ศบค.ยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น

ทำเนียบรัฐบาล 14 พ.ค. -ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 1 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่แสดงอาการ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยืนยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น พบร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก พร้อมนำบทเรียนเกาหลีใต้มีผู้ป่วยกลับมาพุ่งสูงขึ้นหลังผ่อนปรนเป็นกรณีศึกษา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ (14 พ.ค.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,018 ราย รักษาหาย 2,850 ราย รักษาอยู่ 112 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 56 ราย โดยผู้ป่วยใหม่ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เคยทำงานที่จังหวัดภูเก็ต โดยเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมพร้อมลูกและภรรยาเพื่อกลับเชียงใหม่ และได้รับการตรวจโรคจากเจ้าหน้าที่อสม. จังหวัดเชียงใหม่ พบติดเชื้อโควิด-19 

“ต้องวิเคราะห์ว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากเหตุใด เนื่องจากไม่มีอาการใด ๆ และเป็นคนในวัยทำงาน แต่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ถือเป็นความสามารถในการค้นหาผู้ป่วยของ อสม.ในพื้นที่ ดังนั้น ประชาชนที่ออกจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและไปในหลาย ๆ ที่ ถ้ามีอาการหรือต้องการเข้ารับการตรวจแม้จะไม่มีอาการก็ได้ ให้ไปตรวจได้ทันที เพราะการมาตรวจโดยเร็ว และถ้าพบติดเชื้อจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 19 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใน 28 วันที่ผ่านมา มี 49 จังหวัด มี 9 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด คือกรุงเทพมหานคร 1,531 ราย รองลงมาคือภูเก็ต 224 ราย และนนทบุรี 156 ราย

“ที่มีหลายคนสงสัยว่าไทยพบผู้ติดเชื้อน้อยอาจจะไปวินิจฉัยเป็นโรคอื่นหรือไม่ เช่น โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม ทางกรมควบคุมโรคได้เปิดเผยสถิติของโรคปอดอักเสบในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 9 พฤษภาคม 2563 พบว่าช่วงต้นปีมีผู้ป่วยจำนวนสูงและค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเกิดจากการรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนตัวเอง การล้างมือ ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อโรคโควิด-19 แล้ว ยังส่งผลดีกับโรคปอดอักเสบด้วย ยืนยันว่าไม่มีการซุกซ่อนตัวเลขผู้ป่วยของโควิด-19 โดยเห็นได้จากสถิติที่ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบลดลง และยืนยันว่าจะต้องดูแลผู้ป่วยทุก ๆโรคเป็นอย่างดีเช่นกัน” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4,429,223 ราย เสียชีวิต 298,165 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,430,348 ราย ส่วนในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 78,055 รองลงมาคือปากีสถานและสิงคโปร์ ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 68 ของโลก ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวผับย่านอิแทวอน เพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย ล่าสุดเกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรวมเป็น 10,991 ราย


“ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการระบาดขึ้นเป็นระลอกที่สอง หลังจากที่ทางการประกาศมาตรการผ่อนคลายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาตรการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อกว่า 10,000 คนให้มารายงานตัวและตรวจโรคกับทางการ โดยยังมีประชาชนกว่า 2,000 คนที่ยังไม่มารายงานตัว ทั้งนี้ บทเรียนจากประเทศเกาหลีใต้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีที่ไทยจะได้เตรียมความพร้อม” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการรับมือของเกาหลีใต้ คือการตรวจคัดกรองประชาชนรูปแบบการขับรถเข้ารับบริการตามจุด หรือ Drive Thru และจากที่พักอาศัย รวมทั้งให้โรงพยาบาลแยกพื้นที่สำหรับรักษาผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ และใช้แอพพลิเคชั่นติดตามสุขภาพ การเดินทางของผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัว ส่วนมาตรการผ่อนปรนของเกาหลีใต้ ให้ประชาชนดำเนินกิจการและกิจกรรมทางสังคมได้ตามปกติ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและรักษาระยะห่างทางสังคม 

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนประเทศจีนมีมาตรการการรับมือโดยกำหนดโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19โดยเฉพาะ อีกทั้งแจกใบอนุญาตเข้าออกชุมชนแบบจำกัดจำนวนในแต่ละวัน ให้ผู้นำชุมชนติดตามสถานะทางสุขภาพของลูกบ้านอย่างใกล้ชิด สแกนคิวอาร์โค้ดทุกครั้งที่เข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบันทึกประวัติสุขภาพและการเดินทาง ให้ประชาชนซื้อยาผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ส่วนมาตรการผ่อนปรนตั้งแต่ 8 เมษายน ให้สถานที่สาธารณะบางแห่งเปิดทำการได้ และเปิดการสัญจรเข้าออกมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น เพิ่มจำนวนเที่ยวรถโดยสารสาธารณะเข้าออกในกรุงปักกิ่ง และให้สถานที่ต่าง ๆ เปิดทำการ อาทิ สวนสาธารณะ ห้องสมุด สถานออกกำลังกาย ยกเว้นสระว่ายน้ำ สนามกีฬาที่มีผู้เล่นแบ่งกลุ่ม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้(14 พ.ค.) จะมีคนไทยที่ตกค้างกลับไทยจาก เยอรมนี 80 คน บังคลาเทศ 197 คน ซึ่งทั้งหมดต้องเข้ารับการกักกันในสถานที่ของรัฐทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สำหรับผู้ที่เข้ารับการกักกันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนถึง 13 พฤษภาคม 2563 มีเข้ารับการกักกันสะสม 18,139 คน ผู้เข้ากักกันปัจจุบัน 9,599 คน ผู้กลับบ้านสะสม 8,540 คน โดย 3 ประเทศที่เดินทางกลับมาสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหะสถาน 557 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน  87 ราย ขณะที่การตรวจกิจการและกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จำนวน 22,972 แห่ง ตามมาตรการหลัก 5 ข้อ คือ ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาด อย่าให้แออัด พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 21,400 แห่ง ปฏิบัติตามไม่ครบและได้รับคำแนะนำ 296 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 1.29 และมีผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.01 แต่ทั้งนี้ จากการตรวจโดยละเอียดของกระทรวงมหาดไทยในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีมาตรการเฉพาะและใช้คู่มือของกระทรวงสาธารณสุขตรวจดูในเชิงคุณภาพ  เช่น ร้านตัดผม ที่จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ พบว่าร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]

ผบ.ทบ. ตรวจฐานภูมะเขือ ขอบคุณกำลังพลทุ่มเทปฏิบัติงาน

23 ส.ค.- ผบ.ทบ. ตรวจเยี่ยมฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ย้ำกำลังพลปฏิบัติงานเต็มความสามารถ ตั้งอยู่บนความปลอดภัย เมื่อวันที่ 23 ส.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) พร้อม พล.ท.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสนาธิการทหารบก พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร เดินทางมาตรวจเยี่ยม และรับฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานของฐานการภูมะเขือ โดยมี พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วยฝ่ายเสนาธิการกองกำลังสุรนารี, ผู้บังคับหน่วย และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ และร่วมปฏิบัติภารกิจ ผู้บัญชาการทหารบก รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์ และการปฏิบัติงาน ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือกลาง พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ ผู้บัญชาการทหารทัพบก กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ทุ่มเทปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ให้ปฏิบัติภารกิจอย่างปลอดภัย จากนั้นได้เดินดูบริเวณฐานธุรการและพื้นที่ต่างๆ บนภูมะเขือ -สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์ซากสะพานลอยถล่ม ขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว

จันทบุรี 23 ส.ค.- เร่งเคลียร์ซาก! เหตุสะพานลอยคอนกรีตที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พังถล่มขวางถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ส่งผลเช้านี้การจราจรติดขัดสะสม คาดเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา พื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี กล้องวจรปิดร้านขายของชำบันทึกภาพวินาทีระทึก  ขณะคานสะพานพังถล่ม โดยยังมีคนงานเดินอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุหลายสิบคน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบความเสียหายในที่เกิดเหตุ เบื้องต้นพบรถเทรลเลอร์ 1 คัน และรถเครนของบริษัทรับเหมาเอกชนอีก 1 คัน ถูกคานสะพาน คอนกรีตที่หนักรวมกว่า 116 ตัน ถล่มลงมาทับพังเสียหาย กีดขวางการจราจรทั้งขาเข้าและขาออก เบื้องต้นกรมทางหลวงซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมา เร่งดำเนินการใช้แยกคอนกรีตตัดคานสะพานออก เพื่อง่ายต่อการเคลียร์เส้นทาง เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก ส่วนมูลค่าความเสียหายคาดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท สอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าสะพานลอยแห่งนี้ มีรูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย เสาเตาหม้อคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 2 ต้น มีความกว้างของทางเดินบนสะพาน 2.4 เมตร พร้อมราวจับและหลังคายาวตลอดทางเดินราว 36 เมตร ซึ่งครอบคลุมบันไดทั้งขาขึ้นและลง […]