กรุงเทพฯ 13 เม.ย.-รมว.ดีอีเอส และบริษัท หัวเว่ย ส่งมอบโซลูชันผู้ช่วย AI เพิ่มประสิทธิภาพการตรวจโควิด-19 ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช , โรงพยาบาลรามาธิบดี ชี้เป็นการช่วยลดความเสี่ยงแก่บุคลากรทางการแพทย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 เม.ย.) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย (จำกัด) ส่งมอบโซลูชันผู้ช่วย AI ผสานพลังเทคโนโลยีเครือข่าย 5G เพื่อใช้รายงานผลตรวจโควิด-19 ให้กับโรงพยาบาลศิริราชได้อย่างอัตโนมัติ รวดเร็ว และแม่นยำ ผ่านเครือข่ายความเร็วสูง เสริมพลังแพทย์ไทยในการรับมือสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้อย่างมีศักยภาพด้วยเทคโนโลยีระดับโลก โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้รับมอบ
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมกับบริษัท หัวเว่ย ในการนำระบบ AI มาช่วยในการวิเคราะห์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นการใช้ระบบ AI มาวิเคราะห์ตัวอย่างผลการเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ จำนวนกว่า 20,000 ตัวอย่าง เมื่อมีการทำ CT scan เพื่อเอ็กซเรย์ปอดของคนไข้ ระบบจะนำผลจากการเอ็กซเรย์ มาเทียบเคียงกับตัวอย่างภาพเอ็กซเรย์ปอดกว่า 20,000 ตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 กว่า 4,000 คน เพื่อวิเคราะห์วินิจฉัยเบื้องต้นว่าคนไข้มีความเสี่ยงที่จะเป็นไวรัสโควิด-19 มากน้อยเพียงใด
“ระบบนี้เป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย และมีการใช้จริงแล้วในประเทศจีน ทั้งในเมืองอู่ฮั่น และหลาย ๆ เมืองในประเทศจีน ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่วมกับริษัท หัวเว่ย ได้นำมาติดตั้งให้โรงพยาบาลรามาฯ และโรงพยาบาลศิริราชเป็นที่เรียบร้อย จากนี้การวิเคราะห์คนไข้ด้วยระบบดังกล่าว ก็จะช่วยลดความเสี่ยงทั้งพี่น้องประชาชน และลดความเสี่ยงให้บุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากการทำ CT Scan เพื่อคัดกรองเบื้องต้นทำให้แพทย์ไม่ต้องสัมผัสกับคนไข้ เมื่อคัดกรองแล้วพบว่ามีความเสี่ยงสูง จึงค่อยเข้าสู่กระบวนการตรวจสารคัดหลั่ง ซึ่งจะใช้เวลาอย่างน้อย 48 ชั่วโมงในการยืนยันผล การนำระบบ AI เข้ามาใช้ จึงช่วยลดความเสี่ยงแก่บุคลากรทางการแพทย์ เพราะทำให้ไม่ต้องสัมผัสผู้ป่วยจำนวนมากในขั้นต้น” นายพุทธิพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์ ได้พูดคุยให้กำลังใจแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องอื่น ๆ ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ในนามรัฐบาล และกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีที่ได้ฝากมาให้กำลังใจและให้สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์อย่างเต็มที่
ด้านศาสตราจารย์ ดร.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า เทคโนโลยี AI จะช่วยให้แพทย์นำมาใช้วินิจฉัยผลตรวจ CT ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว สามารถวิเคราะห์ผลได้ภายในเวลาเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส จึงลดภาระให้บุคลากรทางการแพทย์ไทยได้เป็นอย่างมาก ที่สำคัญความเร็วในการส่งข้อมูลของเครือข่าย 5G จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้บุคลากรทางการแพทย์รับมือสถานการณ์ในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น เพราะช่วยให้ระบบทางการแพทย์ต่าง ๆ ตอบสนองการใช้งานได้รวดเร็ว ช่วยให้ติดตามอาการและเก็บข้อมูลคนไข้ดีขึ้น ทั้งยังช่วยให้การจัดสรรทรัพยากรทางการแพทย์มีประสิทธิภาพขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย