“ศักดิ์สยาม” เร่งเครื่องเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% ภายในปี 64

กรุงเทพฯ 24 เม.ย. – “ศักดิ์สยาม” เร่งเครื่องเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% ภายในปี 64 หวังขนสินค้า 13.26 ล้านตัน พร้อมสั่ง สนข.-รฟท.-ขร. จัดทำ Action Plan แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมการพัฒนาระบบรางเป็นรถไฟทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางของไทย โดยเห็นว่าจะต้องเร่งเพิ่มปริมาณการขนส่งทางรางอีก 30% จากปริมาณขนส่งทางรางที่การรถไฟฯ ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน และการสนับสนุนเอกชนร่วมบริการระบบราง ซึ่งจากระบบโครงสร้างพื้นฐานทางรางที่มีอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงการพัฒนาในอนาคตของการรถไฟฯ นั้น เชื่อว่าเป็นโอกาสของการรถไฟฯ ที่จะเป็นระบบขนส่งหลัก พร้อมทั้งการพัฒนาระบบการขนส่ง โดยการนำสินค้าที่ขนส่งทางบกในปัจจุบัน เปลี่ยนมาขนส่งทางรางเพิ่มขึ้น 30% พร้อมทั้งการใช้ศักยภาพทางรางที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ 

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ไปจัดทำแผนปฏิบัตการ (Action Plan) กำหนดความรับผิดชอบของแต่ละหน่วยงาน และกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ โดยจัดทำแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ขณะที่การให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการทางรถไฟนั้น ในส่วนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ยังไม่ได้ออกกฎให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมดำเนินการได้ โดยตนจะนำเสนอเรื่องดังกล่าว ให้คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นปะธาน เร่งพิจารณา ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป


“ลำพังศักยภาพของการรถไฟฯ ในขณะนี้ ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าให้เอกชนเข้ามาร่วมดำเนินการ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพมากขึ้น มีการแข่งขันเป็นธรรม โดยจะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพการให้บริการ ขณะเดียวกัน หลังจากนี้ ผู้ประกอบการขนส่งทางบก ต้องมาเป็นพาร์ทเนอร์กับการรถไฟฯ เอาตู้คอนเทนเนอร์ เข้ามาอยู่บนแคร่ แล้วไปรอรับปลายทาง ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเร็วขึ้นด้วย โดยตอนนี้การรถไฟฯ เหมือนเป็นยักษ์หลับ เราต้องปลุกยักษ์หลับให้ตื่น ลุกขึ้นมาทำเรื่องนี้จริงจัง เพื่อเป็นยักษ์ใหญ่ด้านการขนส่งในอนาคต ทั้งในส่วนของสินค้า และผู้โดยสารที่ตอนนี้ ก็มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ประชาชนนจะเยอะในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ในเวลาปกติ ประชาชนไม่ใช้ เพราะ สภาพรถเก่า บางคันมีอายุ 30 ปี เนื่องจากการรถไฟฯ ขาดทุน เป็นหนี้สะสมประมาณ 1.6 แสนล้าน น้องๆ การบินไทย 2.4 แสนล้าน” นายศักดิ์สยาม กล่าว

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า กระทรวงคมนาคมมีเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น 30% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 13.26 ล้านตัน ภายในปี 2564 จากในปี 2561 ขนส่งสินค้าทางรถไฟ 10.21 ล้านตัน ทั้งนี้ ในปัจจุบัน มีการเดินรถไฟสินค้า 156 ขบวนต่อวัน โดยในปี 2562 ภาพรวมการขนส่งสินค้าอยู่ที่ 10.50 ล้านตัน หรือคิดเป็น 1% เมื่อเทียบกับทุกระบบการขนส่ง ซึ่งถือว่าใช้ศักยภาพรางต่ำมาก จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางรถไฟ คือ จะต้องพัฒนาทางคู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ ทั้งเรื่องความจุทาง และความปลอดภัย รวมถึงการติดตั้งระบบควบคุมการเดินรถ โดยเร่งติดตั้งระบบควบคุมการวิ่งขบวนรถ และการหยุดรถอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ต้องสนับสนุนภาคเอกชนเป็นผู้ร่วมให้บริการเดินรถ เพื่อเพิ่มความถี่ของบริการ เพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาด และให้เกิดการแข่งขันด้านการให้บริการและราคา รวมถึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์ย่านกองเก็บตู้สินค้า (CY) พร้อมทั้งการใช้มาตรการทางการเงิน เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของการขนส่งทางราง เช่น การให้ Carbon Credit แก่ผู้ประกอบการที่ใช้การขนส่งทางราง สามารถนำไปลดหย่อนภาษี อีกทั้ง จะต้องพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการเดินรถ เนื่องจากในปัจจุบัน บุคลากรขับรถไฟมีไม่เพียงพอ เช่นเดียวกันกับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จึงได้สั่งการให้การรถไฟฯ ไปดำเนินการขยายโรงเรียนเพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการเดินรถ อาทิ ช่างเครื่อง พนักงานขับรถ 


สำหรับในปัจจุบัน ประเทศไทยมีทางรถไฟทางเดี่ยว ระยะทาง 4,044 กิโลเมตร (กม.) ครอบคลุมพื้นที่ 47 จังหวัด แบ่งเป็น สายเหนือ 781 กม., สายตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) 1,094 กม., สายตะวันออก 534 กม., สายแม่กลอง 65 กม. และสายใต้ 1,570 กม. ในส่วนโครงการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่ ตามแผนพัฒนาทางคู่ ระยะที่ 1 รวม 9 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,671 กม. นั้น ขณะนี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการไปแล้ว 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. ช่วงฉะเชิงเทรา – คลองสิบเก้า – แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. และช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น ระยะทาง 187 กม. 

นอกจากนี้ ที่เหลืออีก 5 เส้นทาง อยู่ระหว่างก่อสร้าง คือ 3.มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กม.4.ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กม.5.นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กม.6.ช่วงหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กม.7. ช่วงประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กม. ขณะที่เส้นทางสายใหม่ 2 สายอยู่ระหว่างประกวดราคา คือ 8.เดินชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม.และ9. บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กม.

ขณะที่โครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 7 สาย ระยะทางรวม 1,483 กม.วงเงิน 272,219.14 ล้านบาท อยู่ระหว่างเสนอขออนุมัติโครงการ ประกอบด้วย 1. สายขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 176 กม.วงเงินก่อสร้าง 26,668.36 ล้านบาท2. สายชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง308กม. วงเงิน 37,527.10 ล้านบาท3.สายปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง285 กม.วงเงิน 62,859.74ล้านบาท 4.สายเด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง189 กม. วงเงิน 56,837.78 ล้านบาท 5.ชุมพร – สุราษฎร์ธานี ระยะทาง 168 กม.วงเงิน 24,294 ล้านบาท, 6.สุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง 321 กม.วงเงิน 57,375.43 ล้านบาท และ7.ชุมทางหาดใหญ่–ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม.วงเงิน 6,661.37 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ อดีตพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ กล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าพระสงฆ์ หลังถูกคุมตัวมาสอบปากคำที่กองปราบตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา โดยการสอบปากคำ เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณตี 5 จนถึงบ่าย 3 โมง อดีตพระอลงกต ให้ความร่วมมือให้ปากคำแต่ไม่ยอมลาสิกขา กระทั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เดินทางมาสอบปากคำด้วยตนเอง พร้อมเกลี้ยกล่อมให้อดีตพระอลงกต คิดถึงคุณงามความดี และการทำนุบำรุงพระศานาในอดีต ทำให้เจ้าตัวยอมสึกแต่โดยดี ทั้งนี้ ก่อนทำพิธีลาสิกขา อดีตพระอลงกต ยังได้เทศนาทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายนานกว่า 20 นาที โดยระบุว่า รู้สึกมีความสุข ที่ได้มีโอกาสบอกเล่าเรื่องราว ที่จะเป็นการรักษาซึ่งศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชนด้วยเหตุที่ได้ทำงานที่เป็นประโยชน์มากว่า 30 ปี ซึ่งบางครั้ง บางเรื่องมีข้อผิดพลาด อยากให้เข้าใจว่า มันมี 2 ด้าน ทั้งเรื่องทางโลก และทางธรรม ซึ่งทั้ง 2 […]

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]