MEA แจง 5 สาเหตุคืนเงินประกันไฟฟ้าล่าช้า





กรุงเทพฯ 18 เม.ย.- MEA  เผยคืนเงินประกันไฟฟ้าแล้ว 1.1 ล้านราย วงเงิน
3,125 ล้านบาท พร้อมแจง 5 สาเหตุลงทะเบียนแล้วไม่ได้รับคืนเงิน
พบทั้งลงทะเบียนผิดหน่วยงาน การขอคืนผ่านเซเว่น แต่ยังไม่ไปรับเงิน แจ้งรับเงินพร้อมเพย์ผิดเงื่อนไขที่ต้องผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
หรือ
MEA ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า
ตามที่
MEA ได้เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์
และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2256 3333 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นมานั้น และไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน  โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนผ่าน
MEA แล้วประมาณ
2 ล้านราย  และได้ดำเนินการคืนเงินตั้งแต่วันที่
30 มี.ค. 63 จนดึงวันที่ 14 เม.ย. 63  จำนวน 1.1 ล้านราย วงเงินกว่า 3,125 ล้านบาท

“การคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้ MEA
ขออภัยที่อาจทำให้การคืนเงินล่าช้าในบางท่าน
เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อจ่ายคืนให้ถูกต้องไม่ให้ผิดพลาด รัดกุมพยายามเร่งรัดจ่ายเงินให้ถึงมือทุกท่านอย่างถูกต้องรวดเร็วที่สุดไปพร้อมกันเมื่อลูกค้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
จะมีขั้นตอนการตรวจสอบทั้งส่วนของ
MEA และธนาคารแต่เนื่องจากช่วงนี้มีลูกค้าลงทะเบียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
MEA สามารถตรวจสอบได้วันละประมาณ 1 แสนราย
หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปให้ธนาคาร ซึ่งธนาคารเองก็จะใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง
แต่หากหลักฐานที่ส่งมาไม่ตรงกันก็จะต้องใช้เวลาการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย”นายจาตุรงค์กล่าว


ทั้งนี้
ผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้เลือกรับเงินในแต่ละช่องทางนั้น
จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับช่องทางการรับเงินที่เลือก รวมถึงขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบประมวลผล
และการประสานกับหน่วยงานการคืนเงินที่เข้าร่วม ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่
MEA ตรวจสอบสิทธิ์ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
จะมีกรอบระยะเวลาสำหรับการรับคืนเงินผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

 1.พร้อมเพย์
ประมาณ 3 วันทำการ

2.โอนบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
และธนาคารกรุงเทพ ประมาณ 7 วันทำการ (ธนาคารกรุงเทพ เริ่มโอนวันแรก 20 เม.ย. 63)

3.โอนบัญชีธนาคารกสิกรไทย ประมาณ 10 วันทำการ

4.เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา
ประมาณ 3 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน
ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 แสนรายนั้น
MEA ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่าอาจมีสาเหตุมาจากการผิดเงื่อนไขต่างๆ
ดังนี้

1.ลงทะเบียนผิดองค์กร

เนื่องจาก MEA ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นนทบุรี และสมุทรปราการ เท่านั้น สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ
นอกเหนือจาก 3 จังหวัดดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (
PEA)

2.เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงินประกัน

เนื่องจากหลักการคืนเงินประกันของ MEA จะพิจารณาว่า
ผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันนั้น เป็นบุคคลที่มีชื่อ-นามสกุล
ตรงกับผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้หรือไม่ ดังนั้น หากชื่อ-นามสกุล ไม่ตรง
ผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับเงิน ยกเว้นในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงเนื่องจากการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
หรือเป็นทายาทของผู้วางเงินประกัน จะต้องรอข้อความ
SMS จาก
MEA แจ้งให้ยื่นเอกสารยืนยันเพิ่มเติมผ่าน http://measy.mea.or.th
เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

3.รับเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ชื่อไม่ตรงกับผู้วางเงินประกัน โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกบัญชีที่ชื่อไม่ตรง
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

 4.รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
โดยระบบการลงทะเบียนของ
MEA กำหนดให้ผู้ที่เลือกช่องทางการรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์
ต้องเป็นประเภทผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น
โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

5.ระบบคืนเงินประกันผ่าน 7-ELEVEN แล้ว
แต่ผู้ขอคืนเงินประกันยังไม่ไปรับเงิน
โดยระบบนี้เมื่อ
MEA ตรวจสอบสำเร็จแล้ว จะแจ้งข้อความ SMS ที่ระบุ
จำนวนเงิน และรหัส
PIN CODE ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ขอคืนประกันได้ลงทะเบียนไว้
เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนใช้ยื่นรับเงินพร้อมกับแสดงบัตรประชาชน
แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ที่ได้รับสิทธิ์รับเงินผ่าน 7-
ELEVEN แล้วจำนวนมากที่ยังไม่ได้ไปรับเงิน
ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนไม่ไปรับในระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน (นับจากวันที่
MEA แจ้งผ่าน
SMS) MEA จะดำเนินการยกเลิกการลงทะเบียนในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม
ผู้ขอคืนเงินประกันที่ถูกยกเลิกการลงทะเบียนจะสามารถลงทะเบียนครั้งใหม่ได้ตามปกติ

“มีผู้ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ได้รับเงินแล้ว
แต่เข้าใจผิดว่ายังไม่ได้รับเงินคืน   เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่
MEA คืนให้
เพราะยอดเงินที่ได้รับคืนไม่ตรงกับยอดเงินที่เคยวางเงินประกันไว้
ซึ่งในเรื่องนี้เกิดจาก
MEA ได้คืนเงินประกันพร้อมกับดอกผลจากการวางเงินประกันของผู้ใช้ไฟฟ้า
ในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563”  
  โฆษก
MEA กล่าว

สำหรับผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
สามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนเงิน
รวมถึงตรวจสอบรหัสการยืนยันการรับเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของท่านได้ที่
https://measy.mea.or.th
ในฟังก์ชันตรวจสอบเรื่อง โดยกรอกรหัสประจำตัวประชาชน
หรือรหัสประจำตัวผู้เสียภาษี พร้อมกับหมายเลขรับเรื่อง 10 หลัก
สำนักข่าวไทย/

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]