คมนาคมระบุแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยหากเข้า ครม.ต้องมีแผนสร้างรายได้ชัดเจน

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – “ศักดิ์สยาม” ระบุแผนฟื้นฟูการบินไทยยังไม่เข้า ครม. เนื่องจากยังไม่ได้มติอย่างเป็นทางการจาก คนร. ย้ำ!แผนฟื้นฟูต้องมีแนวทางสร้างรายได้ชัดเจน ทำให้การบินไทยฟื้นตัวได้ในระยาวยาว


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า  จากกรณีที่แผนฟื้นฟูของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีวันนี้ (5 พ.ค.) นั้น เนื่องจากมติของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ยังไม่ได้ส่งมากระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงแผนฟื้นฟูการบินไทยให้มีความชัดเจนมากขึ้นให้เป็นลักษณะของแผนปฎิบัติการ (action plan) ที่จะนำไปสู่การปฎิบัติได้จริง โดยได้มอบหมายให้นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม และนายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ร่วมกันดูรายละเอียดของแผนฟื้นฟูการบินไทยที่มีการปรับปรุง ก่อนที่จะมีการนำเสนอให้กระทรวงคมนาคมสรุปผลอย่างเป็นทางการก่อนเข้า ครม.อีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับแผนฟื้นฟูการบินไทยนั้น จะพบว่าไม่มีแผนการสร้างรายได้ในอนาคตที่ชัดเจน ,แผนการบริหารหนี้, แผนรายจ่ายที่จะต้องดำเนินการตามกรอบเวลาให้เห็นภาพที่ชัดเจน ขณะเดียวกันตามแผนตามยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินการทุกอันของการบินไทย มีการระบุว่าล้วนมีความเสี่ยงทุกแผนการดำเนินงาน  ดังนั้น จึงทำให้มีข้อกังวลว่าหากแผนดำเนินการและเกิดความเสี่ยงขึ้น การที่ภาครัฐบาลจะใส่เม็ดเงินเข้าไปช่วยเหลือจะมีความเสี่ยง ทำให้เม็ดเงินที่ใส่สูญเปล่าหรือไม่


นอกจากนี้ แผนฟื้นฟูที่การบินไทยทำมาไม่มีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินระยะต่อไปอย่างไร และไม่มีการประเมินเปรียบเทียบว่า หากระยะเวลาการแพร่ระบาดโควิด-19 จะยุติระยะสั้น หรือยืดเยื้อในอนาคต  ต้องใช้เงินฟื้นฟูเท่าใด,  หากการแพร่ระบาดผ่านไปการบินไทยจะมีแผนสร้างรายได้จากธุรกิจที่มีอยู่ หรือจัดตั้งเป็นหน่วยธุรกิจ และมีพันธมิตรที่จะมาร่วมดำเนินการ เพื่อต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ซึ่งแผนทั้งหมดเห็นได้ชัดว่าไม่มีความชัดเจนที่จะแก้ไขปัญหาและสร้างรายได้ให้กลับมา 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้การบินไทยกลับมาเป็นสายการบินแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แต่ทาง การบินไทยเองก็ต้องช่วยเหลือตัวเองที่จะรักษาองค์กรให้เดินหน้าต่อไปได้ร่วมกัน ไม่ใช่นึกถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้าของตัวเองเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง