พัทยา 9 พ.ค. – เริ่มแล้ว เมืองพัทยา ประกาศปิดชายหาดทุกหาดอย่างเข้ม 100 % วันแรก เพื่อให้พื้นที่เมืองพัทยาปลอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่ก็ยังพบว่ามีนักท่องเที่ยว ฝ่าฝืนลงเล่นน้ำ
ที่ กองอำนวยการปิดกันพื้นที่ชายหาด บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยาบีช นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วย นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และคณะผู้บริหารเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในมาตรการปิดกั้นเขตห้าม ใช้พื้นที่บนชายหาด ทั้ง 9 จุด ซึ่งประกอบด้วย หาดพัทยา จอมเทียน หาดพระตำหนัก หาดโคซี่ หาดวงศ์อมาตย์ หาดกระทิงราย สวนสาธารณะลานโพธิ์นาเกลือ และลานท่าเรือบาลีฮาย วันแรก เพื่อเฝ้าระวังประชาชน และนักท่องเที่ยวมานั่งร่วมกลุ่มกัน ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้เป็นไปตามคำสั่งผ่อนผัน ตามประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี ที่ได้มีการผ่อนปรนพื้นที่ดังกล่าวให้ประชาชนสามารถออกกำลังกายได้ เฉพาะบนทางเท้าเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 9- 31 พฤษภาคม 2563 เวลา 9.00-21.00 น. ของทุกวัน แต่ไม่อนุญาตให้ลงไปใช้พื้นที่ชายหาด ทั้งการเล่นกีฬากลางแจ้ง ที่ไม่เข้าข่ายลักษณะของการมั่วสุม และห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานโดย เฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยได้มีการติดป้ายประกาศหลากหลายภาษา และได้นำโดรนมาบินประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่อยู่บริเวณชายหาดได้รับรู้ ถึงการปิดกั้นไม่ให้ใช้พื้นที่ชายหาด เพื่อให้พื้นที่เมืองพัทยาปลอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตามพบว่าประชาชน และนักท่องเที่ยว ให้ความร่วมมือกับมาตรการดังกล่าว
นักท่องเที่ยวต่างชาติ แหก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ลงเล่นน้ำ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ (ประเทศไทย) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา ได้จับกุมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 3 ราย หลังฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ลงไปเล่นน้ำทะเล ที่ บริเวณหลังโรงแรมเอเซีย เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สอบถาม เจ้าหน้าที่กิจการพิเศษเมืองพัทยา เปิดเผยว่าในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลงไปเล่นน้ำ ซึ่งได้ว่ากล่าวตักเตือนให้ขึ้นจากน้ำ เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงที่ ทางเมืองพัทยา ได้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ชาวต่างชาติก็ยังดื้อไม่ยอมขึ้น จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา เข้าทำการจับกุมดังกล่าว เบื้องต้น ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้แจ้งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรค และบทลงโทษตาม ต้องระวางโทษ อัตราโทษ จำคุก 1 ปี หรือปรับ 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ .- สำนักข่าวไทย