“ศักดิ์สยาม” เร่งเครื่องเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% ภายในปี 64

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – “ศักดิ์สยาม” เร่งเครื่องเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% ภายในปี 64 หวังขนสินค้า 13.26 ล้านตัน พร้อมสั่ง สนข.-รฟท.-ขร. จัดทำ Action Plan แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมการพัฒนาระบบรางเป็นรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางของไทย โดยเห็นว่าจะต้องเร่งเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% จากปริมาณขนส่งทางรางที่การรถไฟฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และการสนับสนุนเอกชนร่วมบริการระบบราง ซึ่งจากระบบโครงสร้างพื้นฐานทางรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการพัฒนาในอนาคตของการรถไฟฯ นั้น เชื่อว่าเป็นโอกาสของการรถไฟฯ ที่จะเป็นระบบขนส่งหลัก พร้อมทั้งการพัฒนาระบบการขนส่ง โดยการนำสินค้าที่ขนส่งทางบกในปัจจุบัน เปลี่ยนมาขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น 30% พร้อมทั้งการใช้ศักยภาพทางรางที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ไปจัดทำแผนปฏิบัตการ (Action Plan) กำหนดความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน และกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ โดยจัดทำแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ขณะที่การให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการทางรถไฟนั้น ในส่วนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ยังไม่ได้ออกกฎให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมดำเนินการได้ โดยตนจะนำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นปะธาน เร่งพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป


“ลำพังศักยภาพของการรถไฟฯ ในขณะนี้ ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพมากขึ้น มีการแข่งขันเป็นธรรม โดยจะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพการให้บริการ ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ ผู้ประกอบการขนส่งทางบก ต้องมาเป็นพาร์ทเนอร์กับการรถไฟฯ เอาตู้คอนเทนเนอร์ เข้ามาอยู่บนแคร่ แล้วไปรอรับปลายทาง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเร็วขึ้นด้วย โดยตอนนี้การรถไฟฯ เหมือนเป็นยักษ์หลับ เราต้องปลุกยักษ์หลับให้ตื่น ลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้จริงจัง เพื่อเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งในอนาคต ทั้งในส่วนของสินค้า และผู้โดยสารที่ตอนนี้ ก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ประชาชนนจะเยอะในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ในเวลาปกติ ประชาชนไม่ใช้ เพราะ สภาพรถเก่า บางคันมีอายุ 30 ปี เนื่องจากการรถไฟฯ ขาดทุน เป็นหนี้สะสมประมาณ 1.6 แสนล้าน น้องๆ การบินไทย 2.4 แสนล้าน” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงคมนาคมมีเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น 30% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 13.26 ล้านตัน ภายในปี 2564 จากในปี 2561 ขนส่งสินค้าทางรถไฟ 10.21 ล้านตัน ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มีการเดินรถไฟสินค้า 156 ขบวนต่อวัน โดยในปี 2562 ภาพรวมการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 10.50 ล้านตัน หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับทุกระบบการขนส่ง ซึ่งถือว่าใช้ศักยภาพรางต่ำมาก จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ คือ จะต้องพัฒนาทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ ทั้งเรื่องความจุทาง และความปลอดภัย รวมถึงการติดตั้งระบบควบคุมการเดินรถ โดยเร่งติดตั้งระบบควบคุมการวิ่งขบวนรถ และการหยุดรถอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ต้องสนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อเพิ่มความถี่ของบริการ เพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด และให้เกิดการแข่งขันด้านการให้บริการและราคา รวมถึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์ย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) พร้อมทั้งการใช้มาตรการทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของการขนส่งทางราง เช่น การให้ Carbon Credit แก่ผู้ประกอบการที่ใช้การขนส่งทางราง สามารถนำไปลดหย่อนภาษี อีกทั้ง จะต้องพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเดินรถ เนื่องจากในปัจจุบัน บุคลากรขับรถไฟมีไม่เพียงพอ เช่นเดียวกันกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จึงได้สั่งการให้การรถไฟฯ ไปดำเนินการขยายโรงเรียนเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการเดินรถ อาทิ ช่างเครื่อง พนักงานขับรถ 


สำหรับในปัจจุบัน ประเทศไทยมีทางรถไฟทางเดี่ยว ระยะทาง 4,044 กิโลเมตร (กม.) ครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด แบ่งเป็น สายเหนือ 781 กม., สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 1,094 กม., สายตะวันออก 534 กม., สายแม่กลอง 65 กม. และสายใต้ 1,570 กม. ในส่วนโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ตามแผนพัฒนาทางคู่ ระยะที่ 1 รวม 9 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,671 กม. นั้น ขณะนี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการไปแล้ว 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. และช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม. 

นอกจากนี้ ที่เหลืออีก 5 เส้นทาง อยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ 3.มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.4.ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม.5.นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม.6.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.7. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. ขณะที่เส้นทางสายใหม่ 2 สายอยู่ระหว่างประกวดราคา คือ 8.เดินชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม.และ9. บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.

ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 7 สาย ระยะทางรวม 1,483 กม.วงเงิน 272,219.14 ล้านบาท อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติโครงการ ประกอบด้วย 1. สายขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 176 กม.วงเงินก่อสร้าง 26,668.36 ล้านบาท2. สายชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง308กม. วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท3.สายปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง285 กม.วงเงิน 62,859.74ล้านบาท 4.สายเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง189 กม. วงเงิน 56,837.78 ล้านบาท 5.ชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม.วงเงิน 24,294 ล้านบาท, 6.สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม.วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท และ7.ชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิกพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ตาวัย 71 ปี ขับรถพุ่งชนรถพ่วงเสียชีวิต

สมุทรสงคราม 13 ก.ค.-ตาวัย 71 ปี ขับเก๋งพุ่งชนกลางลำรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มขณะกำลังกลับรถ เสียชีวิตบนถนนสมุทรสงครามบางแพ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถพ่วงบรรทุกเสาเข็มกำลังกลับรถทำให้ตัวรถขวางถนน จังหวะนั้นรถเก๋ง ขับมาด้วยความเร็ว พุ่งชนเข้ากลางลำรถพ่วง เหตุเกิดบนถนนสมุทรสงครามบางแพ บริเวณจุดกลับรถหน้าโรงบรรจุแก๊สหุงต้ม ฝั่งขาเข้าแม่กลอง ม.9 ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ช่วงเวลา 19.18 น.วานนี้ (12 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อัมพวา รับแจ้ง จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่เกิดเหตุพบนายชาญพินิต ส่งชัย อายุ 71 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คาดเข็มขัดนิรภัย นั่งหมดสติไม่รู้สึกตัวบนเบาะคนขับ เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่างประมาณ 5 นาที กว่าจะนำร่างนายชาญพินิต ออกมาและพยายามปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่นายชาญพินิต เสียชีวิตแล้ว ใกล้กันพบรถพ่วง 22 ล้อ ลูกพ่วงไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดขวางถนนในลักษณะกำลังกลับรถ บริเวณล้อหลังรถพ่วงมี 3 เพลา รวม 12 ล้อ […]

เตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง

13 ก.ค. – ตำรวจเตรียมขอข้อมูลเส้นทางการเงิน 4 วัดดัง เข้าข่ายยักยอกเงินวัด โอนให้สีกา ก. หรือไม่ พบเจ้าอาวาสหนึ่งใน 4 วัด โอนกว่า 1 ล้านบาท ความคืบหน้าการตรวจสอบเส้นทางการเงินของสีกา ก. จากข้อมูลการสืบสวน ตำรวจเตรียมขอความร่วมมือเข้าตรวจสอบวัดที่พบว่ามีความเกี่ยวข้อง 4 วัด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ได้แก่ วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา, วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร, วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระชั้นผู้ใหญ่และบัญชีวัด เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าเงินที่โอนให้สีกา ก. เป็นเงินส่วนตัวหรือเงินวัด หลังพบว่าพระบางรูปที่มีความสัมพันธ์กับสีกา ก. รวบอำนาจการบริหารจัดการเงินของวัดเพื่อให้ทำธุรกรรมได้สะดวก โดยเฉพาะเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท พบเส้นทางการเงินโอนให้สีกา ก. 2 บัญชี เป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ส่วนพระรูปอื่นๆ ที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องยังอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนสีกา ก. จะมีเจตนาในการข่มขู่รีดไถเงินจากพระหรือไม่ ทางการสอบสวนยังไม่พบหลักฐานชัดเจนเพราะเป็นรสนิยมส่วนตัว โดยพุ่งเป้าเข้าหาพระชั้นผู้ใหญ่ เพื่อมีความสัมพันธ์และนำเงินมาใช้ส่วนตัว […]