กต. นัดทูตถกต่อ ตอกย้ำข้อเท็จจริง ชี้แจงนานาชาติ

พรรคเพื่อไทย 2 ส.ค. – ที่ปรึกษา รมว.กต. เผย กต. นัดถกทูต ตปท.ประจำไทย-ทูตไทยใน ตปท.ต่อ ตอกย้ำข้อเท็จจริงชี้แจงนานาชาติ ขอ ปชช. รอผลประชุมหลัง GBC ก่อนกลับเข้าที่พัก นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความหวังของประชาชนที่อยู่ระหว่างการอพยพตามศูนย์พักพิงต่าง ๆ ในการกลับเข้าที่พักอาศัยของตนเองว่า ขึ้นอยู่กับการเจรจาระหว่าง 2 ฝ่าย ในการประชุมที่จะเกิดขึ้นหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย -กัมพูชา: General Border Committee หรือ GBC ไทย-กัมพูชา ที่จะเกิดขึ้นที่ประเทศมาเลเซีย ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ นางสาวชยิกา ยังย้ำว่า ในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะดำเนินการชี้แจงเชิงรุกต่อภายหลังการนำคณะทูตลงพื้นที่ให้เห็นถึงความเสียหายที่เหตุขึ้นต่อพลเรือนแล้ว ด้วยการนำข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าว มาบรรยายชี้แจงข้อเท็จจริงสรุปต่อเอกอัครราชทูต ผู้แทนสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย และภายในสัปดาห์เดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะประชุมทางออนไลน์ร่วมกับเอกอัครราชทูตไทย กงสุลใหญ่ไทย และผู้แทนไทยประจำต่างประเทศทั่วโลก […]

ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี

กระทรวงการต่างประเทศ 28 ก.ค.- กต. ยืนยัน ไทยยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี ชี้ข่าวกองกำลังไทยใช้อาวุธเคมีเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และหวังทำลายสถานะไทย ต่อประชาคมโลก นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี ว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์ และยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง โดยนับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ ดังนั้นข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ.-312-สำนักข่าวไทย

press conference podium of State Department

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐเริ่มปลดคนทำงาน

วอชิงตัน 12 ก.ค.- กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเริ่มปลดคนทำงานมากกว่า 1,350 คน ตามนโยบายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ที่ต้องการยกเครื่องคณะทูตานุทูต ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าจะบั่นทอนความสามารถของสหรัฐในการปกป้องและส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐในต่างประเทศ การปลดคนทำงานที่เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ กระทบเจ้าหน้าที่พลเรือน 1,107คน และเจ้าหน้าที่การทูตที่ประจำการอยู่ในสหรัฐ 246 คน ผู้ถูกเลิกจ้างได้รับรายงานตรวจสอบการแยกทางความยาว 5 หน้ากระดาษที่แจ้งว่า จะไม่สามารถเข้าอาคารและอีเมลตั้งแต่เวลา 17.00 น.วันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ด้านนอกอาคารมีกลุ่มคนมาชูป้ายและปรบมือให้กำลังใจผู้ที่ถูกเลิกจ้าง บันทึกภายในของกระทรวงต่างประเทศระบุว่า กระทรวงกำลังปรับเปลี่ยนการทำงานภายในประเทศให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อมุ่งเน้นภารกิจสำคัญทางการทูต การลดจำนวนคนทำงานได้ผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนให้มีผลเฉพาะหน้าที่ที่ไม่จำเป็น หน่วยงานที่ซ้ำซ้อนและเกินความจำเป็น และหน่วยงานที่ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ โดยจะมีการลดจำนวนคนทั้งหมดเกือบ 3,000 คน รวมทั้งผู้สมัครใจลาออก จากจำนวนคนทำงานที่อยู่ในสหรัฐทั้งสิ้น 18,000 คน สว.ทิม เคน รัฐเวอร์จิเนียจากพรรคเดโมแครตแถลงวิจารณ์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์และนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศกำลังทำให้สหรัฐอเมริกาปลอดภัยและมั่นคงน้อยลงอีกครั้ง เพราะตัดสินใจในช่วงที่จีนกำลังเพิ่มบทบาททางการทูตทั่วโลกและสร้างเครือข่ายฐานทัพทางการทหารและการคมนาคมในต่างประเทศ ขณะที่รัสเซียกำลังเดินหน้าทำสงครามที่โหดร้ายกับประเทศอธิปไตย และตะวันออกกลางกำลังเหวี่ยงจากวิกฤตหนึ่งไปสู่อีกวิกฤตหนึ่ง นายรูบิโอประกาศแผนการปรับองค์กรเมื่อเดือนเมษายนว่า จะคืนอำนาจให้แก่สำนักงานระดับภูมิภาคและสถานทูต จะขจัดโครงการและสำนักงานที่ไม่สอดคล้องกับผลประโยชน์หลักของสหรัฐ แผนการนี้จะนำมาซึ่งการยุติบทบาทของเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงพลเรือน ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน และการปิดสำนักงานบางแห่งที่ติดตามเรื่องอาชญากรรมสงครามและความขัดแย้งทั่วโลก.-814.-สำนักข่าวไทย

กต. แจงข่าวเชิญทูตไทยประจำกัมพูชามาหารือ ไม่ได้ตัดสัมพันธ์การทูต

กทม. 21 มิ.ย. – กต. แจง เชิญทูตไทยประจำกัมพูชามาหารือข้อราชการปกติ ไม่ได้ตัดสัมพันธ์การทูต ระบุในช่วงสถานการณ์ละเอียดอ่อน ขอสื่อฯ รอข่าวอย่างเป็นทางการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีรายงานข่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สั่งการให้เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อลดระดับความสัมพันธ์ และเป็นการตอบโต้กัมพูชานั้น กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศเชิญเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชามาหารือข้อราชการ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติ ไม่ได้มีการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งนี้ ขอร้องสื่อมวลชนทุกสำนักข่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้มีความละเอียดอ่อน เรื่องที่มีมิติด้านการต่างประเทศ โปรดฟังการแถลงจากกระทรวง ไม่ใช่จากแหล่งข่าว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (21 มิ.ย.) กระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่มีการแจ้งกำหนดการแถลงข่าวแต่อย่างใด.-315-สำนักข่าวไทย

กต. ออกแถลงการณ์เตือนคนไทยในพื้นที่อิหร่าน-อิสราเอล

15 มิ.ย. – ก.ต่างประเทศ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน เตือนคนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง และติดตามประกาศจากสถานทูตไทยอย่างใกล้ชิด กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุด เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ประเทศไทยขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปกป้องพลเรือน และมุ่งจัดการสถานการณ์ด้วยสันติวิธี กระทรวงการต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูตไทยในภูมิภาค ได้เริ่มดำเนินงานศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center: RRC) เพื่อประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการช่วยเหลือคนไทยไว้แล้ว ขอให้พี่น้องคนไทยตื่นตัวและติดตามประกาศแจ้งเตือน และแนวปฏิบัติในภาวะฉุกเฉิน จากสถานทูตไทยอย่างใกล้ชิด และขอให้ประชาชนไทยหลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่ดังกล่าวหากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในกรณีฉุกเฉินสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ที่ สถานทูตไทยในประเทศต่างๆ ทุกแห่ง หรือลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน Thai Consular (ไทย คอนซูลาร์) เพื่อรับข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

จีนยืนยันปกป้องชีวิตชาวจีนและคนต่างชาติ หลังเกิดเหตุรถชน

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน กล่าววันนี้ว่า รัฐบาลจีนให้คำมั่นในการรับรองความปลอดภัยของชีวิตประชาชนและเสถียรภาพทางสังคม หลังจากเกิดเหตุรถยนต์อเนกประสงค์ เอสยูวี พุ่งเข้าชนนักเรียนและคนเดินเท้าด้านนอกโรงเรียนประถมหยงอัน ในเมืองฉางเต๋อ มณฑลหูหนาน ทางตอนใต้ของจีน

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

ต้องทำงานให้เร็วในสถานการณ์โลกหลายขั้วอำนาจ

กต.จัดประชุมทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก เน้นรักษา-แสวงหาผลประโยชน์ในสภาวะโลกแตกแยก แข่งขัน มีหลายขั้วอำนาจมากขึ้น ย้ำต้องทำงานให้เร็ว คล่องตัวมากขึ้น

ประชุมติดตามสถานการณ์ช่วยคนไทยในเมืองเล่าก์ก่าย

กระทรวงการต่างประเทศ 11 พ.ย. – ปลัด กต. ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์ประสานภารกิจช่วยคนไทย พบ 293 คน ยังอยู่ในเมืองเล่าก์ก่าย เมียนมา ขณะที่ 41 คน นายจ้างปล่อยตัวและหลบหนีออกไปเมืองอื่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ประสานช่วยกลับไทย เช้าวันนี้ (11 พ.ย.) นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพอากาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง กรุงปักกิ่ง สถานกงสุลใหญ่ ณ คุนหมิง กรมการกงสุล และกรมที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์และประสานภารกิจการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย เมียนมา โดยกระทรวงการต่างประเทศ ขอย้ำว่า ทางการไทยมีความร้อนใจและห่วงใยพี่น้องคนไทยในเมืองเล่าก์ก่ายอย่างยิ่ง สถานการณ์นี้มีอุปสรรค ข้อจำกัดมากมายในการดำเนินการ เนื่องจากเป็นพื้นที่สู้รบ ขณะนี้กลุ่มคนไทยยังอยู่ในพื้นที่เมืองเล่าก์ก่ายมีจำนวน 293 คน ประกอบด้วย […]

“ปานปรีย์” เยือนเวียดนาม ผลักดันการลงทุน

เวียดนาม 26 ต.ค. – “ปานปรีย์” เยือนเวียดนาม นั่งหัวโต๊ะ คุยสภาหอการค้าไทยในเวียดนาม ขอเวียดนามอำนวยความสะดวกการลงทุน ที่กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม วันนี้เวลา 09.30น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปยัง สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โอกาสเดินทางเยือนเวียดนาม อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25 – 26 ตุลาคม 2566 ตามคำเชิญของนายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ก่อนเข้าร่วมการประชุม OECD Southeast Asia Ministerial Forum ประจำปี 2566 ณ กรุงฮานอย นับเป็น การเยือนอย่างเป็นทางการในโอกาสครบรอบ 10 ปี ความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างไทยกับเวียดนามในปีนี้ ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้พบหารือกับสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมไทยในเวียดนาม (ThaiCham) ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม […]

1 2 3 5
...