กรุงเทพฯ 2 ก.ย. – ตำรวจ ปส.ส่งสำนวนคดี “หมอแอร์” กับพวก ให้อัยการคดียาเสพติด ในวันสุดท้ายของการฝากขัง – ส่งฟ้องศาลวันนี้ พร้อมออกหมายจับแพทย์อีก 9 เจ้าของคลินิกและญาติหมอแอร์ รวม 11 คน
ที่สำนักงานอัยการคดียาเสพติด ชั้น 6 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำสำนวนการสอบสวนคดีพันตำรวจเอกแพทย์หญิงอัญชุลี หรือ “หมอแอร์” พร้อมผู้ร่วมขบวนการรวม 12 คน สั่งฟ้องในฐานความผิดข้อหาสมคบและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 “ฟลูไนตราซีแพม” และข้อหาฉ้อโกงลักลอบซื้อยาควบคุมแผนปัจจุบันในกลุ่มยานอนหลับ ยารักษาอาการวิตกกังวล และยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ออกนอกระบบและนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย ซึ่งคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาทั้งหมด 23 คน จับกุมตัวได้แล้ว 12 คน ส่วนอีก 11 คน ประกอบด้วย แพพทย์ 9 คน, ญาติหมอแอร์ที่เป็นผู้จัดทำเวชระเบียนปลอม 1 คน, และเจ้าของคลินิกอีก 1 คน ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามตัวตามหมายจับ
นายพงศ์พิเชษฐ์ จันทรพรกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด ยืนยันวันนี้พนักงานอัยการจะสั่งฟ้องสำนวน “หมอแอร์” พร้อมพวก 12 คน ต่อศาลได้อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายในการครบกำหนด 7 ฝากขังหรือ 84 วัน ถือว่าไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด เพราะว่าทางอัยการตรวจสำนวนร่วมกับพนักงานสอบสวน ปส. มาอย่างใกล้ชิดและสั่งการให้พนักงานสอบสวน ปส. รวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อความรัดกุมของสำนวน มั่นใจจะสั่งฟ้องเอาผิดกับผู้ต้องหาทั้งหมดได้

สำหรับอัตราโทษความผิดข้อหาสมคบและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 “ฟลูไนตราซีแพม” จะไม่มีอัตราโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต เป็นเพียงจำคุกกรรมละ 15 ปี ซึ่งคดีนี้มีหลายกรรม และอัตราโทษจะน้อยกว่าข้อหาที่เกี่ยวกับยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) ส่วนการที่ตำรวจมาส่งสำนวนวันสุดท้ายจะเป็นข้อครหาว่าให้ความช่วยเหลือ “หมอแอร์” หรือไม่ ส่วนนี้ในรายละเอียดให้ไปถามตำรวจปราบปรามยาเสพติด แต่ยอมรับว่าตั้งแต่ตนเองเป็นอธิบดีมา 1 ปี ไม่เคยพบหน่วยงานใดมาส่งสำนวนในวันสุดท้าย แต่ยืนยันจะสามารถส่งฟ้องได้ทันในวันนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ 11 คน หากมีการจับกุมตัวได้แล้วจะนำสำนวนมารวมกับสำนวนที่ส่งฟ้องในวันนี้เนื่องจากเป็นคดีเดียวกัน
ด้าน นางสาวสุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” เปิดเผยว่า แม้จะเป็นวันสุดท้ายของการส่งสำนวน ทางอัยการจะตรวจสำนวนอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาด เพราะมิเช่นนั้นจะต้องมีการปล่อยตัวผู้ต้องหา ที่ผ่านมาอัยการทำงานกันอย่างรอบคอบและทำงานตลอดวันหยุดที่ผ่านมาเพื่อให้สำนวนออกมาสมบูรณ์ที่สุดในการสั่งฟ้อง
ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด1 บช.ปส. ได้เดินทางมาส่งสำนวนด้วยตัวเอง โดย พล.ต.ต.อรรถพล เปิดเผยว่า การรวบรวมสำนวนมีการรวบรวมพยานหลักฐานในสำนวนครบถ้วนเพื่อมาส่งมอบให้พนักงานอัยการ ส่วนเหตุผลที่มาส่งสำนวนวันสุดท้ายจะมีผลต่อสำนวนหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบเพราะว่าที่ผ่านมามีการประสานกับพนักงานอัยการมาโดยตลอด ยืนยันว่าสำนวนเรียบร้อยและรอบคอบชัดเจน รวมทั้งถึงที่พนักงานอัยการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมก็ทำอย่างสมบูรณ์. -416 -สำนักข่าวไทย