รพ.ไม่ต้องกังวล สปสช.จ่ายค่ารักษาโควิด-19

สปสช.10 เม.ย.-สปสช.เตรียมงบกว่า 4,280 ล้าน ลุยคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโควิด-19 ทุกสิทธิ รักษาผู้ป่วยบัตรทองฟรี พร้อมแจงสิทธิประโยชน์ละเอียดยิบ ครอบคลุมยาราคาแพง ค่าขนส่ง ค่าตรวจแล็บ ผู้ป่วยนอก-ผู้ป่วยใน ชุด PEE ห้องความดันลบ สถานที่ดูแลต่อเนื่อง รวมถึงจ่ายชดเชยบุคลากรสาธารณสุขหากเกิดความเสียหาย  


ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสิทธิการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ของผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ว่า แม้ว่าโควิด-19 จะเป็นโรคอุบัติใหม่ที่เกิดการแพร่ระบาดหลังจากสภาผู้แทนราษฎรพิจารณางบประมาณปี 2563 ไปแล้ว แต่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญเร่งด่วนจึงมีมติเห็นชอบให้บรรจุโรคนี้เข้าไปอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ใช้สิทธิบัตรทองเข้าถึงการรักษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ 


สำหรับงบประมาณที่นำมาใช้นั้น ส่วนแรกเป็นผลพวงมาจากกลไกการต่อรองราคายาของ สปสช.ที่ทำให้สามารถจัดซื้อยาได้ในราคาถูกจนประหยัดงบประมาณประเทศได้ถึง 1,020 ล้านบาท ส่วนที่สองมาจากการสนับสนุนของรัฐบาลที่อนุมัติงบกลางให้อีก 3,260 ล้านบาท ทำให้ สปสช.มีงบประมาณในการดำเนินการทั้งสิ้น 4,280 ล้านบาท

โดยงบประมาณทั้งหมดนี้จะถูกใช้ไปใน 2ส่วน ได้แก่ 1.การรักษาพยาบาลผู้ที่ใช้สิทธิบัตรทอง 2.การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยกิจกรรมสำคัญที่ สปสช.ได้สนับสนุนงบประมาณในส่วนนี้ดำเนินการไปแล้วก็คือการตรวจคัดกรองเชิงรุกสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยกระทรวงสาธารณสุขและภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการที่ จ.ภูเก็ต เป็นแห่งแรก สามารถค้นหาผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายการดำเนินการให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ

นอกจากนี้ สปสช.ยังได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดตั้งกองทุนสุขภาพตำบลขึ้น ทำหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในพื้นที่ โดยปัจจุบันมีงบประมาณอยู่ในพื้นที่ 7,700 ตำบลทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละพื้นที่สามารถนำงบส่วนนี้มาป้องกันโรคโควิด-19ได้ เช่น 1.การรณรงค์ให้ความรู้ป้องกันตามแนวทางของกรมควบคุมโรค 2.การจัด หาอุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ เครื่องวัดไข้ 3. การคัดกรองกลุ่มเสี่ยง 4.ตรวจเยี่ยมกลุ่มเสี่ยงในชุมชน 5. ติดตามและเฝ้าระวังการเดินทางมาจากพื้นที่อื่นๆ 6. การจัดบริการรับส่งผู้ป่วยที่จำเป็น ไปยังโรงพยาบาล เช่น ผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ฯลฯ


ทพ.อรรถพร กล่าวต่อไปถึงการดูแลบุคลาการทางสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ว่าสปสช.จะจ่ายเงินช่วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ใน 3 ระดับ ได้แก่ 1. กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร หรือเจ็บป่วยเรื้อรังที่ต้องได้รับการรักษาตลอดชีวิต จะจ่ายให้ตั้งแต่ 4.8 – 8 แสนบาท 2.กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือพิการที่มีผลต่อการดำรงชีวิต จะจ่ายให้ตั้งแต่ 2 – 4.8 แสนบาท และ 3. กรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง จะจ่ายไม่เกิน 2 แสนบาท

พญ.กฤติยา ศรีประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กลุ่มภารกิจบริหารกองทุน สปสช.กล่าวว่า การรักษาโรคโควิด-19 เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ที่ สปสช.จัดสรรเพิ่มเติมจากชุดสิทธิประโยชน์เดิม โดยบอร์ด สปสช.อนุมัติการจ่ายเงินสำหรับยารักษาโควิด-19 ครั้งละ7,200 บาท แต่หากในอนาคตมียาที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและราคาแพงขึ้นก็สามารถขออนุมัติค่าใช้จ่ายอัตราใหม่ได้อีก 

นอกจากนี้ สปสช.ยังอนุมัติการจ่ายค่าเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ซึ่งเป็นการจ่ายตามจริงไม่เกินครั้งละ 3,700 บาท โดยครอบคลุมค่ายานพาหนะ ค่าทำความสะอาดยานพาหนะ ค่าแรงผู้นำส่ง รวมถึงค่าวัสดุอุปกรณ์และชุดป้องกันความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ (PPE)

สำหรับการตรวจคัดกรองกลุ่มผู้ที่สงสัยว่าอาจติดเชื้อโควิด-19 ในห้อง ปฏิบัติการ (lab) ถือเป็นเรื่องสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้แก่ประชาชนคนไทยทุกคน ดังนั้นสปสช.จะสนับสนุนค่าตรวจให้แก่ประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ

“ผู้ที่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนดและสงสัยว่าตัวเองจะติดโรคโควิด-19 ให้สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองเบื้องต้นได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง หากเข้าเกณฑ์ทาง สปสช.จะจ่ายให้ แต่ถ้าไม่ได้เป็นไข้หรือไม่มีประวัติความเสี่ยงใดๆ แนะนำว่าไม่ควรไป เพราะการไปโรงพยาบาลจะทำให้ตัวเองมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น” พญ.กฤติยา กล่าว

อย่างไรก็ตามหากตรวจคัดกรองแล้ว ผลยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยโควิด-19 สำหรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองกรณีผู้ป่วยนอก สปสช.จะจ่ายชดเชยค่ายา แต่ถ้าจำเป็นต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหรือเป็นผู้ป่วยใน สปสช.จะชดเชยทั้งค่าชุด PEE ของบุคลากรทางการแพทย์ ค่าตรวจเลือดและตรวจเพิ่มเติมอื่น ๆ รวมถึงค่าการใช้ห้องแยกโรคความดันลบ(Negative pressure room) ครั้งละ 2,500 บาทต่อคนต่อวัน ในกรณีของผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นแล้วและจำเป็นต้องย้ายไปดูแลต่อที่โรงแรมหรือตามสถานพยาบาลที่ สธ.รับรอง สปสช.ก็จะตามไปจ่ายค่าที่พักและค่ารักษา ณ สถานที่นั้นๆ ให้ด้วย

“ขอให้มั่นใจว่า สปสช.จะใช้งบประมาณที่มีอยู่เพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยสถานบริการสามารถเบิกจ่ายได้นับตั้งแต่การรับบริการวันที่ 2 มี.ค.เป็นต้นไป” พญ.กฤติยา กล่าว

ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 13 เม.ย. 2563 สปสช.จะจัด Facebook LIVE ชี้แจงถึงแนวทางหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการเบิกจ่ายกรณีโรคโควิด-19 และการคัดกรอง ผ่านทางแฟนเพจ “สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” โดยโรงพยาบาลทั่วประเทศสามารถติดตามได้ที่ www.facebook.com/NHSO.Thailand ในเวลา 09.00น. .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง

กทม. 28 ก.ค.-ทบ. เผยกัมพูชาโจมตีตั้งแต่ 5 ทุ่มถึงรุ่งสาง ขณะ ทภ.2 เตือนอย่าเชื่อข่าวปลอม กองทัพไม่สนทางรัฐบาลเจรจา กร้าวเดินหน้ารบ-ประกาศอัยการศึก พร้อมชวนกดรีพอร์ทโพสต์-คอมเมนต์ผู้ไม่หวังดีโจมตีสื่อทางการไทย กองทัพบกทันกระแส รายงานว่าเข้าวันที่ 5 ของสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 3 จนฟ้าเริ่มสาง ทหารไทยยังไม่ได้พักมีทุกแบบ ทั้งคืน นอกจากนี้ กองทัพภาคที่2 ยังได้ขอความร่วมมือ ชาวโซเชียลไทย กดรีพอร์ท Report โพสต์หรือคอมเม้นต์ของผู้ไม่หวังดี ที่ต้องการเข้ามา กลั่นแกล้ง ก่อกวน และโจมตี สื่อทางการไทย พร้อนเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม กรณีที่มีข่าวว่า “กองทัพแข็งกร้าว! ลั่นเดินหน้ารบ ซัดรบ.อย่าหวังเจรจา ขณะเขมรยึดพื้นที่ไทย จ่อใช้กฎอัยการศึกทั่วประเทศ”.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่

กทม. 28 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง และฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ […]

กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา

กทม. 28 ก.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แจงภาพระเบิดอาคารร้างฝั่งกัมพูชา พบฝ่ายกัมพูชาตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งโจมตีพื้นที่พลเรือนฝ่ายไทย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงกรณีมีภาพการระเบิดที่อาคารร้างฝั่งกัมพูชา ตามที่ปรากฏข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ เหตุการณ์การระเบิดบริเวณอาคารร้างฝั่งกัมพูชาซึ่งอยู่ใกล้แนวชายแดนไทย ฝ่ายไทยมีการตรวจพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ตั้งอาวุธยิงสนับสนุนวิถีโค้งไว้บริเวณพื้นที่พลเรือน และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับภารกิจทางทหารในหลายพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาใช้อาวุธดังกล่าวในการโจมตีพื้นที่พลเรือนของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง นำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย อันถือเป็นการกระทำที่เข้าข่าย “ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์” (Human Shield) ซึ่งเป็นการละเมิดหลักมนุษยธรรมสากล ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 จึงขอยืนยันว่า การใช้กำลังทางทหารของกองทัพไทยมุ่งเป้าเฉพาะไปยังเป้าหมายทางทหารที่ตรวจพบว่ามีการโจมตี หรือคุกคามต่อความมั่นคงของชาติไทย เท่านั้น ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยึดมั่นในหลักสันติวิธี การเคารพในอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ใช้ความรุนแรงกับพลเรือนทุกกรณี แต่ต้องดำเนินมาตรการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย