ศบค.ยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น

ทำเนียบรัฐบาล 14 พ.ค. -ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 1 ราย มาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่แสดงอาการ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ยืนยันไม่ซ่อนตัวเลขผู้ป่วยไปอยู่ในโรคอื่น พบร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก พร้อมนำบทเรียนเกาหลีใต้มีผู้ป่วยกลับมาพุ่งสูงขึ้นหลังผ่อนปรนเป็นกรณีศึกษา


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่าวันนี้ (14 พ.ค.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 1 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 3,018 ราย รักษาหาย 2,850 ราย รักษาอยู่ 112 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตคงเดิม รวม 56 ราย โดยผู้ป่วยใหม่ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง ภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่เคยทำงานที่จังหวัดภูเก็ต โดยเดินทางออกจากจังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมพร้อมลูกและภรรยาเพื่อกลับเชียงใหม่ และได้รับการตรวจโรคจากเจ้าหน้าที่อสม. จังหวัดเชียงใหม่ พบติดเชื้อโควิด-19 

“ต้องวิเคราะห์ว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากเหตุใด เนื่องจากไม่มีอาการใด ๆ และเป็นคนในวัยทำงาน แต่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ถือเป็นความสามารถในการค้นหาผู้ป่วยของ อสม.ในพื้นที่ ดังนั้น ประชาชนที่ออกจากจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงและไปในหลาย ๆ ที่ ถ้ามีอาการหรือต้องการเข้ารับการตรวจแม้จะไม่มีอาการก็ได้ ให้ไปตรวจได้ทันที เพราะการมาตรวจโดยเร็ว และถ้าพบติดเชื้อจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที” โฆษกศบค. กล่าว


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จังหวัดที่มีรายงานผู้ป่วยช่วง 28 วันที่ผ่านมา มีจำนวน 19 จังหวัด ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยใน 28 วันที่ผ่านมา มี 49 จังหวัด มี 9 จังหวัดไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน ส่วนจังหวัดที่มีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด คือกรุงเทพมหานคร 1,531 ราย รองลงมาคือภูเก็ต 224 ราย และนนทบุรี 156 ราย

“ที่มีหลายคนสงสัยว่าไทยพบผู้ติดเชื้อน้อยอาจจะไปวินิจฉัยเป็นโรคอื่นหรือไม่ เช่น โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม ทางกรมควบคุมโรคได้เปิดเผยสถิติของโรคปอดอักเสบในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม- 9 พฤษภาคม 2563 พบว่าช่วงต้นปีมีผู้ป่วยจำนวนสูงและค่อย ๆ ลดลง ซึ่งเกิดจากการรณรงค์ให้ใส่หน้ากากอนามัย กินร้อนช้อนตัวเอง การล้างมือ ซึ่งนอกจากจะส่งผลดีต่อโรคโควิด-19 แล้ว ยังส่งผลดีกับโรคปอดอักเสบด้วย ยืนยันว่าไม่มีการซุกซ่อนตัวเลขผู้ป่วยของโควิด-19 โดยเห็นได้จากสถิติที่ผู้ป่วยโรคปอดอักเสบลดลง และยืนยันว่าจะต้องดูแลผู้ป่วยทุก ๆโรคเป็นอย่างดีเช่นกัน” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 4,429,223 ราย เสียชีวิต 298,165 ราย สหรัฐอเมริกาพบติดเชื้อมากที่สุด  1,430,348 ราย ส่วนในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย อินเดียมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุด 78,055 รองลงมาคือปากีสถานและสิงคโปร์ ขณะที่ไทยอยู่ที่อันดับที่ 68 ของโลก ทั้งนี้ ประเด็นที่น่าสนใจในต่างประเทศ เกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวผับย่านอิแทวอน เพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย ล่าสุดเกาหลีใต้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรวมเป็น 10,991 ราย


“ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการระบาดขึ้นเป็นระลอกที่สอง หลังจากที่ทางการประกาศมาตรการผ่อนคลายไปก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขต้องออกมาตรการติดตามตัวผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อกว่า 10,000 คนให้มารายงานตัวและตรวจโรคกับทางการ โดยยังมีประชาชนกว่า 2,000 คนที่ยังไม่มารายงานตัว ทั้งนี้ บทเรียนจากประเทศเกาหลีใต้น่าจะเป็นบทเรียนที่ดีที่ไทยจะได้เตรียมความพร้อม” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการรับมือของเกาหลีใต้ คือการตรวจคัดกรองประชาชนรูปแบบการขับรถเข้ารับบริการตามจุด หรือ Drive Thru และจากที่พักอาศัย รวมทั้งให้โรงพยาบาลแยกพื้นที่สำหรับรักษาผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ และใช้แอพพลิเคชั่นติดตามสุขภาพ การเดินทางของผู้ที่อยู่ระหว่างการกักตัว ส่วนมาตรการผ่อนปรนของเกาหลีใต้ ให้ประชาชนดำเนินกิจการและกิจกรรมทางสังคมได้ตามปกติ โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและรักษาระยะห่างทางสังคม 

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนประเทศจีนมีมาตรการการรับมือโดยกำหนดโรงพยาบาลสำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด-19โดยเฉพาะ อีกทั้งแจกใบอนุญาตเข้าออกชุมชนแบบจำกัดจำนวนในแต่ละวัน ให้ผู้นำชุมชนติดตามสถานะทางสุขภาพของลูกบ้านอย่างใกล้ชิด สแกนคิวอาร์โค้ดทุกครั้งที่เข้าออกสถานที่ต่าง ๆ เพื่อบันทึกประวัติสุขภาพและการเดินทาง ให้ประชาชนซื้อยาผ่านแอพพลิเคชั่นโดยไม่ต้องไปโรงพยาบาล ส่วนมาตรการผ่อนปรนตั้งแต่ 8 เมษายน ให้สถานที่สาธารณะบางแห่งเปิดทำการได้ และเปิดการสัญจรเข้าออกมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่น เพิ่มจำนวนเที่ยวรถโดยสารสาธารณะเข้าออกในกรุงปักกิ่ง และให้สถานที่ต่าง ๆ เปิดทำการ อาทิ สวนสาธารณะ ห้องสมุด สถานออกกำลังกาย ยกเว้นสระว่ายน้ำ สนามกีฬาที่มีผู้เล่นแบ่งกลุ่ม

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า วันนี้(14 พ.ค.) จะมีคนไทยที่ตกค้างกลับไทยจาก เยอรมนี 80 คน บังคลาเทศ 197 คน ซึ่งทั้งหมดต้องเข้ารับการกักกันในสถานที่ของรัฐทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สำหรับผู้ที่เข้ารับการกักกันตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนถึง 13 พฤษภาคม 2563 มีเข้ารับการกักกันสะสม 18,139 คน ผู้เข้ากักกันปัจจุบัน 9,599 คน ผู้กลับบ้านสะสม 8,540 คน โดย 3 ประเทศที่เดินทางกลับมาสูงสุด ได้แก่ มาเลเซีย อินเดีย และสหรัฐอเมริกา

โฆษกศบค. กล่าวว่า ส่วนผู้ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหะสถาน 557 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน  87 ราย ขณะที่การตรวจกิจการและกิจกรรมที่ผ่อนคลาย จำนวน 22,972 แห่ง ตามมาตรการหลัก 5 ข้อ คือ ล้างมือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ทำความสะอาด อย่าให้แออัด พบว่าปฏิบัติตามมาตรการ 21,400 แห่ง ปฏิบัติตามไม่ครบและได้รับคำแนะนำ 296 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 1.29 และมีผู้ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ 2 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.01 แต่ทั้งนี้ จากการตรวจโดยละเอียดของกระทรวงมหาดไทยในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีมาตรการเฉพาะและใช้คู่มือของกระทรวงสาธารณสุขตรวจดูในเชิงคุณภาพ  เช่น ร้านตัดผม ที่จะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ต่าง ๆ พบว่าร้านตัดผมไม่ปฏิบัติตามมาตรการจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ตชด.ลาดตระเวนเข้ม 24 ชม. แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

สระแก้ว 29 มิ.ย. – ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 ลาดตระเวน ตั้งบังเกอร์ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูง เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. หลังมีรายงานกลุ่มชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืช-สร้างสิ่งปลูกสร้าง ละเมิดข้อตกลง MOU 43 วันนี้ ชุดควบคุมตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 (ตชด.12) จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนในพื้นที่เปราะบาง 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกสูง และอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังจากมีกรณีข้อพิพาท ระหว่างไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในจุดที่ยังเป็นพื้นที่ข้อพิพาทจากแนวเขตตาม MOU ปี 2543 ซึ่งห้ามทั้งสองประเทศสร้างสิ่งปลูกสร้างถาวรใดๆ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตชด.12 ในการตรวจจุดแนวชายแดน โดยเริ่มจากแนวตะเข็บรอยต่อบริเวณอำเภอโคกสูง ซึ่งติดกับ จ.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นแนวเขตพื้นที่ที่เรียกว่าดินต่อดิน ซึ่งเป็นแนวกั้นธรรมชาติอย่างชัดเจน ซึ่งจะแตกต่างจากแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ ที่มีคลองธรรมชาติ ซึ่งแนวคลองลึกและจะมีแนวลวดหนามกั้นชัดเจนตลอดทั้งเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ เผยว่า บริเวณ อ.โคกสูง มีรายงานว่ากลุ่มชาวกัมพูชา ลักลอบเข้ามาใช้พื้นที่ปลูกพืชหรือสร้างสิ่งปลูกสร้างเล็กๆ ซึ่งละเมิดข้อตกลง […]

น้องสาว ผกก.โจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการตายของพี่ชาย

กทม. 29 มิ.ย.-น้องสาวอดีตผู้กำกับโจ้ วอนตำรวจช่วยไขปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชาย และเร่งทำคดี เพื่อให้ครอบครัวได้รับความเป็นธรรม หลังผ่านมา 4 เดือน คดียังไม่คืบ ส่วนบรรยากาศงานฌาปนกิจวันนี้ เป็นไปด้วยความโศกเศร้า เวลา 15.30 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีฌาปนกิจศพ นายธิติสรรค์ อุทธนผล หรือผู้กำกับโจ้ ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรลักษณ์มหาวิหาร หลังเก็บศพมานานกว่า 4 เดือน บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างโศกเศร้าของบุคคลในครอบครัว ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น ตลอดจนอดีตผู้บังคับบัญชาอย่างพลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดหรือ ป.ส. และผู้ใต้บังคับบัญชาเก่าที่สนิทสนม ได้เดินทางมาร่วมในพิธีฌาปนกิจวันนี้ด้วย ขณะที่ นางสาวศรัญญา อุทธนผล อายุ 34 ปี น้องสาวของผู้กำกับโจ้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า หลังจากตนพร้อมแฟนสาวของผู้กำกับโจ้ เดินทางยื่นคำร้องขอให้ DSI รับคดีการเสียชีวิตของพี่ชายเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากติดใจสาเหตุการการตายของพี่ชาย จนถึงขณะนี้นาน 4 เดือนแล้ว คดียังไม่คืบหน้า ซึ่งล่าสุดวันนี้ พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม […]

คปท.แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่หนุนรัฐประหาร

กทม. 29 มิ.ย.- คปท. แถลงยืนข้างกองทัพปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่สนับสนุนรัฐประหาร และไม่คิดสนับสนุนรัฐประหารแน่นอน นัดหารือใหญ่ 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ-พรรคร่วม เวลา 14.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. ร่วมแถลงจุดยืน ภายหลังการชุมนุมใหญ่เมื่อวานนี้ แต่ปรากฏว่าการปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร ทำให้ในวันนี้นายพิชิต ต้องออกมาแถลงการณ์ด่วน ชี้แจงว่า พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลกำลังกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ควรจะกดดันให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท. ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ แกนนำ คปท. จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกของคน “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 กรกฎาคมนี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น และไม่ใช้พื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว […]

เพลิงไหม้หอพักพยาบาล รพ.ศิริราช

กทม. 29 มิ.ย. – เพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล รพ.ศิริราช เจ้าหน้าที่คุมเพลิงได้แล้ว ช่วยผู้ติดค้างออกมาได้อย่างปลอดภัย วันที่ 29 มิถุนายน 2568 เวลา 12.30 น. รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่วมไทร เหตุเพลิงไหม้ภายในหอพักพยาบาล (แปดไร่) โรงพยาบาลศิริราช ถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยบางขุนนนท์ สปภ.กทม. ถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันจำนวนมากบริเวณชั้นใต้ดิน จึงทำการตรวจสอบและอพยพผู้ที่ติดค้างด้านบนลงมา เวลา 12.55 น. พบจุดต้นเพลิงบริเวณชั้นใต้ดิน เจ้าหน้าที่ดำเนินการใช้น้ำทำการดับ มีผู้ติดค้างภายในลิฟต์ชั้นที่ 12 เจ้าหน้าที่และช่างลิฟต์ประจำอาคาร ได้ทำการช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย เวลา 13.04 น. เพลิงสงบ .-สำนักข่าวไทย