สำนักข่าวไทย 15 เม.ย.- ร.ม.ต.เทวัญ ลงพื้นที่ติดตามการตรวจคัดกรองแรงงานไทยเดินทางกลับประเทศ และการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายณัฏฐชัย ศรีรุ่งสุขพินิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อคืนที่ผ่านมา (14 เม.ย.) เพื่อติดตามการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) โดยมี พล.อ.ปริพัฒน์ ผลาสินธุ์ รองเสนาธิการทหาร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมคณะให้การต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์และการดำเนินงานของศูนย์ภายหลังที่มีการจัดตั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดการบูรณาการและประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงท่าอากาศยาน รวมทั้งดำเนินการอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมอบหมาย มีภารกิจในการอํานวยการ ประสานงาน กํากับดูแล และให้การสนับสนุนช่วยเหลือการปฏิบัติส่วน ราชการที่เกี่ยวข้อง ในการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่ผ่านเข้ามาคัดกรองตามระบบ ตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงสาธารณสุข วางแผนระบบความคุม ติดตาม การเคลื่อนย้าย การระวังป้องกัน การวบรวมและคัดแยกผู้เดินทางขึ้นยานพาหนะไปส่งยังสถานที่ควบคุมเพื่อสังเกตอาการของรัฐ รวมถึงการประสานงานและประชาสัมพันธ์ ทําความเข้าใจกับผู้เดินทางและ ประชาชน การป้องปราม ยับยั้งการก่อเหตุ รวมทั้งปฏิบัติการตอบโต้ สถานการเมื่อจําเป็น รวมถึงการปฏิบัติการอื่น ๆ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ร่วมสังเกตการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่คัดกรองกลุ่มแรงงานไทย ที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐเกาหลีใต้ โดยสายการบิน Jeju Air เที่ยวบินที่ 7C2201 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา 21.40 น. จำนวน 135 คน ซึ่งผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงระบบคัดกรองด้านสุขภาพ (Health Control) จนกระทั่งผ่านกระบวนการคัดกรองของศุลกากร
นายเทวัญ กล่าวว่า กลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศทุกกลุ่ม ต้องเข้าสู่กระบวนการ State Quarantine ที่รัฐกำหนด สำหรับกลุ่มแรงงานไทย จำนวน 135 ที่เพิ่งเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อผ่านการตรวจสอบครบถ้วนตามมาตรฐานของศูนย์ EOC แล้ว ภาครัฐได้จัดรถบัสโดยสารบริการไปยังสถานที่ State Quarantine โดยต้องผ่านกระบวนการทําลายล้างพิษให้กับผู้เดินทางและสัมภาระก่อนขึ้นรถ เมื่อไปถึงที่พักแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขตรวจคัดกรองอีกครั้ง ก่อนแยกย้ายเข้าห้องพักโดยจัดให้พักห้องละ 1 คน หรือท่านใดประสงค์จะเข้าพักด้วยกันก็ต้องกรอกเอกสารยืนยันให้เจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ที่ผ่านการปฏิบัติงานคัดกรองผู้โดยสารในท่าอากาศยานทุกแห่ง จะต้องเข้ากระบวนการทําลายล้างพิษก่อนเดินทางกลับหรือเริ่มปฏิบัติงานครั้งต่อไป.-สำนักข่าวไทย