ศบค.เผยผู้ป่วยใหม่ 28 ราย

ทำเนียบรัฐบาล 13 เม.ย.-โฆษกศบค. เผยตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย เสียชีวิต2 ราย รวม 40 ราย มั่นใจเตียงรองรับพอ หลังคนป่วยกลับบ้าน ป่วยใหม่น้อยลง ส่วนการผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับตัวเลขสถิติที่ต้องลดลง


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้(13 เม.ย.) มีรายงานผู้ป่วยใหม่ 28 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 2,579 ราย รักษาหาย 1,288 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย รวม 40 ราย โดยผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นชายไทยอายุ 56 ปีมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสมุทรปราการด้วยอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอ หอบ เหนื่อย แพทย์ส่งตรวจทั้งไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 พบว่าผลตรวจไข้หวัดใหญ่เป็นลบและยืนยันพบเชื้อโควิด-19 จากนั้นมีอาการเหนื่อยมากขึ้นและใส่ท่อช่วยหายใจและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา

โฆษกศบค. กล่าวว่า อีกรายเป็นชายไทยอายุ 43 ปี อาชีพพนักงานบริษัทมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน ไตวายเรื้อรังไขมันในเลือดสูง เริ่มป่วย 23 มีนาคมด้วยอาการไข้ 39.4 องศาเซลเซียส ไอ เหนื่อย มีน้ำมูกและถ่ายเหลว เข้ารักษาโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพมหานครและกลับบ้าน จากนั้นวันที่ 5 เมษายน อาการไม่ดีขึ้น เข้ารักษาที่โรงพยาบาลแห่งเดิม วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดติดเชื้อและส่งตรวจยืนยันพบเป็นโควิด-19 จากนั้นมีอาการแย่ลง หอบเหนื่อยมากขึ้น ความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลง หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตวันที่ 11 เมษายน


“จากจำนวนตัวเลขผู้ป่วยใหม่ 28 ราย พบว่าอยู่ที่กรุงเทพมหานคร 12 ราย ภูเก็ต 6 ราย ชลบุรี ยะลา สตูล จังหวัดละ 2 ราย และชุมพร นครพนม นนทบุรี เลย จังหวัดละ 1 ราย โดยพบว่าปัจจัยเสี่ยงมาจากการสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 18 ราย คนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 1 ราย ไปสถานที่ชุมนุมชน 1 ราย อาชีพเสี่ยง 2 ราย และ บุคลากรทางการแพทย์ 3 ราย มีผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากอินโดนีเซียและเข้ารับการกักกันตัว 3 ราย” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า ยอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,579 ราย จาก 68 จังหวัด แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 1,306 รายภูเก็ต 182 ราย นนทบุรี 150 ราย สมุทรปราการ 105 ราย และยะลา 84 ราย ขณะที่จากการจำแนกอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคน พบว่าจังหวัดภูเก็ต มีผู้ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.03 รองลงมาคือกรุงเทพมหานคร ร้อยละ 23.03 และยะลา ร้อยละ15.72 ขณะที่ผู้ป่วยรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 8-9 เมษายนและ 11-13 เมษายนพบว่าเป็นกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากอินโดนีเซียรวม 61 รายและจากสหรัฐอเมริกาจำนวน 1 ราย ซึ่งการจำแนกปัจจัยเสี่ยง 5 อันดับของผู้ป่วยยืนยัน 2 สัปดาห์ล่าสุด พบว่ามาจากการสัมผัสกับผู้ป่วย ยืนยันก่อนหน้านี้จำนวน 441 ราย คนไทยกลับจากต่างประเทศ 145 ราย อาชีพเสี่ยง 104 รายบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข 55 ราย และสถานบันเทิง 39 ราย

“สำหรับจังหวัดภูเก็ต ที่พบยอดผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง พบว่าเป็นผู้ป่วยจากสถานบันเทิง 71 รายสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 33 รายอาทิตย์เสียง 33 รายคนต่างชาติเดินทางจากต่างประเทศ 10 รายและคนไทยมาจากต่างประเทศ 4 ราย โดยพบว่าผู้ป่วยมาตรวจหลังมีอาการภายในวันเดียว คิดเป็นร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 3 วัน ร้อยละ 22.69 มาตรวจภายใน 7 วัน ร้อยละ 26.89 และมาตรวจหลังจาก 7 วันร้อยละ 27.73” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว 


โฆษกศบค. กล่าวว่ามาตรการของจังหวัดภูเก็ตเริ่มตั้งแต่ปิดสถานบันเทิง ปิดซอยบางลา นวดแผนไทย สนามกีฬา โรงแรมและปิดพื้นที่ป่าตอง จึงจะสามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ ซึ่งบทเรียนที่ได้จากการดำเนินงานเพื่อควบคุมป้องกันโรคที่จังหวัดภูเก็ต พบว่ากลุ่มผู้สัมภาษณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต้องกักกัน 100% ด้วยการกักกันในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพราะหากกักตัวเองที่บ้าน ยังพบว่ามีผู้ป่วยต่อเนื่อง ส่วนการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกทำในกรณีการระบาดในวงกว้างเฉพาะกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เสี่ยงเท่านั้น เพราะอาจมีปัญหาในการติดตามตรวจสอบได้ไม่ทั้งหมด และการคัดกรองในวงกว้าง ยังไม่เกิดความคุ้มค่า ส่วนผู้ที่ฝ่าฝืนการประกาศเคอร์ฟิว มีประชาชนออกนอกเคหสถาน 820 ราย รวมกลุ่มชุมนุมและมั่วสุมจำนวน 135 ราย 

“กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจจำนวนเตียง รองรับผู้ป่วยทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเพียงพอ โดยในช่วงนี้ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาหายแล้วได้กลับบ้านไป และผู้ป่วยใหม่น้อยลง ทำให้จำนวนเตียงนั้นว่างมากขึ้น ยืนยันว่าแม้สถานการณ์รุนแรงมากกว่านี้ อย่างที่มีการประเมินว่าอาจมีผู้ป่วยจำนวนหลายแสนคน ก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถรองรับได้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค.กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ความสำคัญกับการหามาตรการเยียวยากับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและพบว่าปัญหาต่าง ๆ มีมากและต้องเร่งแก้ไข โดยจะตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมขึ้นมาดูแล ขณะที่มาตรการต่าง ๆ จะผ่อนคลายได้ เช่นการเรียกร้องให้เปิดร้านตัดผม ต้องพิจารณาจากจำนวนตัวเลขสถิติที่จะต้องลดลง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยจะให้คณะกรรมการวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณา ยืนยันว่ารัฐบาลเข้าใจผลกระทบ โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.รับทราบรายงานภาพรวมการติดตั้งจุดควบคุมการเฝ้าระวังว่าเป็นไปอย่างเข้มงวด การจัดเครื่องบินไปรับส่งตัวอย่างสารคัดหลั่งของบุคคลเสี่ยงที่จังหวัดภูเก็ตมาตรวจที่กรุงเทพมหานคร เพราะสรรพกำลังการตรวจในต่างจังหวัดยังไม่เท่ากับของกรุงเทพมหานคร ส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยขณะนี้แจกจ่ายไปแล้ว กว่า 50 ล้านชิ้นทั่วประเทศ  

“มาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศ ได้ทยอยนำคนไทยกลับจากต่างประเทศโดยไม่ให้แพร่กระจายเชื้อ ส่วนปัญหาแรงงานข้ามแดนได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงและประสานกับประเทศต้นทางเพื่อจะชะลอการเดินทางเอาไว้ ขณะนี้แรงงานชายแดนทางบก ไม่มีติดค้างแล้ว และจะเพิ่มความเข้มงวด รถรับจ้างขนแรงงานและผู้ที่จะเดินทางเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ” โฆษกศบค. กล่าว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ได้มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นของคนไทย คือ “หมอชนะ”ที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของประชาชนเพื่อการตรวจสอบความเสี่ยงติดเชื้อได้ด้วยตนเอง และ “DDC-Care” เพื่อติดตามดูแลและประเมินกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อด้วย.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]