MEA แจง 5 สาเหตุคืนเงินประกันไฟฟ้าล่าช้า





กรุงเทพฯ 18 เม.ย.- MEA  เผยคืนเงินประกันไฟฟ้าแล้ว 1.1 ล้านราย วงเงิน
3,125 ล้านบาท พร้อมแจง 5 สาเหตุลงทะเบียนแล้วไม่ได้รับคืนเงิน
พบทั้งลงทะเบียนผิดหน่วยงาน การขอคืนผ่านเซเว่น แต่ยังไม่ไปรับเงิน แจ้งรับเงินพร้อมเพย์ผิดเงื่อนไขที่ต้องผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น

นายจาตุรงค์ สุริยาศศิน ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง
หรือ
MEA ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า
ตามที่
MEA ได้เปิดให้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์
และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2256 3333 ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นมานั้น และไม่มีกำหนดปิดรับลงทะเบียน  โดยปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนผ่าน
MEA แล้วประมาณ
2 ล้านราย  และได้ดำเนินการคืนเงินตั้งแต่วันที่
30 มี.ค. 63 จนดึงวันที่ 14 เม.ย. 63  จำนวน 1.1 ล้านราย วงเงินกว่า 3,125 ล้านบาท

“การคืนเงินหลักประกันการใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้ MEA
ขออภัยที่อาจทำให้การคืนเงินล่าช้าในบางท่าน
เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อจ่ายคืนให้ถูกต้องไม่ให้ผิดพลาด รัดกุมพยายามเร่งรัดจ่ายเงินให้ถึงมือทุกท่านอย่างถูกต้องรวดเร็วที่สุดไปพร้อมกันเมื่อลูกค้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
จะมีขั้นตอนการตรวจสอบทั้งส่วนของ
MEA และธนาคารแต่เนื่องจากช่วงนี้มีลูกค้าลงทะเบียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก
MEA สามารถตรวจสอบได้วันละประมาณ 1 แสนราย
หลังจากนั้นก็จะส่งข้อมูลไปให้ธนาคาร ซึ่งธนาคารเองก็จะใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง
แต่หากหลักฐานที่ส่งมาไม่ตรงกันก็จะต้องใช้เวลาการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมด้วย”นายจาตุรงค์กล่าว


ทั้งนี้
ผู้ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ที่ได้เลือกรับเงินในแต่ละช่องทางนั้น
จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับช่องทางการรับเงินที่เลือก รวมถึงขึ้นอยู่กับการตรวจสอบข้อมูลผ่านระบบประมวลผล
และการประสานกับหน่วยงานการคืนเงินที่เข้าร่วม ซึ่งผู้ลงทะเบียนที่
MEA ตรวจสอบสิทธิ์ถูกต้องครบถ้วนแล้ว
จะมีกรอบระยะเวลาสำหรับการรับคืนเงินผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้

 1.พร้อมเพย์
ประมาณ 3 วันทำการ

2.โอนบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
และธนาคารกรุงเทพ ประมาณ 7 วันทำการ (ธนาคารกรุงเทพ เริ่มโอนวันแรก 20 เม.ย. 63)

3.โอนบัญชีธนาคารกสิกรไทย ประมาณ 10 วันทำการ

4.เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา
ประมาณ 3 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ในจำนวนผู้ที่ลงทะเบียนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินคืน
ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 แสนรายนั้น
MEA ได้ดำเนินการตรวจสอบและพบว่าอาจมีสาเหตุมาจากการผิดเงื่อนไขต่างๆ
ดังนี้

1.ลงทะเบียนผิดองค์กร

เนื่องจาก MEA ดูแลระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
นนทบุรี และสมุทรปราการ เท่านั้น สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ
นอกเหนือจาก 3 จังหวัดดังกล่าว จะต้องลงทะเบียนผ่านการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (
PEA)

2.เป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ในเงินประกัน

เนื่องจากหลักการคืนเงินประกันของ MEA จะพิจารณาว่า
ผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันนั้น เป็นบุคคลที่มีชื่อ-นามสกุล
ตรงกับผู้วางเงินประกันการใช้ไฟฟ้าไว้หรือไม่ ดังนั้น หากชื่อ-นามสกุล ไม่ตรง
ผู้ลงทะเบียนจะไม่ได้รับเงิน ยกเว้นในกรณีที่ข้อมูลไม่ตรงเนื่องจากการเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
หรือเป็นทายาทของผู้วางเงินประกัน จะต้องรอข้อความ
SMS จาก
MEA แจ้งให้ยื่นเอกสารยืนยันเพิ่มเติมผ่าน http://measy.mea.or.th
เพื่อดำเนินการตรวจสอบ

3.รับเงินผ่านบัญชีธนาคารที่ชื่อไม่ตรงกับผู้วางเงินประกัน โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกบัญชีที่ชื่อไม่ตรง
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

 4.รับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
โดยระบบการลงทะเบียนของ
MEA กำหนดให้ผู้ที่เลือกช่องทางการรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์
ต้องเป็นประเภทผูกกับบัตรประชาชนเท่านั้น
โดยผู้ลงทะเบียนที่เลือกรับเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเบอร์โทรศัพท์
จะต้องรอข้อความแจ้งผลลงทะเบียนไม่สำเร็จ จึงจะสามารถลงทะเบียนใหม่ได้

5.ระบบคืนเงินประกันผ่าน 7-ELEVEN แล้ว
แต่ผู้ขอคืนเงินประกันยังไม่ไปรับเงิน
โดยระบบนี้เมื่อ
MEA ตรวจสอบสำเร็จแล้ว จะแจ้งข้อความ SMS ที่ระบุ
จำนวนเงิน และรหัส
PIN CODE ไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ผู้ขอคืนประกันได้ลงทะเบียนไว้
เพื่อให้ผู้ลงทะเบียนใช้ยื่นรับเงินพร้อมกับแสดงบัตรประชาชน
แต่ปัจจุบันยังพบว่ามีผู้ที่ได้รับสิทธิ์รับเงินผ่าน 7-
ELEVEN แล้วจำนวนมากที่ยังไม่ได้ไปรับเงิน
ซึ่งหากผู้ลงทะเบียนไม่ไปรับในระยะเวลาที่กำหนด 30 วัน (นับจากวันที่
MEA แจ้งผ่าน
SMS) MEA จะดำเนินการยกเลิกการลงทะเบียนในครั้งนั้น
อย่างไรก็ตาม
ผู้ขอคืนเงินประกันที่ถูกยกเลิกการลงทะเบียนจะสามารถลงทะเบียนครั้งใหม่ได้ตามปกติ

“มีผู้ขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าบางส่วนที่ได้รับเงินแล้ว
แต่เข้าใจผิดว่ายังไม่ได้รับเงินคืน   เนื่องจากไม่ทราบว่าเป็นเงินประกันการใช้ไฟฟ้าที่
MEA คืนให้
เพราะยอดเงินที่ได้รับคืนไม่ตรงกับยอดเงินที่เคยวางเงินประกันไว้
ซึ่งในเรื่องนี้เกิดจาก
MEA ได้คืนเงินประกันพร้อมกับดอกผลจากการวางเงินประกันของผู้ใช้ไฟฟ้า
ในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563”  
  โฆษก
MEA กล่าว

สำหรับผู้ลงทะเบียนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า
สามารถตรวจสอบสถานะการขอคืนเงิน
รวมถึงตรวจสอบรหัสการยืนยันการรับเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของท่านได้ที่
https://measy.mea.or.th
ในฟังก์ชันตรวจสอบเรื่อง โดยกรอกรหัสประจำตัวประชาชน
หรือรหัสประจำตัวผู้เสียภาษี พร้อมกับหมายเลขรับเรื่อง 10 หลัก
สำนักข่าวไทย/

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ณัฐพล ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธม

ทำเนียบ 21 ก.ค.-พล.อ.ณัฐพล ลั่นกัมพูชาบอกไม่รู้ไม่ได้ หลังคนกัมพูชาป่วนปราสาทตาเมือนธมหลักพันคนวานนี้ ขอคนไทย 70 จังหวัดที่ด่าเป็นหมานำราชสีห์ เข้าใจ หากอ่อนหรือแข็งไป จะหาที่ลงไม่ได้ ทำ 7 จังหวัดชายแดนเดือดร้อน เผยมีมาตรการรับมือป่วนซ้ำ แต่ไม่ขอแจงรายละเอียด พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ศบ.ทก. ถึงกรณีกัมพูชาขนมวลชนมาป่วนที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า รัฐบาลกัมพูชาจะบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะมาเป็นหลักพันคน แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องแก้ไขทำความเข้าใจกับประชาชนไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนกัมพูชามาทำแบบเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยดูอยู่ทั้งหมด เราไม่อยากให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความเครียด อยากจะบอกกับสื่อมวลชนว่าขณะนี้ประชาชนตามแนวชายแดน 7 จังหวัด เดือดร้อนมาก “เขากดดันผมว่า เมื่อไหร่จะจบเสียทีผมอยู่ตรงนี้ผมต้องรักษาบรรยากาศจะต้องไม่อ่อนแอหรือเข้มแข็งเกินไป จนหาที่ลงไม่ได้ ผมจะโดนทั้ง 2 ทาง ขณะนี้ พี่น้องอีก 70 จังหวัดก็จะมาด่าว่า ทำไมดูไม่เข้มแข็งเด็ดขาด เหมือนหมานำราชสีห์ แต่ไม่เคยสนใจ พี่น้อง 7 จังหวัดชายแดน ว่าเขาเดือดร้อนอย่างไร แต่ผมไม่อยากให้ ไปทำข่าวว่าพี่น้อง 7 […]

ปปป.ประชุมสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนหรือไม่

บก.ปปป. 21 ก.ค. – ผู้การ ปปป. เรียกประชุมชุดทำงาน ตรวจสอบเส้นเงิน “ทิดสฤษดิ์” เอี่ยวทุจริตเงินวัด-เสพเมถุนเศรษฐินีหรือไม่ ขณะเดียวกันยังแบ่งชุดสืบ ลงพื้นที่วัดนครสวรรค์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง ช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) เรียกประชุมชุดทำงานคดี “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ที่ต้องสงสัยว่ามีสัมพันธ์กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ อายุ 57 ปี และใช้ชีวิตอยู่กินด้วยกัน ส่งเสียเลี้ยงดูฉันผัวเมียมานานกว่า 15 ปี รวมไปถึงอยู่ระหว่างขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินวัดหรือไม่ ในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง โดยสาระสำคัญวันนี้ ทาง ปปป.ได้เรียกพนักงานสอบสวนประชุมเพื่อวางแนวทาง และกรอบการทำงานในกรณีของเส้นเงินเท่านั้น ส่วนเรื่องอื้อฉาวนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หลังจากได้เปิดศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและส่งเสริมพระธรรมวินัย จึงได้มอบหมายให้ ปคม. เป็นเจ้าของคดีหลัก ให้ตรวจสอบถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามีสีกาเกี่ยวข้องกับทิดสฤษดิ์กี่คนและเข้ามามีสัมพันธ์ด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ ในฐานะอะไร ซึ่งคดีนี้เป็นเรื่องความผิดทางอาญา จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่ามีการร่วมกันทุจริตจริงหรือไม่ จากนั้นทั้ง ปปป. และ ปคม.ก็จะเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง

ก.ต่างประเทศ 20 ก.ค. – กต.ประณามกัมพูชาอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซัดขัด กม.ระหว่างประเทศร้ายแรง ละเมิดอธิปไตยไทย จี้ให้ความร่วมมือเก็บกู้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อ่านแถลงการณ์เรื่องการประท้วงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ บริเวณช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นเหตุให้กำลังพลของไทยได้รับบาดเจ็บ ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 รวม 3 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนตามปกติ ในดินแดนของไทย บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น รัฐบาลไทยได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า ภายหลังการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า ทุ่นระเบิดที่พบ ไม่มีการใช้ หรือมีอยู่ในคลังอาวุธของไทย และเป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ เมื่อประกอบกับการประมวลข้อมูล และหลักฐานสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่หน่วยงานความมั่นคงตรวจพบ นำไปสู่การสรุปได้ว่า เป็นการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระทำที่ละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลอย่างชัดเจน ไทยในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาฯ จะดำเนินการตามกระบวนการภายใต้อนุสัญญาฯ โดยจะยังคงหาทางแก้ปัญหากับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีต่าง […]

มทภ.2 ยินดีเขมรขนคนเที่ยวโบราณสถานไทย เตือนเคารพกฎ

20 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 ฮึ่มป่วน “ปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย” เจอมาตรการเบาไปหนัก ยินดีเขมรขนคนมาชมสองโบราณสถานของไทย ส่วนโซเชียลรณรงค์คนไทยเจ้าบ้านใส่เสื้อไทยร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 20 ก.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีกัมพูชาขนประชาชนกัมพูชาหลายรถบัสขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ว่า รู้สึกยินดีและขอต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและประเทศอื่น ๆ ที่มาท่องเที่ยว เยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควายของไทย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กองทัพภาคที่ 2 กำหนดไว้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ไม่ก่อความวุ่นวาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนเข้าเยี่ยมชมได้ตามปกติ ทั้งนี้ ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นโบราณสถานที่มีความสำคัญของไทยและมีประวัติศาสตร์มายาวนาน “หากนักท่องเที่ยวคนใดก่อเหตุวุ่นวาย เจ้าหน้าที่มีมาตรการจากเบาไปหาหนักดำเนินการ ดังนั้นขออย่าให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนักท่องเที่ยวทุกคนเข้ามาเยี่ยมชมโบราณสถานของไทย ต้องเคารพกฎระเบียบของไทย” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคนไทย พร้อมข้อความภาษาไทยและภาษากัมพูชา ระบุว่า “รวมใจคนไทย ใส่เสื้อไทย ต้อนรับนักท่องเที่ยวกัมพูชา ด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพจากเจ้าของบ้านตัวจริง” -สำนักข่าวไทย