ศบค.ยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น

ทำเนียบรัฐบาล 14 พ.ค. -ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 1 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่แสดงอาการ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยืนยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น พบร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก พร้อมนำบทเรียนเกาหลีใต้มีผู้ป่วยกลับมาพุ่งสูงขึ้นหลังผ่อนปรนเป็นกรณีศึกษา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ (14 พ.ค.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,018 ราย รักษาหาย 2,850 ราย รักษาอยู่ 112 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 56 ราย โดยผู้ป่วยใหม่ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เคยทำงานที่จังหวัดภูเก็ต โดยเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมพร้อมลูกและภรรยาเพื่อกลับเชียงใหม่ และได้รับการตรวจโรคจากเจ้าหน้าที่อสม. จังหวัดเชียงใหม่ พบติดเชื้อโควิด-19 

“ต้องวิเคราะห์ว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากเหตุใด เนื่องจากไม่มีอาการใด ๆ และเป็นคนในวัยทำงาน แต่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ถือเป็นความสามารถในการค้นหาผู้ป่วยของ อสม.ในพื้นที่ ดังนั้น ประชาชนที่ออกจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและไปในหลาย ๆ ที่ ถ้ามีอาการหรือต้องการเข้ารับการตรวจแม้จะไม่มีอาการก็ได้ ให้ไปตรวจได้ทันที เพราะการมาตรวจโดยเร็ว และถ้าพบติดเชื้อจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 19 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใน 28 วันที่ผ่านมา มี 49 จังหวัด มี 9 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด คือกรุงเทพมหานคร 1,531 ราย รองลงมาคือภูเก็ต 224 ราย และนนทบุรี 156 ราย

“ที่มีหลายคนสงสัยว่าไทยพบผู้ติดเชื้อน้อยอาจจะไปวินิจฉัยเป็นโรคอื่นหรือไม่ เช่น โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม ทางกรมควบคุมโรคได้เปิดเผยสถิติของโรคปอดอักเสบในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 9 พฤษภาคม 2563 พบว่าช่วงต้นปีมีผู้ป่วยจำนวนสูงและค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเกิดจากการรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนตัวเอง การล้างมือ ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อโรคโควิด-19 แล้ว ยังส่งผลดีกับโรคปอดอักเสบด้วย ยืนยันว่าไม่มีการซุกซ่อนตัวเลขผู้ป่วยของโควิด-19 โดยเห็นได้จากสถิติที่ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบลดลง และยืนยันว่าจะต้องดูแลผู้ป่วยทุก ๆโรคเป็นอย่างดีเช่นกัน” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4,429,223 ราย เสียชีวิต 298,165 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,430,348 ราย ส่วนในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 78,055 รองลงมาคือปากีสถานและสิงคโปร์ ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 68 ของโลก ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวผับย่านอิแทวอน เพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย ล่าสุดเกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรวมเป็น 10,991 ราย


“ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการระบาดขึ้นเป็นระลอกที่สอง หลังจากที่ทางการประกาศมาตรการผ่อนคลายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาตรการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อกว่า 10,000 คนให้มารายงานตัวและตรวจโรคกับทางการ โดยยังมีประชาชนกว่า 2,000 คนที่ยังไม่มารายงานตัว ทั้งนี้ บทเรียนจากประเทศเกาหลีใต้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีที่ไทยจะได้เตรียมความพร้อม” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการรับมือของเกาหลีใต้ คือการตรวจคัดกรองประชาชนรูปแบบการขับรถเข้ารับบริการตามจุด หรือ Drive Thru และจากที่พักอาศัย รวมทั้งให้โรงพยาบาลแยกพื้นที่สำหรับรักษาผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ และใช้แอพพลิเคชั่นติดตามสุขภาพ การเดินทางของผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัว ส่วนมาตรการผ่อนปรนของเกาหลีใต้ ให้ประชาชนดำเนินกิจการและกิจกรรมทางสังคมได้ตามปกติ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและรักษาระยะห่างทางสังคม 

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนประเทศจีนมีมาตรการการรับมือโดยกำหนดโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19โดยเฉพาะ อีกทั้งแจกใบอนุญาตเข้าออกชุมชนแบบจำกัดจำนวนในแต่ละวัน ให้ผู้นำชุมชนติดตามสถานะทางสุขภาพของลูกบ้านอย่างใกล้ชิด สแกนคิวอาร์โค้ดทุกครั้งที่เข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบันทึกประวัติสุขภาพและการเดินทาง ให้ประชาชนซื้อยาผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ส่วนมาตรการผ่อนปรนตั้งแต่ 8 เมษายน ให้สถานที่สาธารณะบางแห่งเปิดทำการได้ และเปิดการสัญจรเข้าออกมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น เพิ่มจำนวนเที่ยวรถโดยสารสาธารณะเข้าออกในกรุงปักกิ่ง และให้สถานที่ต่าง ๆ เปิดทำการ อาทิ สวนสาธารณะ ห้องสมุด สถานออกกำลังกาย ยกเว้นสระว่ายน้ำ สนามกีฬาที่มีผู้เล่นแบ่งกลุ่ม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้(14 พ.ค.) จะมีคนไทยที่ตกค้างกลับไทยจาก เยอรมนี 80 คน บังคลาเทศ 197 คน ซึ่งทั้งหมดต้องเข้ารับการกักกันในสถานที่ของรัฐทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สำหรับผู้ที่เข้ารับการกักกันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนถึง 13 พฤษภาคม 2563 มีเข้ารับการกักกันสะสม 18,139 คน ผู้เข้ากักกันปัจจุบัน 9,599 คน ผู้กลับบ้านสะสม 8,540 คน โดย 3 ประเทศที่เดินทางกลับมาสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหะสถาน 557 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน  87 ราย ขณะที่การตรวจกิจการและกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จำนวน 22,972 แห่ง ตามมาตรการหลัก 5 ข้อ คือ ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาด อย่าให้แออัด พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 21,400 แห่ง ปฏิบัติตามไม่ครบและได้รับคำแนะนำ 296 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 1.29 และมีผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.01 แต่ทั้งนี้ จากการตรวจโดยละเอียดของกระทรวงมหาดไทยในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีมาตรการเฉพาะและใช้คู่มือของกระทรวงสาธารณสุขตรวจดูในเชิงคุณภาพ  เช่น ร้านตัดผม ที่จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ พบว่าร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

ปล่อยตัว “แซม ยุรนันท์” สวมกอดครอบครัว ขอกลับบ้านก่อน

“แซม ยุรนันท์” ได้รับการปล่อยตัวแล้ว สวมกอดครอบครัวด้วยสีหน้ามีความสุข พร้อมขอบคุณสื่อมวลชนที่มาต้อนรับ ขอกลับบ้านก่อน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดีดิไอคอน ขอบคุณกระบวนการยุติธรรม

ปล่อยตัว “มิน พีชญา” หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องคดี “ดิไอคอน” เปิดใจขอบคุณกระบวนการยุติธรรมและทัณฑสถานหญิง ดูแลเป็นอย่างดี ยืนยันบริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรก พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งวันนี้ได้พิสูจน์ตนเองแล้ว

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้