กรุงเทพ ฯ 19 พ.ค. – บล.ทิสโก้เปิดตัวเลขกำไรไตรมาส 1/2563 รวม 1.09 แสนล้านบาท ลดลง 58% เมื่อเทียบกับปีก่อน ชี้ราคาหุ้นปัจจุบันใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว ทำให้โอกาสปรับขึ้นต่อเหลือน้อย
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า จากการรวบรวมผลกำไรสุทธิบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 1/2563 จำนวน 113 บริษัทพบว่า มีกำไรสุทธิรวมอยู่ที่ 78,700 ล้านบาท ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดโดยรวม ที่มองไว้ที่ 1.11 แสนล้านบาท ทำให้ นักวิเคราะห์ในตลาดเริ่มปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยทั้งปี 2563 ลงประมาณ 5.2% เหลือ 69.70 บาทต่อหุ้น และปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยปี 2564 ลง 3.3% เหลือ 85.60 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้ระดับการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของดัชนีหุ้นไทยในแต่ละไตรมาสถูกปรับลงเช่นกัน ทำให้ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยมีโอกาสการปรับขึ้นของดัชนี (Upside) ที่จำกัด และถึงแม้ปัจจุบันดัชนีหุ้นไทยจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยจากสิ้นเดือนเมษายน แต่ระดับการประเมินมูลค่าหุ้นไทยกลับตึงตัวมากขึ้นจากประมาณการกำไรของตลาดที่ถูกปรับลง ส่งผลให้อัตราราคาต่อกำไรล่วงหน้า 12 เดือน ของหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.5 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 16.6 เท่า ซึ่งระดับราคาที่สูงเช่นนี้อาจดูไม่สมเหตุสมผลท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวรุนแรงและสถานการณ์ไม่แน่นอนในต่างประเทศ ดังนั้น บล.ทิสโก้จึงยังคงมุมมองการลงทุนช่วงนี้แค่เลือกเทรดดิ้งสั้นๆ ในกรอบ 1,270-1,330 จุด โดยใช้กลยุทธ์ลงซื้อ-ขึ้นขาย
อย่างไรก็ตาม บล.ทิสโก้ได้รวบรวมผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 1/2563 มีกำไรสุทธิรวม 1.09 แสนล้านบาท ทรุดตัวแรง 58% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง 50% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2562 เนื่องจากถูกกดดันจากผลประกอบการของกลุ่มพลังงาน ที่พลิกขาดทุนสุทธิ 20,000 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ที่ขาดทุนสุทธิ 6,840 ล้านบาท เนื่องจากมีผลขาดทุนสต็อกน้ำมันเป็นจำนวนมาก และมีผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาท
สำหรับธีมหุ้นที่น่าสนใจระยะสั้น ดังนี้ 1. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการทยอยผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และราคายังมีโอกาสปรับขึ้น คือ CPALL, HMPRO, BEM และ BTS 2. หุ้นที่งบดีกว่าคาด ตลาดมีโอกาสปรับประมาณการกำไรและเป้าหมายราคาหุ้นขึ้น คือ CBG, COTTO, CPF, GLOBAL, LPH, PYLON, SMPC และ SYNEX 3. หุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 2 น่าจะดีขึ้น จากไตรมาส 1 คือ AP, PRM, PTTEP, TASCO, และ TWPC 4. หุ้นเข้า MSCI แนะนำ BAM และหุ้นเก็งเข้า SET50 / SET100 คือ TTW / ACE, TVO และ WHAUP ตามลำดับ.-สำนักข่าวไทย