การบินไทยขอทำศูนย์ซ่อมบำรุงเครื่องบินต่อ

กรุงเทพฯ 27 เม.ย. – การบินไทยประสานขอทำโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานต่อ แม้แอร์บัสไม่ร่วมทุน เตรียมหาผู้ร่วมทุนรายใหม่แทน  ยอมรับนักลงทุนต่างชาติสนใจไทยเป็นศูนย์กลางลงทุน หลังบริหารจัดการโควิด-19 ยอดเยี่ยม


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยภายหลังประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) โดยมีนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม กบอ.มีมติอนุมัติตามที่คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ซึ่งมีผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานเสนอผลการคัดเลือกเอกชนพัฒนาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอสเป็นผู้ชนะการคัดเลือก จากนั้นเตรียมเสนอคณะกรรมการอีอีซีชุดใหญ่ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณา  และเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  คาดว่าลงนามสัญญาร่วมกับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอสเดือนพฤษภาคมนี้  

ด้านบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)  ยืนยันพร้อมเดินหน้าโครงการสร้างศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ต่อไป แม้แอร์บัสขอไม่ร่วมลงทุนขณะนี้ เพราะติดปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยินดีจะให้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มที่ ดังนั้น ทางการบินไทยจึงมีเวลาในการหาพันธมิตร่วมทุนรายใหม่ แม้อุตสาหกรรมการบินชะลอตัวลงในช่วงนี้ แต่จะกลับมาดีขึ้นพอดีกับการก่อสร้างเสร็จปี 2566  ซึ่งทางสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาตา ประเมินว่าธุรกิจการบินจะกลับมาประมาณร้อยละ 50 ภายในครึ่งปีแรกปี 2564 ดังนั้น สนามบินสร้างเสร็จปี 2566 น่าจะทันพอดีกับช่วงการกลับมาอีกครั้งของธุรกิจการบิน สำหรับเงินลงทุนจะมียอดรวม 290,000 ล้านบาท เฉลี่ยปีละประมาณ 50,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีการลงทุนคาร์โก้และการลงทุนที่เกี่ยวข้อง ด้านการจ้างงานในช่วง 5 ปีแรกที่เริ่มเปิดดำเนินการ ปีแรกมีการจ้างงาน 15,000 คน รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีอากรได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 60,000 ล้านบาท 


นายโชคชัย ปัญญายงค์  รองเลขาธิการ สายงานโครงสร้างพื้นฐาน  กพอ. กล่าวยืนยันว่า ทุกแผนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกยังคงเดินหน้าต่อไป  โดยทางกองทัพเรือลงทุนก่อสร้างแฮงก้าหรือศูนย์การซ่อมอากาศยานที่มีขนาดใหญ่สามารถรองรับเครื่องบินเข้าซ่อมพร้อมกันได้ 5-7 ลำ ระยะเวลาก่อสร้างอย่างน้อย 3-4 ปี ซึ่งทางกองทัพเรือและอีอีซี มีผู้ออกแบบเรียบร้อยแล้ว  ขณะที่การบินไทยเดินหน้าลงทุนเรื่องเครื่องมือซ่อม เมื่อทางแอร์บัสไม่ร่วมลงทุน แต่พร้อมยินดีให้ความร่วมมือด้านเทคโนโลยี การบินไทยจึงมีทางเลือก  2 ทาง คือ การบินไทยหาเอกชนอื่นมาร่วมลงทุนและฝ่ายบริหารการบินไทยประสานมาว่า โครงการเป็นประโยชน์ต่อการบินไทย จึงจะทำต่อ และระหว่างก่อสร้าง 3-4 ปี มีโอกาสที่ทั้งแอร์บัสและโบอิ้งจะยังสามารถเข้ามาร่วมลงทุนได้  สำหรับสิ่งแรกที่จะเห็น คือ การเร่งก่อสร้างที่จะใช้เวลา 4 ปีครึ่ง เสร็จปี 2567 ตัวสนามบินเสร็จ ส่วนภาครัฐ การบินไทยศูนย์ซ่อมเดินคู่ขนาน การชักจูงเอกชนลงทุนอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องก็ดำเนินการไปด้วย

สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาเป็น “เมืองการบินภาคตะวันออก” พื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 (Passenger Terminal Building 3) ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน (Commercial Gateway and Ground Transportation Centre) ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (Maintenance Repair and Overhaul) เขตประกอบการค้าเสรี และเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง (Cargo Village or Free Trade Zone) ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์ (Cargo Complex) และศูนย์ฝึกอบรมการบิน (Aviation Training Centre)

เลขาธิการอีอีซี กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าไทยต้องเผชิญปัญหาโควิด-19 แต่แผนการทำงานด้านการลงทุนยังคืบหน้าไม่หยุด หลังจากการสร้างรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ผ่านความชอบจาก ครม. การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังจะเริ่มเปิดข้อเสนอของภาคเอกชน 1-2 วันข้างหน้า เมื่อได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ไทยจะเริ่มเปิดบ้าน New Normal ทั้งการกลับมาพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว การลงทุนจนถึงสิ้นปีนี้  ยอมรับว่านักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาปักหลักลงทุนในประเทศไทย เพราะมีความเชื่อมั่นต่อระบบบริหารจัดการด้านสาธารณสุขป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 เป็นอย่างดีมีระบบ ยอดผู้ติดเชื้อลดลงต่อเนื่อง นักลงทุนทั้งจีน ญี่ปุ่น อิตาลี และชาติอื่นสนใจมาก ดังนั้น เมื่อวงการแพทย์คิดค้นหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้แล้ว ไตรมาสแรกปี 2564 จะสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในประเทศได้ในครึ่งหลังปี 2564 เป็นต้นไป.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]