“จุติ” สั่ง พมจ.เร่งช่วยเหลือคนพิการ-สูงอายุ จากวิกฤติโควิด-19

พม.13 เม.ย.-รมว.พัฒนาสังคมฯ กำชับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เร่งติดตามช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายกระทรวง  ลดขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ พร้อมเพิ่มคู่สายด่วน 1300 รับแจ้งปัญหาพร้อมให้ความช่วยเหลือ


นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.)ประชุมทางไกลผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) ในพื้นที่จังหวัดภาคกลางและภาคใต้ ติดตามการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) 


นายจุติ กล่าวว่า มีความห่วงใยประชาชนกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุและคนพิการ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงสั่งการไปยัง พมจ.ทุกจังหวัด ให้มีการสำรวจประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน เพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นเร็วที่สุด โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนนมผงสำหรับเด็กเล็ก  และการขาดแคลนเครื่องอุปโภค บริโภค โดยให้ดูตามความต้องการของผู้ได้รับผลกระทบเป็นหลัก เช่น ครอบครัวไหนมีเด็กเล็กหลายคน อาจมีความต้องการนมผงมากกว่าทั่วไป ครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุ ผู้พิการ อาจต้องการสิ่งของที่แตกต่างกันออกไป ควรให้ความช่วยเหลือ ตามความเหมาะสม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด 


นายจุติ กล่าวต่อไปว่า จากการได้พูดคุยกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ พบว่า มีอุปสรรคในเรื่องขั้นตอนระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนไม่ทันต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด พม.ให้ลดขั้นตอนปรับระเบียบข้อจำกัดต่างๆ โดยให้คิดถึงประชาชนเป็นสำคัญ ระเบียบอะไรที่เป็นอุปสรรคในการดูแลความเดือดร้อนของประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ควรปรับแก้ไขดำเนินการอย่างเร่งด่วน 

สำหรับประชาชนได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ขาดแคลนเครื่องอุปโภค บริโภค และไม่มีที่อยู่อาศัย โทรแจ้งสายด่วน 1300 ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ซึ่งในสัปดาห์นี้ได้มีการขยายคู่สายด่วนเพิ่มอีก 45 คู่สาย จากเดิม 15 คู่สาย รวมเป็น 60 คู่สาย เพื่อรองรับปัญหาดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย