ปลัดคมนาคม แจงซักซ้อมแผนให้บริการรถไฟฟ้า

ทำเนียบฯ 8 พ.ค.- ปลัดคมนาคม แจงได้ซักซ้อมแผนให้บริการรถไฟฟ้า หลังประชาชนเริ่มกลับมาใช้บริการจำนวนมาก ขอเว้นระยะห่าง ยืนยันมีมาตรการให้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภทเพื่อป้องกันโควิด-19


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 กระทรวงคมนาคมได้ปรับการให้บริการขนส่งสาธารณะภายในจังหวัดและระหว่างจังหวัด ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ โดยได้ออกคำสั่งระงับการเดินรถโดยสารรถประจำทางระหว่างจังหวัด 203 เส้นทาง 20 จังหวัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และระงับการเดินรถไฟระหว่างจังหวัดจาก 500 กว่าขบวน ให้เหลือ 43 ขบวนต่อวัน รวมถึงงดการให้บริการเดินรถไฟสายยาวเพื่อป้องกันการคาบเกี่ยวช่วงระยะเวลาเคอร์ฟิว

ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพตามโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงความแออัดในการใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ว่า หลังจาก ศบค. ผ่อนคลายมาตรการระยะแรก ทำให้ประชาชนทยอยเดินทางมากขึ้น และเนื่องจากวันที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา เกิดปัญหาความขัดข้องของระบบรถไฟฟ้า 3-4 ขบวนในช่วงเวลาเร่งด่วน จึงเกิดความหนาแน่นของประชาชนจนไม่สามารถจัดการเรื่องจำนวนคน การเว้นระยะห่างได้ ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ได้นำมาปรับปรุง และมีการซักซ้อมวิธีการจัดการว่าจะทำอย่างไรให้ผู้โดยสารใช้บริการได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย ทั้งนี้จากการติดตามพบว่า เมื่อวาน (7 พ.ค.) และวันนี้ (8 พ.ค.) มีระบบการจัดการที่ดีขึ้น มีการเว้นระยะห่าง และได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้บริการ


นายชัยวัฒน์ กล่าวยอมรับว่า จากการที่ประชาชนมีข้อร้องเรียนเรื่องรอคิวนาน ทำให้เสียเวลานั้น เนื่องจากในช่วงนี้ไม่สามารถให้ผู้ใช้บริการขึ้นได้ตามปกติ คือ 1,000 คนต่อขบวนเที่ยว เพราะต้องเว้นระยะห่าง จึงสามารถบรรจุคนเหลือเพียง 250 คนต่อหนึ่งขบวน ลดลง 1 ใน 4 ถือเป็นความจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ ทั้งนี้ผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด คัดกรองอุณหภูมิ ทั้งก่อนเข้าสถานี ก่อนขึ้นรถเมื่อถึงสถานีปลายทางก็จะต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิอีกครั้ง ส่วนการให้บริการรถโดยสารประจำทาง หรือรถเมล์ มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก จึงมีมาตรการเว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิเช่นเดียวกับการให้บริการทางเรือโดยสาร

นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวถึงการให้บริการทางท่าอากาศยาน ว่า ขณะนี้ 5 สายการบินกลับมาให้บริการ และได้เปิดท่าอากาศยานรองรับการเดินทางทางอากาศ 18 แห่ง ทั้งหมดเป็นการบินภายในประเทศ ทั้งนี้มีข้อกำหนดท่าอากาศยาน 18 แห่งในประเทศเปิดให้บริการตั้งแต่ 07.00-19.00 น. เพื่อให้ผู้โดยสารและพนักงานเดินทางทันในช่วงระยะเวลาการประกาศเคอร์ฟิว

นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม มีความห่วงใยผู้โดยสาร โดยได้กำหนดมาตรการรวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีข้อแนะนำว่าผู้ที่มีไข้ไม่ควรเดินทาง มีเครื่องเทอร์โมสแกนทุกสถานี เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจว่าให้บริการด้วยความปลอดภัยได้มีการทำความสะอาดยานพาหนะและพื้นที่ของสถานีแต่ละแห่งเป็นประจำ ส่วนพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสารหรือขายตั๋ว ได้มีการดูแลสุขภาพอย่างดี ไม่ให้เป็นการเพาะเชื้อ พร้อมขอให้ทุกคนปฏิบัติตามข้อกำหนดแม้จะไม่ได้รับความสะดวกและบังคับว่าจะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าตลอดระยะเวลาที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะทุกประเภท ขณะที่การเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ ขอให้ศึกษาคำสั่ง หรือคำประกาศของแต่ละจังหวัด เพราะจะมีบางจังหวัดที่จะต้องมีหนังสือรับรอง และต้องกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วัน


เมื่อถามว่า ขบวนรถไฟฟ้ามีความหนาแน่น จนผู้โดยสารรอล้นออกมาจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เอ็มอาร์ที หรือรถไฟฟ้า บีทีเอส นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตามหลักการเมื่อมีผู้ใช้บริการมากขึ้น จำเป็นต้องปรับขบวนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งให้เต็มพิกัด ซึ่งทาง รฟม.และบริษัทรถไฟฟ้า ได้มีการปรับขบวนและเก็บข้อมูลเพื่อให้วิ่งได้มากขึ้นเต็มพิกัด แต่มีข้อจำกัดเรื่องความถี่ของขบวนรถไฟ เพราะต้องเว้นช่วงขบวนละ 3 นาทีเพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐาน และถึงแม้จะปรับขบวนให้มีความถี่มากแล้วก็ตาม แต่ยังมีจำนวนผู้โดยสารที่ต้องการมาขึ้นรถไฟฟ้าจำนวนมาก ดังนั้นขอให้ผู้โดยสารได้เข้าใจสถานการณ์ ซึ่งไม่ใช่สถานการณ์ปกติ จึงต้องจัดสถานที่ให้รอเพื่อลดความแออัด ส่วนในขบวนรถไฟฟ้าได้มีการเว้นระยะห่างที่นั่งของเก้าอี้และในส่วนที่ยืน จะมีการทำเครื่องหมาย ทั้งนี้ขอให้ผู้ใช้บริการได้เตือนตัวเองว่าทุกคนต้องเว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1 เมตร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

นายกฯ นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.- นายกฯ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรพระสงฆ์ 148 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เมื่อเวลา 07.30 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 148 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส รองนายกรัฐมนตรีและภริยา รัฐมนตรีว่าการผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ พร้อมภริยา และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงปะรำพิธี พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ จากนั้น […]

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย