ยะลา 29 เม.ย. – จ.ยะลา ปิดพื้นที่เสี่ยงแพร่ระบาดโควิด-19 ห้ามเดินทางเข้า-ออก หลังพบผู้ติดเชื้ออีก 2 ราย พร้อมมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอเมืองยะลา พร้อมด้วยนายมะสดี หะยีปิ นายกเทศมนตรีตำบลท่าสาป ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา ลงพื้นที่หมู่ 3 บ้านลิมุด ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา นำถุงยังชีพ ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม จำนวน 363 ชุด มอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากทางจังหวัดได้ประกาศปิดพื้นที่หมู่ 3 บ้านลิมุด ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนอยู่กับบ้าน จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ป้องกันการแพร่เชื้อ
นายมัสดี หะยีปิ นายกเทศบาลตำบลท่าสาป เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ท่าสาป มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 2 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ อสม. และเด็ก สาเหตุของการรับเชื้อ สืบเนื่องจากน้องชายเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดโรคโควิด-19 โดยติดเชื้อขณะปฏิบัติหน้าที่ และต้องเข้าสู่กระบวนการรับการรักษา ขณะเดียวกัน ต้องทำหน้าที่ดูแลแม่ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง และหลานเป็นคนพิการ ทำให้ไม่มีเวลาดูแล จึงย้ายแม่และหลานพิการมาอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านลิมุด ต.ท่าสาป ซึ่งเป็นบ้านพี่สาว ทำหน้าที่เป็น อสม.ในหมู่บ้าน เมื่อย้ายมาได้กักตัวเอง 14 วัน จากนั้นพี่สาวได้เข้าร่วมทำหน้ากากอนามัยกับ อสม.ในหมู่บ้าน เพื่อแจกจ่ายประชาชน
กระทั่งนโยบายผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มีการคัดกรองเข้มข้นและสอบสวนโรคในพื้นที่ พบว่า พี่สาวติดเชื้อโควิด-19 จากหลานพิการ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวทั้ง 2 คน ไปรักษาที่โรงพยาบาลยะลา พร้อมทั้งสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสเพิ่ม และได้ทำการกักตัวเจ้าหน้าที่ อสม. ที่ร่วมทำหน้ากากผ้าในครั้งนั้น จำนวน 40 ราย เพื่อสังเกตอาการ 14 วัน. – สำนักข่าวไทย