แม่ลูกอ่อนร้องคดีสามีถูกรถลูกตำรวจชนดับไม่คืบหน้า หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม

กรุงเทพฯ 15 พ.ค.- แม่ลูกอ่อน เข้าติดตามความคืบหน้า เหตุสามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถคู่กรณีขับชนด้วยความเร็วสูง แต่คดีไม่คืบหน้า เกรงไม่ได้รับความเป็นธรรม คู่กรณีเป็นลูกชายตำรวจ 


นางสาวจารุเนตร รอดประเสริฐ พร้อมลูกสาว 2 คน อายุ 9 ขวบ และ 1 ขวบ 8 เดือน เข้าติดตามความคืบหน้า กรณีสามีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถูกรถยนต์กระบะคู่กรณี วิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนท้ายรถจักรยานยนต์ของสามีเสียชีวิตขณะกำลังเปลี่ยนวิ่งเลนขวา เหตุเกิดปากซอยเอกชัย 54 เขตบางบอน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 62  แต่คดีไม่มีความคืบหน้า

นางสาวจารุเนตร บอกว่า หลังจากสามีเสียชีวิต ตนเองและลูก ต้องอยู่กันด้วยความยากลำบาก เพราะสามีเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ตนก็ไม่ได้ประกอบอาชีพเพราะต้องดูแลลูกเล็ก ส่วนเรื่องของคดี นอกจากครั้งล่าสุดที่มีการนัดเจรจากับคู่กรณีและบริษัทประกันภัย ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้เรียกร้องเงินเยียวยาจำนวน 1 ล้านบาทไป ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากทางคู่กรณีและตำรวจเจ้าของคดี ส่วนที่ตนเรียกร้องเงินจำนวนดังกล่าว เพราะมองว่าเป็นการสูญเสียที่ทำให้ครอบครัวตนเองได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก


ซึ่งทางคู่กรณี ก็ปฏิเสธ โดยพยายามจะชี้ให้เห็นว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความประมาทร่วม ตนเองยอมรับว่าไม่มีความรู้ทางกฎหมาย แต่หลังได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วเห็นว่าคู่กรณีขับรถมาด้วยความเร็ว โดยไม่มีการเหยียบเบรค ไม่น่าจะเป็นการประมาทร่วม จึงไม่ทราบว่าเหตุใดคดีนี้จึงล่าช้า ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้สึกกังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายตำรวจ

ด้านพันตำรวจเอกวิศิษฐ์ สังขนันท์ ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน ระบุว่า ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวน สรุปข้อเท็จจริงของคดีนี้ให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานจากกองพิสูจน์หลักฐาน และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว ส่วนกรณีที่คดีมีความล่าช้า ทราบว่าเกิดจากทางบริษัทประกันภัยฝั่งคู่กรณี พยายามแย้งว่าเป็นความประมาทร่วม จะไม่ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายตามที่ผู้เสียหายเรียกร้อง แต่อย่างไรก็ตาม น่าเชื่อว่าทางฝั่งผู้เสียหายจะได้รับทราบข่าวดี ในเร็วๆ นี้   .-สำนักข่าวไทย           


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

วัดอรุณฯ เนืองแน่น นักท่องเที่ยวแห่ร่วมงานลอยกระทง

นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติแน่นวัดอรุณฯ ร่วมงานประเพณีลอยกระทง 2567 “ลอยกระทง วิถีไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” มีน้องหมูเด้ง Thai Cuteness นำนักท่องเที่ยวแต่งชุดไทยสืบสานคุณค่าวัฒนธรรม นางสาวไทย(ดินสอสี) ชวนรำวงลอยกระทง 6 ภาษา ผลักดันเทศกาลไทยสู่ World Event หมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

“เจ๊พัช” ขอโทษรัฐมนตรีน้ำ ยืนยันไม่รู้จักส่วนตัว

“กฤษอนงค์” โพสต์ขออภัยรัฐมนตรีน้ำและคุณพ่อ ปมคลิปเสียงแอบอ้าง พร้อมขอน้อมรับผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว แจงเป็นการสนทนาแนวทางส่งเสริมอาชีพเท่านั้น

“จิราพร” มอบทนายนำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิงอ้างชื่อรีดทรัพย์

ทนายความ “รมต.” นำคลิปเข้าแจ้งจับนักร้องเรียนหญิง อ้างชื่อเรียกรับเงินกลุ่ม “ดิไอคอน” ยืนยันไม่เคยรู้จักกัน

ข่าวแนะนำ

ซูเปอร์มูน

ทั่วโลกแห่ชมซูเปอร์มูนครั้งสุดท้ายของปีนี้

เมื่อคืนที่ผ่านมาผู้คนทั่วโลกมีโอกาสได้ชมดวงจันทร์ที่เรียกว่าซูเปอร์มูนซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้

หารือสีจิ้นผิง

นายกฯ หารือ “สี จิ้นผิง” ขยายความร่วมมือการค้า-ลงทุน

นายกรัฐมนตรี หารือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น พร้อมแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนสองประเทศ พร้อมอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วจากปักกิ่งประดิษฐานท้องสนามหลวง