กรุงเทพฯ 11 พ.ค.-รมว.เกษตรฯ ย้ำให้เกษตรกรรายใหม่ที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร
รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ปรับปรุงทะเบียนนานกว่า 3 ปี ที่อาจจะตกหล่น พลาดรับเงินเยียวยา
15,000 บาท ให้รีบดำเนินการให้ครบถ้วน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า
ได้ย้ำให้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กำชับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนทั้งด้านพืช ปศุสัตว์
และประมงเร่งประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรตรวจสอบสถานะการเป็นเกษตรกรตามช่องทางที่กำหนด
หากผู้ใดไม่พบรายชื่อจะได้เร่งตรวจสอบและดำเนินการภายในวันที่ 15 พฤษภาคม
ขณะนี้ยังมีเกษตรกรรายใหม่ที่ไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผู้ที่เคยขึ้นทะเบียนแล้ว
แต่ไม่ได้ปรับปรุงข้อมูลการทำเกษตรในทะเบียนตามรอบการผลิตล่าสุด
แม้จะมีจำนวนไม่มากก็ไม่ต้องการให้พลาดรับสิทธิ์การช่วยเหลือจากรัฐบาลที่จะจ่ายเงินเยียวยาเดือนละ
5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน รวม 15,000 บาท
นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า
กำลังเร่งให้กรมส่งเสริมการเกษตรมอบหมายให้อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.)
และผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่ยังไม่เพาะปลูกเนื่องจากรอฝนว่า ต้องมายื่นแบบ
ทบก. 01 ซึ่งเป็นคำร้องทะเบียนเกษตรกร แจ้งข้อมูลการปลูกพืชไว้ก่อนวันที่ 15
พฤษภาคม เมื่อเพาะปลูกแล้ว 15
วันให้แจ้งอีกครั้งเพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอตรวจสอบว่า เพาะปลูกจริง
โดยวันตรวจสอบแปลงปลูกวันสุดท้ายคือ วันที่ 15 กรกฎาคม จากนั้นจะรวบรวมรายชื่อเกษตรกรกลุ่มสุดท้ายส่งให้กระทรวงการคลังจ่ายเงินช่วยเหลือภายในวันที่
31 กรกฎาคม
ส่วนกรมปศุสัตว์ได้ออกคำแนะนำการตรวจสอบสถานภาพเกษตรกร
โดยสามารถตรวจสอบด้วยตนเองผ่านระบบทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์และตรวจสอบผ่านสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ
ทั้งนี้อำนวยความสะดวกผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ http://chkregislives.dld.go.th/regislives/ หรือแอปพลิเคชัน LINE ของกรมปศุสัตว์ที่ @dldthailand
หรือ https://lin.ee/4uZSAjz จากนั้นเข้าไปที่เมนู “ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกร”
แล้วกรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ระบบจะแจ้งสถานะว่า
มีชื่อในทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หรือไม่ หรือไม่ได้ปรับปรุงทะเบียน
สำหรับเกษตรกรที่ไม่สามารถเข้าถึงระบบออนไลน์ได้ให้สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่เลี้ยงสัตว์
ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมปศุสัตว์โทร.02-653-4444 ต่อ 2341
ได้ทุกวันภายในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้
สำหรับผู้ที่จะขึ้นทะเบียนใหม่ให้นำบัตรประชาชนมาขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอที่เลี้ยงสัตว์
จากนั้นปศุสัตว์อำเภอตรวจสอบข้อมูลการเลี้ยงสัตว์
แล้วจึงอนุมัติให้ขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้
ส่วนวิธีปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรนำบัตรประชาชน ติดต่อที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอที่เลี้ยงสัตว์เพื่อขอปรับปรุงข้อมูลทะเบียนให้เกษตรกรนำบัตรประชาชนมาติดต่อที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอที่เลี้ยงสัตว์
ขอ “ชื่อผู้ใช้งาน”
(Username) และ รหัสผ่าน (Password) เพื่อใช้งานระบบทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์แล้วปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
ซึ่งปศุสัตว์อำเภอจะตรวจสอบข้อมูลและอนุมัติในระบบทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์
ทางด้านกรมประมงรายงานว่า
ผู้ที่เคยลงทะเบียนเป็นเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำมีกว่า 600,000 ราย
โดยส่วนใหญ่ได้ปรับปรุงทะเบียนและกรมประมงส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังแล้ว แต่ยังมีอีกประมาณ
100,000
กว่ารายที่ทะเบียนเกษตรกรหมดอายุจึงเชิญชวนเกษตรกรมาปรับปรุงทะเบียนที่สำนักงานประมงอำเภอภายในวันที่
15 พฤษภาคม เกษตรกรอีกกลุ่มที่เป็นห่วงว่า จะเข้าไม่ถึงข้อมูลข่าวสารคือ
กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านและแรงงานประมงซึ่งใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำประมงซึ่งได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประมงอำเภอเร่งประสานผู้นำชุมชนให้แจ้งเกษตรกรมาขึ้นและปรับปรุงทะเบียนในเวลาที่กำหนด
ส่วนการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)
ได้ประชาสัมพันธ์ถึงเกษตรกรชาวสวนยางและคนกรีดยางที่ยังไม่ได้ขึ้นและปรับปรุงทะเบียน
โดยหากข้อมูลการเพาะปลูกเปลี่ยนแปลงได้แก่ กรรมสิทธิ์ที่ดินเปลี่ยนเช่น
เจ้าของที่ดินเสียชีวิต โอนมรดกให้ทายาท ขายที่ดิน เป็นต้น หลักฐานที่ดินเปลี่ยน
เปลี่ยนแปลงที่อยู่ และเปลี่ยนแปลงข้อมูลคนกรีดให้เร่งแจ้งสำนักงานกยท.
ในพื้นที่ที่มีแปลงปลูกอยู่เพื่อปรับปรุงทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิ์การรับเงินช่วยเหลือ
15,000 บาททุกราย.-สำนักข่าวไทย