fbpx

สธ.ปรับแนวทางรักษาโควิด-19 ป่วยมากน้อยต้องนอน รพ.

สธ.9เม.ย.-สธ.ปรับแนวทางการรักษาโควิด-19 เน้นป่วยมากน้อยต้องนอน โรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 2-7 วัน ส่วนการให้ยาหากพบป่วยปอดอักเสบ มากน้อย ต้องรับยาฟาวิพิราเวียร์ มาลาเรีย ยาต้านไวรัสเอดส์ ส่วนกรณีสงสัยหญิงชัยภูมิติดโควิดซ้ำ แจงไม่น่าใช่ แต่เป็นซากไวรัสที่ยังตกค้างร่างกาย เนื่องจากไม่พบอาการไข้ น้ำมูกและปอดไม่อักเสบ อาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย 


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงการปรับแนวทางการรักษาโรคโควิด-19 ว่า  สิ่งสำคัญคือการให้ข้อมูลอย่างครบถ้วน ถูกต้องกับแพทย์พยาบาล เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว และไม่เป็นอันตรายกับบุคลากรทางการแพทย์  ส่วนทางแนวทางการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต่อทุกราย ไม่ว่าอาการมากหรือน้อยต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 2-7 วัน  ซึ่งในผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง อาการดีขึ้นต้องต้องย้ายไปที่ Hospitel  หรือโรงแรมที่ดัดแปลงเป็นหอพักผู้ป่วย ที่มีทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ให้ครบ 14 วัน นับจากวัน ที่เริ่มมีอาการ ส่วนการให้ยาผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงไม่ต้องรับยา ส่วนผู้ที่มีอาการรุนแรง มีไข้ ปอดบวม น้อยหรือรุนแรงต้องได้รับยามาลาเรีย ร่วมกับยาไวรัสเอดส์ และยาฟาวิพิราเวียร์ ทุกคน


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันมีแนวทางลดความแออัดในสถานพยาบาล นอกจากการับยาที่ร้านยาแล้วยังเพิ่มระบบวิดีโอคอล หรือ ไลน์ในผู้ป่วยที่มีอาการไม่คงที่ เพื่อให้แพทย์ ได้มีการซักถามอาการ หรือมีการนัดหมายมารับการตรวจรักษาในเวลาไม่เร่งด่วน  สำหรับผู้ป่วยอาการคงที่ในโรคเรื้อรังให้มีการรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน และยังเพิ่มช่องทางจัดส่งยาทางไปรษณีย์ด้วย 

นพ.สมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการพบผู้ป่วยหญิงชัยภูมิติดเชื้อโควิด-19และกลับมีอาการซ้ำนั้น จากการตรวจสอบพบว่าหญิงคนดังกล่าวมีประวัติเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ครั้งแรกรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในกทม.ด้วยอาการไม่มากคล้ายไข้หวัด แต่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด  -19 และรับการรักษาจนครบ 14 วัน จากนั้นมีการระวังกักตนเองอย่างดีที่บ้านในจังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นเริ่มมีอาการป่วยเมื่อต้นเดือนเมษายน เริ่มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว แต่ไม่มีไข้ แพทย์ได้ทำการตรวจสารคัดหลั่ง พบว่าเชื้อโควิด แต่จากการเอ็กซ์เรย์ปอดไม่พบอาการปอดอักเสบ  อย่างไรก็ตามจากการติดตามข้อมูลเชื้อ ไม่น่าจะเป็นการป่วยซ้ำ แม้ในต่างประเทศจะพบข้อมูลผู้ป่วยซ้ำในจีนและญี่ปุ่น 


นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า สาเหตุที่คาดว่าไม่ใช่การป่วยซ้ำเนื่องจากว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าว ไม่มีอาการอื่น ตรวจอัตราการหายใจก็พบปกติ 20ครั้งต่อนาที  ไม่มีน้ำมูก แต่ที่ตรวจพบเชื้อเกิดจากซากของเชื้อไวรัสที่ร่างกาย ที่ยังพบได้อีกระยะหนึ่ง เช่น สหรัฐอเมริกาที่พบซากไวรัสในร่างกายได้ถึง30 วัน กรณีนี้น่าจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าซากไวรัสในร่างกายไม่สามารถแพร่เชื้อได้  ส่วนกรณีที่มีความสงสัยการรักษาเด็กเล็กวัย 1เดือนติดเชื้อโควิด-19 ยืนยันไม่แตกต่างจากผู้ใหญ่ เน้นการดูแลรักษาเหมือน แต่เนื่องจากเด็กเล็กต้องมีระยะกับแม่ที่ต้องใกล้ชิด โดยแม่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัย 

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ปกครองที่ครอบครัวมีเด็กเล็ก เมื่อออกมาทำงานนอกบ้าน กลับถึงบ้านแล้ว จะต้องล้างมืออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาด และหากมีอาการผิดปกติ ต้องแยกตัวเองและต้องไม่สัมผัสใกล้ชิดกับเด็กเลย เพื่อลดการแพร่เชื้อในบ้าน ส่วนความคืบหน้าการตรวจแบบปูพรมค้นหาในพื้นที่กทม. เหมือนจังหวัดภูเก็ตนั้น เห็นว่าการตรวจแบบนี้ มีข้อบ่งชี้ 2 ส่วน คือ 1.การตรวจเพื่อควบคุมโรค กรณีประชากรติดเชื้อมาก 2.การตรวจเพื่อเฝ้าระวัง เป็นการตรวจเพื่อค้นหาผู้ป่วยเสี่ยงสูง หลังจากมีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยให้เริ่มค้นหาผู้ป่วยรายใหม่ นับจากวันที่ผู้ป่วยรายแรกแสดงอาการ และตรวจหากลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นไม่ผ่านเกณฑ์ ส่ง พฐ.ร่วมตรวจพิสูจน์

สพฐ. เผยผลสอบ “ครูเบญ” เบื้องต้นคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ทั้งภาค ก. ภาค ข. และไม่ติด 1 ใน 10 ส่งข้อสอบให้ พฐ. ตรวจพิสูจน์เพื่อความโปร่งใส

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553