ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่ 28 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 13 เม.ย.-โฆษกศบค. เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย เสียชีวิต2 ราย รวม 40 ราย มั่นใจเตียงรองรับพอ หลังคนป่วยกลับบ้าน ป่วยใหม่น้อยลง ส่วนการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับตัวเลขสถิติที่ต้องลดลง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้(13 เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,579 ราย รักษาหาย 1,288 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 40 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายไทยอายุ 56 ปีมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการด้วยอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอ หอบ เหนื่อย แพทย์ส่งตรวจทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 พบว่าผลตรวจไข้หวัดใหญ่เป็นลบและยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้นและใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

โฆษกศบค. กล่าวว่า อีกรายเป็นชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานบริษัทมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไตวายเรื้อรังไขมันในเลือดสูง เริ่มป่วย 23 มีนาคมด้วยอาการไข้ 39.4 องศาเซลเซียส ไอ เหนื่อย มีน้ำมูกและถ่ายเหลว เข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานครและกลับบ้าน จากนั้นวันที่ 5 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งเดิม วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดติดเชื้อและส่งตรวจยืนยันพบเป็นโควิด-19 จากนั้นมีอาการแย่ลง หอบเหนื่อยมากขึ้น ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลง หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตวันที่ 11 เมษายน


“จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย พบว่าอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 12 ราย ภูเก็ต 6 ราย ชลบุรี ยะลา สตูล จังหวัดละ 2 ราย และชุมพร นครพนม นนทบุรี เลย จังหวัดละ 1 ราย โดยพบว่าปัจจัยเสี่ยงมาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย และ บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย มีผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียและเข้ารับการกักกันตัว 3 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,579 ราย จาก 68 จังหวัด แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 1,306 รายภูเก็ต 182 ราย นนทบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 105 ราย และยะลา 84 ราย ขณะที่จากการจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่าจังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.03 รองลงมาคือกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 23.03 และยะลา ร้อยละ15.72 ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 8-9 เมษายนและ 11-13 เมษายนพบว่าเป็นกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซียรวม 61 รายและจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 1 ราย ซึ่งการจำแนกปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับของผู้ป่วยยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วย ยืนยันก่อนหน้านี้จำนวน 441 ราย คนไทยกลับจากต่างประเทศ 145 ราย อาชีพเสี่ยง 104 รายบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 55 ราย และสถานบันเทิง 39 ราย

“สำหรับจังหวัดภูเก็ต ที่พบยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง พบว่าเป็นผู้ป่วยจากสถานบันเทิง 71 รายสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 33 รายอาทิตย์เสียง 33 รายคนต่างชาติเดินทางจากต่างประเทศ 10 รายและคนไทยมาจากต่างประเทศ 4 ราย โดยพบว่าผู้ป่วยมาตรวจหลังมีอาการภายในวันเดียว คิดเป็นร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 3 วัน ร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 7 วัน ร้อยละ 26.89 และมาตรวจหลังจาก 7 วันร้อยละ 27.73” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว 


โฆษกศบค. กล่าวว่ามาตรการของจังหวัดภูเก็ตเริ่มตั้งแต่ปิดสถานบันเทิง ปิดซอยบางลา นวดแผนไทย สนามกีฬา โรงแรมและปิดพื้นที่ป่าตอง จึงจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ ซึ่งบทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานเพื่อควบคุมป้องกันโรคที่จังหวัดภูเก็ต พบว่ากลุ่มผู้สัมภาษณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักกัน 100% ด้วยการกักกันในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพราะหากกักตัวเองที่บ้าน ยังพบว่ามีผู้ป่วยต่อเนื่อง ส่วนการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทำในกรณีการระบาดในวงกว้างเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น เพราะอาจมีปัญหาในการติดตามตรวจสอบได้ไม่ทั้งหมด และการคัดกรองในวงกว้าง ยังไม่เกิดความคุ้มค่า ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหสถาน 820 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 135 ราย 

“กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจจำนวนเตียง รองรับผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพียงพอ โดยในช่วงนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายแล้วได้กลับบ้านไป และผู้ป่วยใหม่น้อยลง ทำให้จำนวนเตียงนั้นว่างมากขึ้น ยืนยันว่าแม้สถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ อย่างที่มีการประเมินว่าอาจมีผู้ป่วยจำนวนหลายแสนคน ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถรองรับได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการหามาตรการเยียวยากับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและพบว่าปัญหาต่าง ๆ มีมากและต้องเร่งแก้ไข โดยจะตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมขึ้นมาดูแล ขณะที่มาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายได้ เช่นการเรียกร้องให้เปิดร้านตัดผม ต้องพิจารณาจากจำนวนตัวเลขสถิติที่จะต้องลดลง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะให้คณะกรรมการวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณา ยืนยันว่ารัฐบาลเข้าใจผลกระทบ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.รับทราบรายงานภาพรวมการติดตั้งจุดควบคุมการเฝ้าระวังว่าเป็นไปอย่างเข้มงวด การจัดเครื่องบินไปรับส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งของบุคคลเสี่ยงที่จังหวัดภูเก็ตมาตรวจที่กรุงเทพมหานคร เพราะสรรพกำลังการตรวจในต่างจังหวัดยังไม่เท่ากับของกรุงเทพมหานคร ส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยขณะนี้แจกจ่ายไปแล้ว กว่า 50 ล้านชิ้นทั่วประเทศ  

“มาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศ ได้ทยอยนำคนไทยกลับจากต่างประเทศโดยไม่ให้แพร่กระจายเชื้อ ส่วนปัญหาแรงงานข้ามแดนได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงและประสานกับประเทศต้นทางเพื่อจะชะลอการเดินทางเอาไว้ ขณะนี้แรงงานชายแดนทางบก ไม่มีติดค้างแล้ว และจะเพิ่มความเข้มงวด รถรับจ้างขนแรงงานและผู้ที่จะเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นของคนไทย คือ “หมอชนะ”ที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของประชาชนเพื่อการตรวจสอบความเสี่ยงติดเชื้อได้ด้วยตนเอง และ “DDC-Care” เพื่อติดตามดูแลและประเมินกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อด้วย.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

มือปืนเรียกชื่อก่อนรัวยิง “เสี่ยเปี๊ยก” ดับต่อหน้าภรรยา

กาญจนบุรี 26 มิ.ย. – สุดโหด! 2 คนร้ายเรียกชื่อก่อนรัวยิงไม่นับ สังหาร “เสี่ยเปี๊ยก” นักธุรกิจและผู้กว้างขวางเมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ตำรวจพุ่ง 3 ปม “ชู้สาว-ขัดแย้งส่วนตัว-ธุรกิจ” ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยนาทีสังหารนายสิทธิกร หรือ เสี่ยเปี๊ยก อายุ 51 ปี ในขณะที่เสี่ยเปี๊ยกเดินมากับภรรยา กำลังจะขึ้นรถกระบะสีดำ จังหวะที่เสี่ยเปี๊ยกจะเปิดประตูฝั่งคนขับ คนร้าย 2 คน ลงมาจากรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้กัน คนแรกเรียกชื่อ “เสี่ยเปี๊ยก” พร้อมกับเดินตรงเข้าไปใช้ปืนจ่อยิงศีรษะเสี่ยเปี๊ยกหลายนัดจนล้มลง ก่อนคนร้ายอีกคนเดินตามกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัด จากนั้นพากันขึ้นรถขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ส่วนภรรยาของเสี่ยเปี๊ยกเดินอ้อมมาเห็นศพสามีก็กรีดร้องด้วยความตกใจ ตะโกนขอความช่วยเหลือ บริเวณลานจอดรถหน้าร้านวัสดุก่อสร้างชื่อดังริมถนนบายพาส (เลี่ยงเมือง) จ.กาญจนบุรี เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วานนี้ (25 มิ.ย.) ภายหลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ตรวจสอบสภาพศพเสี่ยเปี๊ยก พบร่องรอยกระสุนเจาะเข้าตามศีรษะ ใบหน้า ต้นคอ ลำตัว และแขน รวม […]

ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา

พังงา 26 มิ.ย.- ตำรวจพังงา พร้อมเจ้าหน้าที่ EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ซุกหน้าจวนผู้ว่าฯ พังงา ตำรวจพังงา พร้อมด้วยตำรวจชุด EOD นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ซุกอยู่บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบและปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในจุดดังกล่าว โดยการตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ตำรวจพังงาจับกุม 2 คนร้ายชาวปัตตานี พร้อมกับรถยนต์ที่ซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ภายในรถ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ข้อมูลเบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า ตำรวจแกะรอยจากการไล่กล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันเดียวกับที่ใช้ก่อเหตุที่กระบี่ มาก่อเหตุที่พังงา.-สำนักข่าวไทย

ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ จัดทัพเริ่มนิ่ง

อสมท 26 มิ.ย. – ส่องโผ ครม. แพทองธาร ½ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 ด้าน กล้าธรรม “นฤมล” คุมนั่ง รมว.ศึกษาฯ ขณะที่ “สุชาติ ตันเจริญ” ชื่อติดนั่ง รมว.แรงงาน ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี แพทองธาร ½ สำหรับโผการจัด ครม. ล่าสุด กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย นั่งรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย 2 ตำแหน่ง คือ นายเดชอิศม์ ขาวทอง และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ส่วนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร นายชูศักดิ์ ศิรินิล […]

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]