กรุงเทพฯ 15 เม.ย.-“น.อ.อนุดิษฐ์” จี้รัฐเร่งจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือประชาชนเร็วที่สุด พร้อมขอรัฐบาลตรึงราคาสินค้า จับกุมพวกฉวยโอกาส แฉบางครอบครัวไม่เหลือเงินสด ต้องไปกู้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยมหาโหด สลดเจอแม่ลูกสามที่เกือบใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายหมู่
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลเริ่มทยอยจ่ายเงินชดเชยออกมาบางส่วน พรรคเพื่อไทยได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่าถูกระบบคัดกรองปฏิเสธสิทธิ์ ทำให้ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท ทั้งที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐโดยตรง ซึ่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจให้ความร่วมมือกับรัฐบาล พยายามสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้เดือดร้อนว่าจะต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับรัฐเพื่อขอสิทธิ์ได้ แต่ดูเหมือนปัญหาจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนที่เดือดร้อนจริงกลับถูกระบบปฏิเสธ ทั้งนี้จุดอ่อนน่าจะเกิดจากระบบคัดกรองที่ไม่สามารถยืนยันว่าผู้กรอกข้อมูลคนไหนเป็นผู้เดือดร้อนตัวจริง
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้ผู้เดือดร้อนได้อุทธรณ์สิทธิ์ในสัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นเรื่องต้องเร่งดำเนินการโดยด่วน เพราะจากที่ตนลงพื้นที่และฟังเสียง ส.ส.เพื่อไทยสะท้อนความเดือดร้อนของประชาชนให้ทราบอย่างต่อเนื่อง ทุกคนมีความเป็นห่วงว่าการจ่ายเงินช่วยเหลือที่ล่าช้าเกือบเดือน ตั้งแต่ประชาชนขาดรายได้ จะทำให้บางครอบครัวอยู่ไม่รอดถึงวันรับเงิน จึงอยากเร่งรัดรัฐบาลให้แก้ปัญหานี้เป็นอันดับแรก
“ส.ส.เพื่อไทยทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารัฐบาลต้องเร่งรัดการจ่ายเงิน 5,000 บาทให้ถึงมือผู้เดือดร้อนโดยเร็วที่สุด เพราะส่วนใหญ่ตกงานขาดรายได้มาหลายอาทิตย์ เงินสะสมร่อยหรอ บางครอบครัวไม่เหลือเงินสดแล้วต้องไปกู้นอกระบบที่ดอกเบี้ยมหาโหด ผมเจอด้วยตัวเองหลายเคส เช่น แม่ลูกสามที่เกือบใช้เงินก้อนสุดท้ายซื้อยาล้างห้องน้ำฆ่าตัวตายหมู่ ถ้าไม่เจอก่อน ป่านนี้จะเป็นยังไงก็ไม่รู้ ซึ่ง ส.ส.หลายคนก็เจอแบบเดียวกัน จึงอยากวิงวอนรัฐบาลอีกครั้งให้จ่ายเงินให้ครอบคลุมทุกกลุ่มโดยเร็ว ก่อนที่เหตุการณ์ต่าง ๆ จะย่ำแย่ไปกว่านี้” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงวิธีการจ่ายเงินชดเชยของรัฐบาล แต่ขอทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการสะท้อนปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนให้รัฐบาลได้รับทราบเป็นข้อมูลเพื่อนำไปแก้ไข และเชื่อมั่นว่าหากทุกฝ่ายช่วยเหลือกันในยามวิกฤติ ผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็คือประชาชน ขณะนี้นอกจากเรื่องความล่าช้าในการจ่ายเงินชดเชยแล้ว ประชาชนยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ข้าวยากหมากแพงด้วย หากนายกรัฐมนตรีจะเร่งกำชับหน่วยงานที่รับผิดชอบต่าง ๆ รีบลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ จับกุมผู้ฉวยโอกาส และช่วยตรึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคไม่ให้พุ่งสูงขึ้นมากกว่านี้ จะช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนได้อย่างมาก โดยรัฐมนตรีที่รับผิดชอบอาจแอบลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง เพื่อจะได้ทราบความจริงเกี่ยวกับราคาสินค้า เพื่อสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ตรึงราคาสินค้าโดยด่วน เพราะไม่ได้มีแต่เฉพาะไข่ไก่ที่ราคาแพง แต่ข้าวสาร อาหารแห้ง พริก กะปิ น้ำปลา หมูเห็ดเป็ดไก่ ต่างพาเหรดราคาขึ้นไปหมดแล้ว.-สำนักข่าวไทย