ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับบ้านพร้อมหน้า

อุบลราชธานี 8 ส.ค. – ฝนชะล้างความเศร้า ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กลับเข้าบ้านเรือนเกือบหมดแล้ว ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งในรอบกว่า 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้าน อ.น้ำยืน รอคอยความช่วยเหลือ

อุบลราชธานี 6 ส.ค. – ชุด ชรบ.แต่ละหมู่บ้านติดแนวชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยังเฝ้าระวังเข้มข้น ขณะที่บางหมู่บ้านที่หน่วยงานรัฐยังเข้าไปไม่ถึง รอความช่วยเหลือ วันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์ หลังช่วงบ่ายวานนี้ (5 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชา เข้ามาตัดลวดหีบเพลงที่ฝ่ายไทยวางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทหารกัมพูชายุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามและออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจเส้นทางพบว่าเส้นทางไปยังช่องอานม้า สถานการณ์ปกติ มีรถของชาวบ้านที่พักอาศัยในพื้นที่เดินทางเข้าออกบ้างแต่ไม่มากนัก ชาวบ้านบอกว่าต้องกลับเข้ามาเพราะห่วงบ้าน บางคนบอกต้องทำมาหากิน จึงจำเป็นต้องอยู่กับสถานการณ์ให้ได้ ยอมรับกังวลในความปลอดภัย และเตรียมพร้อมหากจำเป็นต้องมีการอพยพ จากการสำรวจยังพบว่าบางหมู่บ้าน ความช่วยเหลือหน่วยงานรัฐยังเข้าไปไม่ถึง ชาวบ้านต้องดูแลช่วยเหลือกันเอง หุงข้าว ทำกับข้าวกินกันเอง ให้ทั้งชุด ชรบ. และส่งเสบียงให้ทหารแนวหน้าด้วย บางหมู่บ้านเริ่มมีประชาชนกลับเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่ทำอาชีพสวนยางพารา และอยู่ในช่วงกำลังกรีดยาง จึงจำเป็นต้องกลับเข้ามา มิฉะนั้นผลผลิตจะเสียหาย ชาวบ้านยอมรับว่าเมื่อวานนี้พอทราบข่าวทหารกัมพูชารื้อรั้วลวดหนามตลาดช่องอานม้า รู้สึกหวั่นใจและเตรียมพร้อมอพยพหากมีประกาศเตือน เพราะยังจำเหตุการณ์ที่ต้องอพยพเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้ ขณะที่บางหมู่บ้านยังไม่เคยมีการสร้างบังเกอร์หลบภัยมาก่อน […]

ชาวบ้านเร่งสร้างบังเกอร์ หลังเหตุรื้อรั้วช่องอานม้า

อุบลราชธานี 6 ส.ค. – ชาวบ้าน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เร่งสร้างบังเกอร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ไม่สงบตามแนวชายแดน หลังทหารกัมพูชารื้อรั้วลวดหนามบริเวณช่องอานม้า หลังจากเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ทหารไทยตรวจพบทหารกัมพูชา จำนวน 5 นาย เข้ามาตัดรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางไว้เป็นแนวเขต บริเวณตลาดช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงได้สั่งให้ทหารกัมพูชายกเลิกการกระทำดังกล่าวและให้ออกจากพื้นที่ จากนั้นทหารไทยได้เข้าดำเนินการกางรั้วหนามคืนสู่สภาพเดิม และตรึงกำลังในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทีมข่าวเข้าไปสำรวจชาวบ้านที่อยู่ติดชายแดน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พบว่าเหตุการณ์ยังปกติ ซึ่งแต่ละหมู่บ้านมีชุด ชรบ. คอยออกตรวจตราอยู่ประจำ ส่วนใหญ่หมู่บ้านบริเวณนี้จะมีบังเกอร์ไว้หลบภัย ขณะที่บางหมู่บ้านยังไม่มี วันนี้ได้เร่งเสร้างบังเกอร์ขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับชาวบ้าน พบว่าบางหมู่บ้านความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐยังเข้าไม่ถึง ทำให้ต้องดูแลกันเอง รวมถึงส่งเสบียงอาหารให้ทหารที่อยู่ตามแนวชายแดนด้วย สำหรับค่ำคืนนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรอฟังผลการประชุม GBC วันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ขณะที่มีชาวบ้านบางส่วนออกจากศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อกลับบ้านไปทำมาหากิน เนื่องจากอยู่ในช่วงกรีดยาง.-สำนักข่าวไทย

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

ผู้ว่าฯ อุบลฯ ฝากประชาชนในพื้นที่ตามข่าวสารจากแหล่งเชื่อถือได้

อุบลราชธานี 29 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 6 เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียงปืนใหญ่สงบหลังเที่ยงคืน ประชาชนในศูนย์ผู้อพยพเริ่มคิดถึงบ้าน อยากให้เจรจาหาทางออกได้โดยเร็ว ด้านผู้ว่าฯ อุบลราชธานี ยืนยันไม่เป็นความจริง กรณีมีกระแสข่าวเกิดเสียงปืนใหญ่ที่ช่องบก และโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน ช่วงเช้าที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากเวลา 24.00 น. ไม่มีเสียงปืนใหญ่ดังในพื้นที่ บรรยากาศตลอดช่วงเช้ายังคงเงียบสงบ เนื่องจากทางอำเภอยังไม่ได้ให้ผู้อพยพเดินทางกลับเข้าพื้นที่ ยังคงให้ชุดผู้นำชุมชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น ประจำการในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังต้องรอคำสั่งจากทางรัฐบาลและกองทัพเท่านั้น ส่วนที่ศูนย์อพยพแห่งหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และทำตามระเบียบข้อปฏิบัติของศูนย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกไปข้างนอกที่จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจเช็กยอดประจำทุกวัน โดยตลอด 6 วันที่ผ่านมา ทางศูนย์จะอำนวยความสะดวก มีอาหารให้บริการครบ 3 มื้อ และมีบางส่วนเริ่มปรับตัวได้ เนื่องจากอยู่มาหลายวัน อีกทั้งยังคงติดตามข่าวสารการเจรจาของทหารในวันนี้ว่าจะจบลงอย่างไร เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน รวมถึงขาดรายได้ ขณะเดียวกันยังมีภาครัฐและเอกชน หลั่งไหลนำสิ่งของมามอบให้ผู้อพยพตามศูนย์ต่างๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ […]

สำรวจความเสียหายระเบิดตกใส่ อ.น้ำยืน บ้านพัง 3 หลัง

อุบลราชธานี 25 ก.ค. – สำรวจความเสียหาย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังมีระเบิดตกลงมาในพื้นที่ พบบ้านเรือนเสียหาย 3 หลัง แต่ไม่มีใครได้รับอันตราย เนื่องจากประชาชนอพยพไปยังที่ปลอดภัยหมดแล้ว ทีมข่าวเดินทางลงพื้นที่ อ.น้ำยืน หลังจากมีระเบิดตกลงมาทำลายบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง โดยบ้านทั้ง 3 หลังไม่มีประชาชนอาศัย เนื่องจากอพยพไปยังที่ปลอดภัยทั้งหมดแล้ว สภาพบ้านเสียหายหมด โดยชาวบ้านใกล้เคียงให้ข้อมูลว่าตั้งแต่เวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา (25 ก.ค.) เริ่มมีเสียงปืนใหญ่ดังสนั่น จากนั้นมีระเบิดตกมายังบ้านใกล้เคียง โชคดีที่อพยพออกไปตั้งแต่เมื่อวาน จากนั้นเดินทางสำรวจในเมืองน้ำยืน พบว่าชาวบ้านกำลังอพยพไปยังที่ปลอดภัยตามแผนของทางจังหวัด เพิ่มเติมจากเมื่อวาน โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวก ส่วนตามถนน เขตเศรษฐกิจของอำเภอ ปิดเงียบทั้งหมด ทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร สถานีบริการน้ำมัน ส่วนวัดที่เป็นที่พึ่งทางจิตใจ ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะการบิณฑบาต เนื่องจากไม่มีประชาชนใส่บาตร และยังต้องอยู่ดูแลวัด รวมถึงเป็นขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ด้านผู้นำชุมชนให้ความมั่นใจแก่เพื่อนบ้านที่อพยพ จะช่วยดูแล ป้องกัน ไม่มีคนฉวยโอกาสสร้างความเดือดร้อนให้ชุมชน โดยเฉพาะขโมย ส่วนผู้อพยพจาก อ.น้ำยืน ขณะนี้ย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย […]

คืนแรกอพยพชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลฯ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ชาวบ้านน้ำยืน จ.อุบลราชธานี อพยพออกจากบ้านเรือนใกล้แนวปะทะ มายังพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์อพยพ อ.เดชอุดม ที่ทางจังหวัดจัดให้ ขณะที่เสียงปืนใหญ่สงบลงแล้ว แต่ยังต้องเฝ้าระวัง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ช่วงบ่ายทีมข่าวเดินทางไปยังพื้นที่ อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นจุดแนวปะทะ ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย 3 หลัง ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านกุดเชียงมุน 2 หลัง บ้านโพนทอง 1 หลัง โดยมีผู้เสียชีวิตจากแรงระเบิด 1 คน และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 3 คน หลังจากเกิดเหตุในช่วงเช้า ทาง อ.น้ำยืน ได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ทันที บรรยากาศในศูนย์อพยพของ อ.เดชอุดม เป็นพื้นที่อพยพ ปลอดภัย ทางจังหวัดทำแผนไว้นานกว่า 2 เดือน จึงบริหารจัดได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ เป็นความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งการทำข้อมูลผู้เข้าพัก แจกอาหารและสิ่งของที่จำเป็น ถือว่าเป็นการบริหารจัดการที่รวดเร็ว โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาจาก อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นแนวปะทะ ขณะนี้อยู่ในที่ปลอดภัย ชาวบ้านได้ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ช่วงเช้าตื่นนอนมาได้ยินเสียงปืนจึงรีบออกจากบ้าน คว้าเสื้อผ้าและสิ่งของที่จำเป็นออกเดินทางมายังศูนย์อพยพโดยรถส่วนตัว และเดินทางมาพร้อมญาติอีกทั้งยังอยากให้เหตุการณ์นี้จบลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเสียงปืนใหญ่เงียบสงบลงแล้ว […]

อพยพผู้ป่วยติดเตียง 50 คน ไปยังที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ผู้ป่วยติดเตียงกว่า 50 คน เดินทางจาก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มาถึงจุดปลอดภัยบริเวณโรงพยาบาลสนาม อ.เดชอุดม เรียบร้อยแล้ว โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ดำเนินการจัดทำโรงพยาบาลสนามฉุกเฉินตามคำสั่งของนายอำเภอ ซึ่งเป็นแผนอพยพผู้ที่อยู่ติดแนวชายแดนให้เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งโรงเรียนบ้านแขมเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ถูกจัดให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยติดเตียง โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีนักเรียนจิตอาสาช่วยดูแลเบื้องต้น โดยมีเตียงสนามจำนวน 50 เตียง และคาดว่าต้องเพิ่มปริมาณขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ผู้ป่วยติดเตียงกำลังเดินทางมาเพิ่มอีก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงมีญาติคอยประกบอยู่ไม่ห่าง.-สำนักข่าวไทย

โฆษกเพื่อไทย ย้ำ กต.เตรียมรายงาน UN ปมทุ่นระเบิดช่องบกเป็นของใหม่

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – โฆษกเพื่อไทย ย้ำกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมรายงาน UN ปมทุ่นระเบิดช่องบกเป็นของใหม่ ยันแก้ปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบทุ่นระเบิด ที่เนิน 481 ช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่าพรรคเพื่อไทยขอแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกท่าน สำหรับการตรวจสอบข้อเท็จจริง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เปิดเผยผลการตรวจสอบแล้วว่าทุ่นระเบิดที่พบเป็นระเบิดใหม่ ถูกวางอยู่เลยแนวกำลังของกัมพูชามาข้างหน้าประมาณ 100-150 เมตร หลังจากนี้กองกำลังสุรนารี จะเร่งดำเนินการเก็บกู้ทั้งหมด ซึ่งชุดเก็บกู้ต้องใช้ความระมัดระวัง และปรับสภาพให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ขณะนี้รัฐบาล โดยกระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ กำลังพิจารณาดำเนินการยื่นเรื่องไปยัง UN ในกรณีการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อไป ยืนยันว่าคู่กรณีเป็นคนวาง อย่างไรก็ตาม ทางพรรคยังคงยืนยันแนวทางการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งครั้งนี้ด้วยแนวทางสันติวิธี เพื่อสร้างสันติภาพอันยั่งยืน.-316-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก.ประชุมวงเล็ก ถกปมทุ่นระเบิดช่องบก

กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – โฆษก ศบ.ทก. ระบุวันนี้ ศบ.ทก.ประชุมวงเล็ก ถกปมทุ่นระเบิดช่องบก จ.อุบลราชธานี หลัง ทภ.2 แถลงเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกนำมาวางใหม่ ก่อนประชุมเต็มคณะกำหนดแนวทาง พรุ่งนี้ (21 ก.ค.) พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงการประชุม ศบ.ทก. วันนี้ (20 ก.ค.) ว่าเป็นการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เฉพาะกลุ่มเล็ก ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิด ซึ่งจะประชุมในเวลา 14.00 น. เพื่อเป็นการกำหนดแนวทางกรณีกองทัพภาคที่ 2 รายงานผลการตรวจสอบกรณีกำลังพลที่จังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและเหยียบกับระเบิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากนั้นในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ค. 68) เวลา 09.30 น. จะเป็นการประชุมคณะกรรมการ ศบ.ทก.ชุดใหญ่ ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เต็มคณะ รวมทั้งผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ และฝ่ายความมั่นคงที่เป็นคณะกรรมการของ ศบ.ทก. […]

124 ปี “แห่เทียนพรรษา” สืบสานศรัทธาสู่สายตาชาวโลก

อุบลราชธานี 10 ก.ค. – ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลเข้าพรรษาปีนี้ จะพาไปชมความงดงามของหนึ่งประเพณีสำคัญของชาวอุบลราชธานี กับงานแห่เทียนเข้าพรรษา ซึ่งจัดสืบสานต่อเนื่องมายาวนานถึง 124 ปี.-สำนักข่าวไทย

เริ่มแล้วประเพณีแห่เทียนพรรษาอุบลฯ

อุบลราชธานี 10 ก.ค. – ประเพณีแห่เทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี เริ่มขึ้นแล้ว ตลอดสองฝั่งถนนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติร่วมชมความสวยงามของต้นเทียนพรรษาจำนวนมาก งานประเพณีแห่ต้นเทียนพรรษา จ.อุบลราชธานี เริ่มแล้ว ปีนี้จัดขึ้น 2 วัน คือวันที่ 10-11 ก.ค.นี้ มีต้นเทียนส่งประกวด 44 ต้น ซึ่งมีน้อยกว่าทุกปีที่มีกว่า 50 ต้น จากสภาพเศรษฐกิจซบเซา ทำให้คุ้มวัดหลายแห่งไม่ส่งต้นเทียนเข้าร่วมประกวด ขบวนต้นเทียนพรรษาต้นแรกที่เริ่มแห่เป็นขบวนอัญเชิญต้นเทียนหลวงพระราชทานของในหลวงรัชกาลที่ 10 ตลอดสองฝั่งถนนมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาชมความสวยงามจำนวนมาก ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จัดแห่เทียนพรรษาทางน้ำ บริเวณตลาดบ้านแพน อ.เสนา ปีนี้มีเรือเข้าร่วม 73 ลำ เริ่มออกจากหน้าวัดโคกเสือ ต.บ้านแพน อ.เสนา ล่องไปตามแม่น้ำน้อย มายังหน้าที่ว่าการอำเภอเสนา ระยะทางกว่า 2 กม. ในแม่น้ำน้อย จากนั้นจึงแยกเทียนพรรษากระจายไปตามวัดต่างๆ ริมแม่น้ำ 5 วัด ส่วนบนฝั่งไม่น้อยหน้า มีขบวนแห่เทียน โดยนางรำจากตำบลต่างๆ ใน อ.เสนา กว่า […]

1 2 3
...