นายกฯ พอใจผลงานยึดทรัพย์-ตัดวงจรยาเสพติด

ป.ป.ส.-8 พ.ค.-นายกรัฐมนตรี พอใจผลการดำเนินงานยึดทรัพย์ยาเสพติด ช่วง 3เดือนแรก ลั่นใครเกี่ยวข้องยึดให้หมด ขู่เจ้าหน้าที่รับสินบนจะลงโทษสถานหนัก


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานติดตามผลการดำเนินงานด้านการปราบปราม ยึดทรัพย์ ตัดวงจรยาเสพติด โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและตัวแทนจาก 8 หน่วยงานที่บูรณาการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ตามคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ ซึ่งสามารถยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดได้กว่า 2,000 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ทำลายเครือข่ายยาเสพติดที่เป็นเครือข่ายใหญ่ 4 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายของนายฟ้าใส ไชยะสิงห์ ชาวลาว, เครือข่ายนายสุภาพ แซ่ส้ง, เครือข่ายนายอิศเรศ จริตงามและพวก และเครือข่ายนายคัม ชี เชียง 


พร้อมกันนี้ มีการรายงานผลการปฏิบัติการล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ (8 พ.ค.) ซึ่งได้ขยายผลจากคดีจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ต่างๆ ในพื้นที่ ป.ป.ส.ภาค 3 ภาค5 และภาค 8 นำไปสู่การดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534  และศาลได้อนุมัติหมายจับรวม 49 คนและได้สนธิกำลังเข้าทำการจับกุม และยึดทรัพย์สินพร้อมกันทั่วประเทศมากกว่า 60จุด ภายใต้ยุทธการ “พิทักษ์ไทย ยึดทรัพย์ตัดวงจรยาเสพติด ครั้งที่ 1/63” ในเบื้องต้นประมาณการทรัพย์สินที่ตรวจยึดมีมูลค่ากว่า 106.8 ล้านบาท


หลังจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.รายงานผลการปฏิบัติงานมาจากในพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ส.ทุกคน พร้อมขอให้ปฏิบัติหน้าที่แบบนี้ตลอดไป วันนี้เริ่มดำเนินการให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น   จึงหวังจะเห็นเป็นผลสำเร็จในโอกาสต่อไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังขอบคุณกำลังพลและเจ้าหน้าที่ทุกระดับและขอให้ทุกคนปลอดภัย ทำงานอย่างภาคภูมิใจไทย เพื่อประชาชนคนทั้งประเทศขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งทหาร ตำรวจ พลเรือน ฝ่ายปกครองต้องร่วมมือกัน ชื่นชมการปฏิบัติงาน ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะดำเนินการต่อไปตามมาตรฐานใหม่ ทั้งระบบการทำงาน ความรวดเร็วด้านการข่าวต่างๆ ขอให้รักษาความดีไว้ ความดีจะปกป้องทุกคนให้ปลอดภัย

นอกจากนี้ในการขยายผลยึดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติด ยังพบมีเครือข่ายใหญ่ตามแนวชายแดนด้านภาคเหนือ ซึ่งมีพฤติการณ์เปิดบัญชีเพื่อโอนเงินให้กับผู้บงการ สามารถอายัดบัญชีได้แล้ว 20,000 บัญชี มีเงินหมุนเวียนกว่า 30,000 ล้านบาท 

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากมีการแก้กฎหมายเพิ่มรางวัลนำจับซึ่งจะมีผลในวันที่ 31 พ.ค.นี้ มั่นใจว่า จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้การยึดทรัพย์และตัดวงจรยาเสพติดทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อเพิ่มหน่วยงานภายใต้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อดูแลกระบวนการธุรกรรมทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดที่มีจำนวนมากและซับซ้อน แม้ขณะนี้จะยึดทรัพย์ไม่ได้ทั้งหมด แต่  เชื่อว่าจะตัดวงจรยาเสพติดได้มากขึ้น 

ภายหลังการรับฟังผลการดำเนินงานของศูนย์ฯ แล้ว นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายและแนวทางว่า วันนี้ทุกคนคงเข้าใจแนวทางการปรับปรามยาเสพติดตามแนวคิดใหม่  วันนี้ก็มาติดตามดูเรื่องที่บกพร่อง ซึ่งส่วนตัวต้องการให้เกิดการบูรณาการอย่างแท้จริง  ทั้งแผนงานงบประมาณและบุคลากรที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งชื่นชมการดำเนินการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติดที่สามารถทำได้รวดเร็วอย่างที่ต้องการ จะเห็นได้จากการยึดทรัพย์ของเจ้าหน้าที่ภาคต่างๆ ซึ่งถือเป็นช่องทางที่มีการเข้าออกนอกประเทศ จึงต้องเข้มงวดและดำเนินการให้เป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว วันนี้สามารถปราบปรามได้แค่ผู้ค้ารายย่อยเพราะผู้ค้ารายใหญ่ยังติดปัญหาเรื่องการประสานงานและจับกุม ขณะที่เครือข่ายค้ายาเสพติดก็ปรับวิธีการมากมาย ดังนั้นต้องติดตามดูว่าบุคคลเหล่านี้มีทรัพย์สินยึดโยงกับใครและฟอกเงินอย่างไร หากสามารถปราบปรามได้อีกเครือข่ายก็จะหมดลงไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องหาวิธีการอื่นเพิ่มเติมอีกเพื่อให้ทันกับเครือข่ายค้ายาเสพติดและสามารถตัดให้ครบวงจรได้ 

อย่างไรก็ตามก็ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังและมีความปลอดภัย รวมถึงการยึดทรัพย์ต้องระมัดระวังเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรมแต่ขอเจ้าหน้าที่ระมัดระวังเรื่องเรียกรับผลประโยชน์ส่วนตน หากพบ จะลงโทษอย่างหนัก ขอเจ้าหน้าที่รัฐอย่าทุจริตและเห็นแก่ได้ ส่วนเครือข่ายค้ายาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับภาคใต้ หากสามารถกำจัดได้เชื่อว่าจะทำให้การแก้ปัญหาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะง่ายและรวดเร็วขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี อารมณ์ดีและมีท่าทีผ่อนคลาย ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องประชุมและพบกับสื่อมวลชน ซึ่งมารอทำข่าวก็ได้ทักทายว่า “นี่ใครกันบ้าง คิดถึงนะ อ้อ คนกันเองทั้งนั้น” ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนที่จะเริ่มการประชุม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา