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงาน Work From Home

ทำเนียบฯ19 พ.ค.- ครม. รับทราบผลสัมฤทธิ์การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ของส่วนราชการ พบร้อยละ 100 มีการมอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่บ้าน


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) ของ 140 ส่วนราชการพบ ร้อยละ 100  มอบหมายงานให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่บ้านและมีการเหลื่อมเวลาทำงานในสถานที่ราชการ เว้นงานบริการประชาชนและงานรักษาพยาบาล  ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ลดความแออัดและลดความเสี่ยงในการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุม ครม.วันนี้  สำนักงาน ก.พ. ได้เสนอรายงานผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง (Work From Home) และการเหลื่อมเวลาในการทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการ รายสัปดาห์ ครั้งที่ 1  โดยพบว่า ทั้ง 140 ส่วนราชการมีการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง ซึ่งครบร้อยละ 100 โดยกำหนดให้ร้อยละ 50 ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานนอกสถานที่ในหลายรูปแบบต่าง ๆ เช่น การทำงานที่บ้านสลับกับมาทำงานที่ส่วนราชการ  ในส่วนการเหลื่อมเวลาทำงานในสถานที่ตั้งของส่วนราชการนั้น พบว่ามีการเลือกใช้การเหลื่อมเวลาการปฏิบัติงานตั้งแต่เวลา 07.30-15.30 น.  เวลา 08.30 -16.30 น. หรือเวลา 06.00 – 14.00 น. เวลา 14.00 – 22.00 น. เวลา 22.00 – 06.00 น. เช่น กรมประมง กรมทางหลวง เป็นต้น 


นางนฤมล กล่าวว่า ยังคงมีส่วนราชการมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทำงานในสถานที่ตั้งตามวันเวลาปกติ ในงานที่มีความจำเป็น เช่น งานให้บริการประชาชน งานรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล งานตามนโยบายเร่งด่วนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมทั้งบางตำแหน่ง เช่น ผู้บริหารระดับสูง ผู้อำนวยการสำนัก/กอง เป็นต้น 

ทั้งนี้ ยังพบว่าได้มีการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการทำงาน อาทิ การลงเวลาผ่านระบบออนไลน์ การประสานงานผ่าน Application LINE Zoom  Microsoft Team  Cisco Webex และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม หลายที่ยังคงมีข้อจำกัด ทั้งขาดอุปกรณ์ในการปฏิบัติงาน  สัญญาณเครือข่ายอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ขาดความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการปฏิบัติงาน และงานบางประเภทไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งได้ เช่น งานให้บริการประชาชน งานรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล งานในห้องปฏิบัติการ งานภัยพิบัติและสถานการณ์ฉุกเฉิน งานความลับ เป็นต้น  

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดังนั้นสำนักงาน ก.พ. จึงได้เสนอแนะการปฏิบัติงานใน-นอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ ได้แก่ การจัดให้มีอุปกรณ์หรือการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่บ้าน เช่น ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ต้องมีการป้องกันและรักษาความปลอดภัยด้านสุขภาพและชีวิตให้แก่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติราชการในสถานที่ตั้งอย่างเหมาะสม เช่น จุดคัดกรองโดยมีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ และเตรียมน้ำยาล้างมือฆ่าเชื้อโรค กำหนดระยะห่างของผู้ปฏิบัติงาน เป็นต้น  โดยหัวใจสำคัญของการบริหารที่ส่วนราชการยังคงเน้นประสิทธิภาพในการทำงานทั้งในและนอกสถานที่ตั้ง ให้บรรลุผลตามเป้าหมายและคุณภาพของการทำงานและการให้บริการต้องไม่ลดลง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท