ผู้ขับแท็กซี่เศร้า รายได้หดหายเพียบในช่วงสงกรานต์

13 เม.ย.-กลุ่มคนขับแท็กซี่ รับไม่เคยเจอปัญหาหนักขนาดนี้มาก่อน จากเดิมช่วงสงกรานต์มีรายได้ 3,000-4,000 บาทต่อวัน แต่วันนี้หลังหักค่าเช่า-ค่าก๊าซ เหลือเพียงราว 100-200 บาทต่อวัน จอดคาอู่เพียบ


ปกติช่วงเทศกาลท่องเที่ยวที่มีวันหยุดยาว ปีใหม่หรือสงกรานต์ อาชีพคนแท็กซี่ อีกหนึ่งอาชีพที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองที่จะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะถนนโล่ง ลูกค้านักท่องเที่ยวคนใช้บริการเยอะ ตามแหล่งที่คนเล่นน้ำและสถานบันเทิง นักดื่มจะรู้ดีว่าจะต้องใช้บริการแท็กซี่ และจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษหากมีการตั้งด่านเป่าแอลกอฮอล์ แต่มาปีนี้สถานการณ์ไม่เป็นเช่นที่เคยมีการแพร่ระบาดของโควิด ส่งผลให้ต้องยกเลิกสงกรานต์และรัฐบาลมีมตราการหลายอย่างออกมา ส่งผลต่ออาชีพขับแท็กซี่มาก 


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าข้อมูลตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมามีแท็กซี่ในระบบที่จะทะเบียนถูกต้องประมาณ 8 หมื่นคัน มีคนขับประมาณ 9 หมื่นคน ในจำนวนรถที่มีอยู่ในขณะนี้ 50% เป็นรถเช่าซื้อ คือจะต้องจ่ายค่าผ่อนรถเป็นงวดรายเดือนเฉลี่ยเดือนละ 15,000 – 20,000 บาท  แต่ในสถานการณ์โรคโควิด รัฐบาลออกมาตรการลดการแพร่ระบาดให้คนกักตัวอยู่บ้าน Work From Home ปิดห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยว งดการเดินทางและมีมาตรการประกาศเคอร์ฟิว ทำให้ผู้ใช้บริการลดลง ส่งผลให้ตอนนี้มีรถจอดนิ่งไม่ได้วิ่ง เพราะไม่มีคนขับอยู่ประมาณ 40,000 หมื่นคัน  ที่เหลืออีก 4 หมื่นคันที่วิ่งให้บริการอยู่ ส่วนใหญ่เป็นรถแท็กซี่แบบเช่าซื้อ ที่คนขับหรือเจ้าของแท็กซี่จะต้องจ่ายค่าผ่อนชำระค่างวด จำเป็นต้องหารายได้มาผ่อนรถ ส่วนคนขับที่เป็นแบบเช่ากะ ส่วนใหญ่เลิกวิ่งเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดหมดแล้ว และที่ผ่านมาคนขับแท็กซี่จะมีรายได้ 1,500- 2,000 บาทต่อวัน หักค่าเช่ารถ และค่าก๊าซเอ็นจีวีเชื้อเพลิงที่เป็นต้นทุน จะเหลือเงินเก็บกลับบ้านประมาณ 300-500 บาท และหากเป็นช่วงเทศกาล รายได้จะเพิ่มขึ้น 50% หรือหากใครขยันจะหาเงินได้อีกเท่าตัว เฉลี่ยที่ประมาณ 3,000-4,000 บาทขั้นต่ำ แต่สภาพตอนนี้แม้เป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยว แต่นักท่องเที่ยวไม่มี ตอนนี้แท็กซี่วิ่งรถทั้งวันได้เงินประมาณ 300-500 บาท ยังไม่รวมต้องหักค่าเช่ารถและค่าก๊าซ ทำให้เหลือเงินเพียง 100-200 บาทเท่านั้น  

นายกำพล รุ่งพิทักษ์ไพศาล อายุ 30 ปี เจ้าของอู่แท็กซี่ไพศาลยานยนต์ เปิดเผยกับทีมข่าวว่าทำ ที่บ้านธุรกิจอู่รถแท็กซี่มากว่า 60 ปี โดยตนถือเป็นรุ่นที่ 2 ตั้งแต่ทำธุรกิจแท็กซี่มาไม่เคยประสบปัญหาหนักขนาดนี้มาก่อน ขนาดน้ำท่วมใหญ่เมื่อประมาณ 10 ปีที่ ถือว่าหนักแล้ว แต่ก็ยังไม่หนักเท่านี้ ช่วงนั้นน้ำท่วมเฉพาะพื้นที่รอบนอก ยังเหลือพื้นที่ในเมืองให้พอได้วิ่งขับได้ แต่ตอนนี้ถนนโล่ง ไม่ว่าจะไปทางไหนทุกพื้นที่ คนไม่กล้าใช้บริการกลัวหมด เรียกว่าเข้าขึ้นวิกฤติ  ทั้งที่ตนอยากบอกว่าแท้จริงแล้วในบรรดารถโดยสารสาธารณะรถแท็กซี่มีความปลอดภัยสูง เพราะคนขับใส่แม็สหน้ากากอนามัยตลอด  มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมีการอบพ่นยาฆ่าเชื้อด้วย ที่สำคัญมีการจำกัดปริมาณผู้ใช้บริการตามมาตรการเว้นระยะห่าง ทำให้คนไม่แออัด ทุกครั้งที่รับส่งคนแล้ว ก็ใช้แอลกอฮอล์ทำความสะอาดรถ แต่ในช่วงแรกที่มีข่าวที่มีคนขับแท็กซี่ติดโควิดส่งผลต่อความรู้สึกของคนทั่วไป จึงอยากให้ทำความเข้าใจด้วย ในส่วนของผู้ประกอบการ แทบทุกอู่มีรถแท็กซี่จอดคาไม่มีคนขับ อู่ของตนมีอยู่ 33 คัน ตอนมีรถจอดประมาณ 23 คัน เหลือรถวิ่งหลักๆ ประมาณ 8 คันเท่านั้น จากปกติถ้าเป็นช่วงเทศกาลสงสรานต์ปีที่แล้ว รถแท็กซี่ไม่มีจอดอู่คนขับเต็มวิ่งออกตลอด ไม่มีจอดว่างสักคนแถมรถแท็กซี่ยังไม่พอจำนวนคนขับอีกด้วย 


“เมื่อก่อน ค่าเช่ากะรถแท็กซี่ เช้า 12 ชั่วโมง 600 บาท และรอบกะบ่าย 12 ชั่วโมง 600 บาท หรือหากจะเหมาควงทั้งวันอยู่ที่ 1,000 บาท เช่า 6 วันฟรี 1 วัน ด้วยสภาพตอนนี้ลดราคาเหลือเหมาทั้งวัน 300 บาท ยังหาคนไปวิ่งขับไม่ได้ เพราะไม่มีผู้โดยสารด้วย ตอนนี้เจ้าของอู่ก็มีต้นทุนที่ต้องแบกรับเช่นกันเป็นค่าไฟแนนซ์ที่ออกรถมา เพราะอู่ของตนเป็นรถใหม่ ตอนนี้มาตรการรัฐบาลช่วยเหลือทำให้จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย เป็นเวลา 3 เดือน พอให้ลดต้นทุนได้บ้าง” นายกำพล กล่าว

มาดูในส่วนของคนขับกันบ้าง นายบุญช่วย โททะรินทร์ คนขับแท็กซี่แบบเช่ากะบอกว่าขับแท็กซี่มา 10 กว่าปี ไม่เคยเจอช่วงไหนที่เจอปัญหาแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่มีโควิดมา ถือว่าแย่มาก แทบไม่มีคนขึ้นแท็กซี่  เพราะคนกลัวไม่ออกจากบ้าน ตอนนี้ขับแท็กซี่มีต้นทุนแล้ว เกือบ 800 บาท ค่าเช่ารถแบบเหมาทั้งวัน 400 บาท ก๊าซอีก 400 บาท  วันนี้ขับตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง ได้ 300 บาท พอได้ค่ากินข้าวบ้าง แต่ยังไม่พอค่าเช่ากับค่าก๊าซ ครั้นจะให้หยุดไม่ทำงานอยู่บ้านเฉยๆก็ไม่ได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายประจำไหนจะค่าเช่าบ้าน ผ่อนรถมอเตอร์ไซต์ ค่ากิน ค่าอยู่  ต้องกินมาม่า ไข่ทอดทุกมื้อ ตอนนี้ถ้าคนขับแท๊กซี่เหมือนเป็นคนไข้ป่วยก็อาการสาหัสเหมือนอยู่ในห้องไอซียู หาเงินได้ถือเงินเข้าบ้าน 100 บาทถือว่าเก่งแล้ว แต่หลักๆคือยังพอได้ค่าข้าวไปวันๆไม่อดตาย เอาจริงๆคนขับแท็กซี่ก็กลัวโควิด แต่ที่สำคัญคือกลัวอดตายมากกว่า ส่วนค่าเช่าห้อง ค่าผ่อนมอเตอร์ไซต์ไม่ต้องพูดถึง ยังหาเงินไปจ่ายไม่ได้ สิ่งที่ทำตอนนี้คือขอผลัดผ่อนไปก่อน 

ส่วน นายอภิญญา ธรรมนิยม อาชีพขับรถแท็กซี่มา 15 ปี สารภาพตรงๆว่าตนเป็นคนขับรถแท็กซี่แบบเช่าซื้อ ที่ผ่านมาต้องผ่อนค่ารถเป็นงวดเดือนละ 14,000 บาท  ตั้งแต่ปีใหม่มารายได้หายไปมาก ค้างไม่ได้จ่ายค่ารถมาแล้ว 2 งวด หากถึงวันที่ 25 เมษายนนี้ไม่ได้จ่าย จะถือว่าไม่ได้จ่ายค่ารถ 3 งวดติด กลัวไฟแนนซ์มายึดรถเหมือนกัน เพราะหากไม่มีรถก็เหมือนโดนตัดแขนตัดขา และตนก็ผูกพันธ์กับรถคันนี้มาก เหลือเพียงอีก 1 ปีก็จะผ่อนชำระหมด ที่ผ่านมาได้โทรศัพท์ไปสอบถามมาตการช่วยเหลือแต่ได้รับคำตอบจากไฟแนนซ์ว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการ วันนี้วิ่งแท็กซี่มาได้ลูกค้า 2 ราย ได้เงินมา 200 บาท ยังพอได้ค่าข้าวบ้าง กลับบ้านไปยังมีภรรยา ลูก หลาน ให้ต้องดูแล เพราะตอนนี้ตนเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักของบ้าน และภรรยาเคยทำอาชีพค้าขายตอนนี้ถูกสั่งให้หยุดงานทำให้ไม่มีรายได้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]