สุวรรณภูมิประชุม EOC ยกระดับเฝ้าระวัง “โอไมครอน”

สุวรรณภูมิประชุม EOC ยกกระดับเฝ้าระวัง “โอไมครอน”

สุวรรณภูมิ 29 พ.ย. – EOC ประชุมพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติมสำหรับการเฝ้าระวังโควิดกลายพันธุ์ โอไมครอน หลังสำนักงานการบินพลเรือนฯ ประกาศควบคุมผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงแล้ว


เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (EOC) ได้ประชุมเพื่อพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติมสำหรับการเฝ้าระวังโควิด-19 กลายพันธุ์ “โอไมครอน” หลังจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศแจ้งสายการบินทั่วโลก ให้ทราบว่าไทยจะมีข้อกำหนดสำหรับผู้โดยสารที่เดินทางมาจาก 8 ประเทศ มีการกำหนดมาตรการกักตัว 14 วัน ของผู้โดยสารกลุ่มนี้ ถ้าเดินทางมาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 28-30 พ.ย. และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2564 เป็นต้นไป จะห้ามผู้โดยสารจากประเทศเหล่านี้เข้าประเทศไทย ในส่วนของด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ จะดำเนินการปฎิบัติตามประกาศ กพท.อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวระบุว่า ประเด็นสำคัญในการตรวจคัดกรองผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันมีการใช้วิธี RT- PCR และก่อนหน้าที่มีการเตรียมผ่อนคลายหลังการเปิดประเทศ นำวิธีการคัดกรองแบบ ATK มาใช้ ล่าสุดจะเลื่อนอออกไป โดยจะคงการคัดกรองโดย RT- PCR ต่อไป


นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ด้านปฏิบัติการรักษาการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่าในฐานะที่บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย ติดตามตัวเลขปริมาณการจราจรทางอากาศในขณะนี้ พบว่าปริมาณเที่ยวบินที่บินเข้าออกระหว่างประเทศและในประเทศปัจจุบันมีเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 1,000 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมที่มีเฉลี่ยวันละ 800 เที่ยวบิน ซึ่งก็ถือได้ว่าภายหลังเปิดประเทศ ปริมาณเที่ยวบินเพิ่มขึ้นประมาณ 20-25%

ส่วนผลกระทบของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ “โอไมครอน” จะส่งผลกระทบต่อปริมาณเที่ยวบินมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเที่ยวบินประเภทเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลท์จากยุโรป ในส่วนนี้ประเมินว่ากรณีเกิดโรคระบาดที่จะมีผลกระทบต่อปริมาณการเดินทางจะไปแสดงผลในหนึ่งเดือนข้างหน้า หรือในเดือนธันวาคมนี้

สำหรับจำนวนผู้เดินทางเข้าไทยทางอากาศ ตั้งแต่วันที่ 1-27 พฤศจิกายน 2564 ข้อมูลจาก ศบค.พบมีจำนวนทั้งสิ้น 116,323 ราย ทั้งระบบTest & Go Sandbox และ Quarantine พบติดเชื้อรวม 149 ราย คิดเป็น 0.13% เฉพาะวานนี้ (27 พ.ย.) เดินทางเข้ามา 6,115 ราย พบผู้ติดเชื้อ 5 ราย ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อทุกรายถูกส่งเข้าระบบการรักษาพยาบาลและส่งตรวจหาสายพันธุ์เพื่อการเฝ้าระวัง โดย 10 ประเทศที่มีผู้เดินทางเข้ามามากที่สุดคือ USA เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส UAE และสิงคโปร์. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี

หมายจับ สส.ปูอัด

“สส.ปูอัด” เงียบหาย หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน

“สส.ปูอัด” เงียบหาย ไม่รับสายสื่อ หลังถูกออกหมายจับข่มขืนสาวไต้หวัน ด้าน “เลขาสภาฯ” เผยเรื่องยังไม่ถึงสภา หากมาแล้วต้องบรรจุวาระขอสมาชิกให้อนุญาตดำเนินคดี

มือถือแตงโม

ดีเอสไอรับมอบมือถือแตงโม ส่งสถาบันนิติวิทย์ฯ ตรวจดีเอ็นเอ เช้านี้

โทรศัพท์มือถือ “แตงโม ภัทรธิดา” ถึงมือดีเอสไอ เก็บเข้าห้องมั่นคงลับสูงสุดตลอดคืน เช้านี้นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าห้องแล็บตรวจหาหลักฐาน