ศบค. เผยพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย

ทำเนียบฯ 18 พ.ค.- ศบค. เผยผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ขณะที่กลุ่มกิจการที่เปิดให้บริการ ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรการร้อยละ 90 ขึ้นไป ขณะที่ ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไทยชนะ แล้ว 46,744 ร้านค้า โดยมีผู้ใช้บริการกว่า 2 ล้านคน


นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้ (18 พ.ค.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,031 ราย รักษาหาย 2,857 ราย รักษาอยู่ 118 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 56 ราย 

ผู้ป่วยใหม่ 3 ราย รายแรกเป็นหญิงไทย อายุ 29 ปี มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ในที่ทำงานกรุงเทพมหานคร โดยเริ่มป่วยด้วยอาการถ่ายเหลว และตรวจหาเชื้อเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม และรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี


รายที่สองเป็นชายไทยอายุ 55 ปี ประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันในที่ทำงานเดียวกันกับผู้ป่วยรายแรก และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ 15 พฤษภาคมและรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกับผู้ป่วยรายแรก 

รายที่สาม เป็นหญิงไทย อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต อาชีพพนักงานขายสินค้า มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเข้ารับการตรวจหาเชื้อ 15 พฤษภาคม และรักษาตัวต่อที่จังหวัดภูเก็ต ขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ 1 มีนาคมถึง 17 พฤษภาคม พบจำนวน 14 ราย โดยเป็นหญิงมากกว่าชาย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่สถานบันเทิง ร้านนวด ร้านอาหาร โรงแรม

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า สถานการณ์โลกพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4,801,875 ราย เสียชีวิต 316,671 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,527,664 ราย ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่  70 ของโลก ส่วนประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีของอิตาลีแถลงว่าการผ่อนปรนมาตรการปิดเมืองและกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง อาจเสี่ยงต่อการเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่สอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องยอมรับหากเกิดขึ้น ทั้งนี้อิตาลีเตรียมอนุญาตให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานเสริมความงาม และพิพิธภัณฑ์เปิดทำการวันพรุ่งนี้  ส่วนอินเดียขยายเวลาล็อกดาวน์ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม เนื่องจากมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 90,000 ราย  


โฆษก ศบค. กล่าวว่า ด้านผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคของเกาหลีใต้ระบุว่าการหย่อนวินัยเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโควิด-19  ทั้งนี้ที่กรุงโซลและเมืองอินชอนได้บังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยทุกคนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะและเมืองแทกูให้ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน ถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัย จะปรับสูงสุด 50,000 บาท นอกจากนี้ในกรุงโซลยังคงปิดสถานบันเทิงทุกแห่ง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดจากการเที่ยวผับย่านอิแทวอน โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อจากเคสนี้รวม 168 รายแล้ว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า การสรุปผลการเฝ้าระวังตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการสำรวจ 6 กลุ่มกิจการ ทั้งตลาด ร้านอาหาร  ซุปเปอร์มาร์เก็ต สวนสาธารณะ ร้านเสริมสวย ร้านตัดขนสัตว์ ระหว่าง 7-15 พฤษภาคม จำนวน 2375 แห่งทั่วประเทศ พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 90 ขึ้นไปปฏิบัติตามมาตรการ โดย สถานประกอบการ เจ้าของตลาด ผู้ซื้อและผู้บริโภค สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ใช้บริการ และผู้ค้า ผู้สัมผัสอาหาร ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังปฏิบัติงาน  รวมถึงมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และทำความสะอาดสถานที่เป็นประจำ ทั้งก่อนและหลังเปิดให้บริการ 

โฆษก ศบค. กล่าวว่า มาตรการที่ควรเน้นย้ำ คือการกำหนดจำนวนคนต่อพื้นที่ ระยะเวลาการใช้บริการ การทำความสะอาดห้องน้ำ และจุดเสี่ยงต่าง ๆ  อีกทั้งผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยและใส่แผ่นครอบหน้าและมีเสื้อคลุมที่สะอาดอยู่ตลอดเวลา รวมถึงทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ด้วย

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ภายหลังมีการเปิดแพลตฟอร์มไทยชนะ โดยให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่าน www.ไทยชนะ.com วานนี้ (17 พ.ค.) เป็นวันแรก พบว่า ตลอดทั้งวันจนถึงเวลา 20.00 น. มีจำนวนร้านค้าที่ลงทะเบียน 44,386 ร้านค้า จำนวนผู้ใช้งาน 2,002,897 คน จำนวนการเข้าใช้งานด้วยการเช็คอิน 2,658,754 คน เช็คเอาท์ 1,845,191 คน และมีผู้ประเมินร้านค้า 1,258,261 คน 

จังหวัดที่ผู้ให้บริการลงทะเบียนสูงสุด ได้แก่กรุงเทพมหานคร 14,187 ร้าน ชลบุรี 2,819 ร้าน นนทบุรี 2,457 ร้าน สมุทรปราการ 1,934 ร้าน และ ปทุมธานี 1,686 ร้าน ทั้งนี้พบว่าการลงทะเบียนส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการในห้างสรรพสินค้ามากที่สุด รองลงมาคือ ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต และการจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค 

ขณะที่ประชาชนเข้าใช้บริการที่ห้างสรรพสินค้ามากที่สุด รองลงมาคือซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารเครื่องดื่ม ศูนย์อาหาร การจำหน่ายสินค้าเพื่อการอุปโภคผู้บริโภค และร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม และเมื่อใช้บริการเสร็จสิ้นได้มีการประเมินร้านค้าโดยส่วนใหญ่ให้คะแนนอยู่ในระดับที่ดี

ส่วนข้อมูลล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค.) เวลา 06.00 น. มีจำนวนร้านค้าลงทะเบียน 46,744 ร้านและจำนวนผู้ใช้บริการ 2,725,877 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]