ผู้ขับแท็กซี่เศร้า รายได้หดหายเพียบในช่วงสงกรานต์

13 เม.ย.-กลุ่มคนขับแท็กซี่ รับไม่เคยเจอปัญหาหนักขนาดนี้มาก่อน จากเดิมช่วงสงกรานต์มีรายได้ 3,000-4,000 บาทต่อวัน แต่วันนี้หลังหักค่าเช่า-ค่าก๊าซ เหลือเพียงราว 100-200 บาทต่อวัน จอดคาอู่เพียบ


ปกติช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่มีวันหยุดยาว ปีใหม่หรือสงกรานต์ อาชีพคนแท็กซี่ อีกหนึ่งอาชีพที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองที่จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะถนนโล่ง ลูกค้านักท่องเที่ยวคนใช้บริการเยอะ ตามแหล่งที่คนเล่นน้ำและสถานบันเทิง นักดื่มจะรู้ดีว่าจะต้องใช้บริการแท็กซี่ และจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษหากมีการตั้งด่านเป่าแอลกอฮอล์ แต่มาปีนี้สถานการณ์ไม่เป็นเช่นที่เคยมีการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลให้ต้องยกเลิกสงกรานต์และรัฐบาลมีมตราการหลายอย่างออกมา ส่งผลต่ออาชีพขับแท็กซี่มาก 


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมามีแท็กซี่ในระบบที่จะทะเบียนถูกต้องประมาณ 8 หมื่นคัน มีคนขับประมาณ 9 หมื่นคน ในจำนวนรถที่มีอยู่ในขณะนี้ 50% เป็นรถเช่าซื้อ คือจะต้องจ่ายค่าผ่อนรถเป็นงวดรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 15,000 – 20,000 บาท  แต่ในสถานการณ์โรคโควิด รัฐบาลออกมาตรการลดการแพร่ระบาดให้คนกักตัวอยู่บ้าน Work From Home ปิดห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยว งดการเดินทางและมีมาตรการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ผู้ใช้บริการลดลง ส่งผลให้ตอนนี้มีรถจอดนิ่งไม่ได้วิ่ง เพราะไม่มีคนขับอยู่ประมาณ 40,000 หมื่นคัน  ที่เหลืออีก 4 หมื่นคันที่วิ่งให้บริการอยู่ ส่วนใหญ่เป็นรถแท็กซี่แบบเช่าซื้อ ที่คนขับหรือเจ้าของแท็กซี่จะต้องจ่ายค่าผ่อนชำระค่างวด จำเป็นต้องหารายได้มาผ่อนรถ ส่วนคนขับที่เป็นแบบเช่ากะ ส่วนใหญ่เลิกวิ่งเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดหมดแล้ว และที่ผ่านมาคนขับแท็กซี่จะมีรายได้ 1,500- 2,000 บาทต่อวัน หักค่าเช่ารถ และค่าก๊าซเอ็นจีวีเชื้อเพลิงที่เป็นต้นทุน จะเหลือเงินเก็บกลับบ้านประมาณ 300-500 บาท และหากเป็นช่วงเทศกาล รายได้จะเพิ่มขึ้น 50% หรือหากใครขยันจะหาเงินได้อีกเท่าตัว เฉลี่ยที่ประมาณ 3,000-4,000 บาทขั้นต่ำ แต่สภาพตอนนี้แม้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวไม่มี ตอนนี้แท็กซี่วิ่งรถทั้งวันได้เงินประมาณ 300-500 บาท ยังไม่รวมต้องหักค่าเช่ารถและค่าก๊าซ ทำให้เหลือเงินเพียง 100-200 บาทเท่านั้น  

นายกำพล รุ่งพิทักษ์ไพศาล อายุ 30 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่ไพศาลยานยนต์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่าทำ ที่บ้านธุรกิจอู่รถแท็กซี่มากว่า 60 ปี โดยตนถือเป็นรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ทำธุรกิจแท็กซี่มาไม่เคยประสบปัญหาหนักขนาดนี้มาก่อน ขนาดน้ำท่วมใหญ่เมื่อประมาณ 10 ปีที่ ถือว่าหนักแล้ว แต่ก็ยังไม่หนักเท่านี้ ช่วงนั้นน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่รอบนอก ยังเหลือพื้นที่ในเมืองให้พอได้วิ่งขับได้ แต่ตอนนี้ถนนโล่ง ไม่ว่าจะไปทางไหนทุกพื้นที่ คนไม่กล้าใช้บริการกลัวหมด เรียกว่าเข้าขึ้นวิกฤติ  ทั้งที่ตนอยากบอกว่าแท้จริงแล้วในบรรดารถโดยสารสาธารณะรถแท็กซี่มีความปลอดภัยสูง เพราะคนขับใส่แม็สหน้ากากอนามัยตลอด  มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมีการอบพ่นยาฆ่าเชื้อด้วย ที่สำคัญมีการจำกัดปริมาณผู้ใช้บริการตามมาตรการเว้นระยะห่าง ทำให้คนไม่แออัด ทุกครั้งที่รับส่งคนแล้ว ก็ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดรถ แต่ในช่วงแรกที่มีข่าวที่มีคนขับแท็กซี่ติดโควิดส่งผลต่อความรู้สึกของคนทั่วไป จึงอยากให้ทำความเข้าใจด้วย ในส่วนของผู้ประกอบการ แทบทุกอู่มีรถแท็กซี่จอดคาไม่มีคนขับ อู่ของตนมีอยู่ 33 คัน ตอนมีรถจอดประมาณ 23 คัน เหลือรถวิ่งหลักๆ ประมาณ 8 คันเท่านั้น จากปกติถ้าเป็นช่วงเทศกาลสงสรานต์ปีที่แล้ว รถแท็กซี่ไม่มีจอดอู่คนขับเต็มวิ่งออกตลอด ไม่มีจอดว่างสักคนแถมรถแท็กซี่ยังไม่พอจำนวนคนขับอีกด้วย 


“เมื่อก่อน ค่าเช่ากะรถแท็กซี่ เช้า 12 ชั่วโมง 600 บาท และรอบกะบ่าย 12 ชั่วโมง 600 บาท หรือหากจะเหมาควงทั้งวันอยู่ที่ 1,000 บาท เช่า 6 วันฟรี 1 วัน ด้วยสภาพตอนนี้ลดราคาเหลือเหมาทั้งวัน 300 บาท ยังหาคนไปวิ่งขับไม่ได้ เพราะไม่มีผู้โดยสารด้วย ตอนนี้เจ้าของอู่ก็มีต้นทุนที่ต้องแบกรับเช่นกันเป็นค่าไฟแนนซ์ที่ออกรถมา เพราะอู่ของตนเป็นรถใหม่ ตอนนี้มาตรการรัฐบาลช่วยเหลือทำให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน พอให้ลดต้นทุนได้บ้าง” นายกำพล กล่าว

มาดูในส่วนของคนขับกันบ้าง นายบุญช่วย โททะรินทร์ คนขับแท็กซี่แบบเช่ากะบอกว่าขับแท็กซี่มา 10 กว่าปี ไม่เคยเจอช่วงไหนที่เจอปัญหาแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่มีโควิดมา ถือว่าแย่มาก แทบไม่มีคนขึ้นแท็กซี่  เพราะคนกลัวไม่ออกจากบ้าน ตอนนี้ขับแท็กซี่มีต้นทุนแล้ว เกือบ 800 บาท ค่าเช่ารถแบบเหมาทั้งวัน 400 บาท ก๊าซอีก 400 บาท  วันนี้ขับตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง ได้ 300 บาท พอได้ค่ากินข้าวบ้าง แต่ยังไม่พอค่าเช่ากับค่าก๊าซ ครั้นจะให้หยุดไม่ทำงานอยู่บ้านเฉยๆก็ไม่ได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายประจำไหนจะค่าเช่าบ้าน ผ่อนรถมอเตอร์ไซต์ ค่ากิน ค่าอยู่  ต้องกินมาม่า ไข่ทอดทุกมื้อ ตอนนี้ถ้าคนขับแท๊กซี่เหมือนเป็นคนไข้ป่วยก็อาการสาหัสเหมือนอยู่ในห้องไอซียู หาเงินได้ถือเงินเข้าบ้าน 100 บาทถือว่าเก่งแล้ว แต่หลักๆคือยังพอได้ค่าข้าวไปวันๆไม่อดตาย เอาจริงๆคนขับแท็กซี่ก็กลัวโควิด แต่ที่สำคัญคือกลัวอดตายมากกว่า ส่วนค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนมอเตอร์ไซต์ไม่ต้องพูดถึง ยังหาเงินไปจ่ายไม่ได้ สิ่งที่ทำตอนนี้คือขอผลัดผ่อนไปก่อน 

ส่วน นายอภิญญา ธรรมนิยม อาชีพขับรถแท็กซี่มา 15 ปี สารภาพตรงๆว่าตนเป็นคนขับรถแท็กซี่แบบเช่าซื้อ ที่ผ่านมาต้องผ่อนค่ารถเป็นงวดเดือนละ 14,000 บาท  ตั้งแต่ปีใหม่มารายได้หายไปมาก ค้างไม่ได้จ่ายค่ารถมาแล้ว 2 งวด หากถึงวันที่ 25 เมษายนนี้ไม่ได้จ่าย จะถือว่าไม่ได้จ่ายค่ารถ 3 งวดติด กลัวไฟแนนซ์มายึดรถเหมือนกัน เพราะหากไม่มีรถก็เหมือนโดนตัดแขนตัดขา และตนก็ผูกพันธ์กับรถคันนี้มาก เหลือเพียงอีก 1 ปีก็จะผ่อนชำระหมด ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์ไปสอบถามมาตการช่วยเหลือแต่ได้รับคำตอบจากไฟแนนซ์ว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการ วันนี้วิ่งแท็กซี่มาได้ลูกค้า 2 ราย ได้เงินมา 200 บาท ยังพอได้ค่าข้าวบ้าง กลับบ้านไปยังมีภรรยา ลูก หลาน ให้ต้องดูแล เพราะตอนนี้ตนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของบ้าน และภรรยาเคยทำอาชีพค้าขายตอนนี้ถูกสั่งให้หยุดงานทำให้ไม่มีรายได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารทำร้าย

ทบ.ตั้ง กก.สอบปมกรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายผู้ใต้บังคับบัญชา

“ธนเดช” เผย กมธ.ทหาร รับเรื่องร้องเรียนเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา ขณะ ทบ. ตั้งกรรมการสอบแล้ว หวังเป็นตัวอย่างการลงโทษผู้บังคับบัญชาระดับสูงหากพบผิดจริง

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นพร้อมดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน

“บิ๊กแจ๊ส” ลั่นหากได้รับถ่ายโอน อบจ.ปทุมฯ พร้อมจัดงบดูแลสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ ให้เป็นปอดประชาชน หลังขาดพื้นที่ออกกำลังกาย แต่จะกระทบความมั่นคงหรือไม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องคุยกันต่อ

ข่าวแนะนำ

กฎหมายเปิดช่อง ริบรถพวกหัวร้อนบนถนนได้

จากคลิปรถเทสล่า ขับปาดหน้าบนทางด่วน ศาลสั่งจำคุก 1 เดือนคนขับ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่ที่สังคมต้องตระหนัก คือ ศาลยังสั่งริบรถเทสล่า มูลค่าเกือบ 2 ล้านคันนี้ด้วย วันนี้คนขับออกมาเปิดใจ พร้อมขอโทษคู่กรณี ขณะที่อัยการระบุ กฎหมายเปิดช่องให้ริบรถได้ เตือนผู้ขับขี่ใช้สติมากกว่าอารมณ์

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

นายกฯ ถก ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพลสีกากี 25 ตำแหน่ง

นายกฯ นั่งประธานประชุม ก.ตร. จับตาแต่งตั้งนายพล ระดับ “รอง ผบ.ตร.-ผู้ช่วย ผบ.ตร.-ผู้บัญชาการ” รวม 25 ตำแหน่ง กำชับพิจารณาให้รอบคอบ-ตรงกรอบกฎหมาย