MEA แจง 5 สาเหตุคืนเงินประกันไฟฟ้าล่าช้า





กรุงเทพฯ 18 เม.ย.- MEA  เผยคืนเงินประกันไฟฟ้าแล้ว 1.1 ล้านราย วงเงิน
3,125 ล้านบาท พร้อมแจง 5 สาเหตุลงทะเบียนแล้วไม่ได้รับคืนเงิน
พบทั้งลงทะเบียนผิดหน่วยงาน การขอคืนผ่านเซเว่น แต่ยังไม่ไปรับเงิน แจ้งรับเงินพร้อมเพย์ผิดเงื่อนไขที่ต้องผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
หรือ
MEA ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า
ตามที่
MEA ได้เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์
และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2256 3333 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นมานั้น และไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน  โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนผ่าน
MEA แล้วประมาณ
2 ล้านราย  และได้ดำเนินการคืนเงินตั้งแต่วันที่
30 มี.ค. 63 จนดึงวันที่ 14 เม.ย. 63  จำนวน 1.1 ล้านราย วงเงินกว่า 3,125 ล้านบาท

“การคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้ MEA
ขออภัยที่อาจทำให้การคืนเงินล่าช้าในบางท่าน
เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อจ่ายคืนให้ถูกต้องไม่ให้ผิดพลาด รัดกุมพยายามเร่งรัดจ่ายเงินให้ถึงมือทุกท่านอย่างถูกต้องรวดเร็วที่สุดไปพร้อมกันเมื่อลูกค้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
จะมีขั้นตอนการตรวจสอบทั้งส่วนของ
MEA และธนาคารแต่เนื่องจากช่วงนี้มีลูกค้าลงทะเบียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
MEA สามารถตรวจสอบได้วันละประมาณ 1 แสนราย
หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปให้ธนาคาร ซึ่งธนาคารเองก็จะใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง
แต่หากหลักฐานที่ส่งมาไม่ตรงกันก็จะต้องใช้เวลาการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย”นายจาตุรงค์กล่าว


ทั้งนี้
ผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้เลือกรับเงินในแต่ละช่องทางนั้น
จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับช่องทางการรับเงินที่เลือก รวมถึงขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบประมวลผล
และการประสานกับหน่วยงานการคืนเงินที่เข้าร่วม ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่
MEA ตรวจสอบสิทธิ์ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
จะมีกรอบระยะเวลาสำหรับการรับคืนเงินผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

 1.พร้อมเพย์
ประมาณ 3 วันทำการ

2.โอนบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
และธนาคารกรุงเทพ ประมาณ 7 วันทำการ (ธนาคารกรุงเทพ เริ่มโอนวันแรก 20 เม.ย. 63)

3.โอนบัญชีธนาคารกสิกรไทย ประมาณ 10 วันทำการ

4.เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา
ประมาณ 3 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน
ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 แสนรายนั้น
MEA ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่าอาจมีสาเหตุมาจากการผิดเงื่อนไขต่างๆ
ดังนี้

1.ลงทะเบียนผิดองค์กร

เนื่องจาก MEA ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นนทบุรี และสมุทรปราการ เท่านั้น สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ
นอกเหนือจาก 3 จังหวัดดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (
PEA)

2.เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงินประกัน

เนื่องจากหลักการคืนเงินประกันของ MEA จะพิจารณาว่า
ผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันนั้น เป็นบุคคลที่มีชื่อ-นามสกุล
ตรงกับผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้หรือไม่ ดังนั้น หากชื่อ-นามสกุล ไม่ตรง
ผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับเงิน ยกเว้นในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงเนื่องจากการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
หรือเป็นทายาทของผู้วางเงินประกัน จะต้องรอข้อความ
SMS จาก
MEA แจ้งให้ยื่นเอกสารยืนยันเพิ่มเติมผ่าน http://measy.mea.or.th
เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

3.รับเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ชื่อไม่ตรงกับผู้วางเงินประกัน โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกบัญชีที่ชื่อไม่ตรง
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

 4.รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
โดยระบบการลงทะเบียนของ
MEA กำหนดให้ผู้ที่เลือกช่องทางการรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์
ต้องเป็นประเภทผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น
โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

5.ระบบคืนเงินประกันผ่าน 7-ELEVEN แล้ว
แต่ผู้ขอคืนเงินประกันยังไม่ไปรับเงิน
โดยระบบนี้เมื่อ
MEA ตรวจสอบสำเร็จแล้ว จะแจ้งข้อความ SMS ที่ระบุ
จำนวนเงิน และรหัส
PIN CODE ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ขอคืนประกันได้ลงทะเบียนไว้
เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนใช้ยื่นรับเงินพร้อมกับแสดงบัตรประชาชน
แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ที่ได้รับสิทธิ์รับเงินผ่าน 7-
ELEVEN แล้วจำนวนมากที่ยังไม่ได้ไปรับเงิน
ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนไม่ไปรับในระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน (นับจากวันที่
MEA แจ้งผ่าน
SMS) MEA จะดำเนินการยกเลิกการลงทะเบียนในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม
ผู้ขอคืนเงินประกันที่ถูกยกเลิกการลงทะเบียนจะสามารถลงทะเบียนครั้งใหม่ได้ตามปกติ

“มีผู้ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ได้รับเงินแล้ว
แต่เข้าใจผิดว่ายังไม่ได้รับเงินคืน   เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่
MEA คืนให้
เพราะยอดเงินที่ได้รับคืนไม่ตรงกับยอดเงินที่เคยวางเงินประกันไว้
ซึ่งในเรื่องนี้เกิดจาก
MEA ได้คืนเงินประกันพร้อมกับดอกผลจากการวางเงินประกันของผู้ใช้ไฟฟ้า
ในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563”  
  โฆษก
MEA กล่าว

สำหรับผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
สามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนเงิน
รวมถึงตรวจสอบรหัสการยืนยันการรับเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของท่านได้ที่
https://measy.mea.or.th
ในฟังก์ชันตรวจสอบเรื่อง โดยกรอกรหัสประจำตัวประชาชน
หรือรหัสประจำตัวผู้เสียภาษี พร้อมกับหมายเลขรับเรื่อง 10 หลัก
สำนักข่าวไทย/

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถก ครม. ยังไม่คุยผู้นำกัมพูชา หลังเริ่มบานปลาย

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ นำประชุม ครม. จ่อถกสถานการณ์ไทย-กัมพูชา บอกยังไม่คุย “ฮุน มาเน็ต” หลังสถานการณ์บานปลาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินมาพร้อมกับรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวพยามสอบถามนายกรัฐมนตรีว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้นำกัมพูชาหรือไม่ หลังเคยมีการเจรจาจากกรณีที่มีการปะทะกันที่บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ชายแดนไทย-กัมพูชา จนสถานการณ์บานปลาย กัมพูชาเตรียมยื่นศาลโลกตัดสิน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ถามกลับว่าพูดคุยเพิ่มเติมจากรอบไหน ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่ารอบแรกที่นายกรัฐมนตรี เคยระบุว่าได้พูดคุยแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า “ยังค่ะ” .-315 -สำนักข่าวไทย

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล

นายกฯ เป็นประธานถวายเครื่องราชสักการะ-จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

สนามหลวง 3 มิ.ย.-นายกรัฐมนตรี และคู่สมรส เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 เวลา 19. 49 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีและคู่สมรสเดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีถวายธูปเทียนแพ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล […]