แพทย์ย้ำไม่อยากให้ซื้อยาต้านไวรัสกินเอง ห่วงเกิดภาวะรีบาวด์

สถาบันประสาท 2 ส.ค.- อธิบดีกรมการแพทย์ เผยไทยพบภาวะรีบาวด์ป่วยโควิดซ้ำแล้ว แต่ไม่ได้เก็บข้อมูลแน่ชัด ย้ำจึงเป็นสาเหตุไม่อยากให้ซื้อยาต้านไวรัสทานเอง เพราะยังเป็นยาควบคุมใช้ภาวะฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงได้ เพิ่งใช้แค่ปีเดียว แจงภาวะรีบาวด์หายเอง แต่ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อรับคำปรึกษามีตั้งแต่สังเกตอาการ จนถึงตรวจ RT-PCR


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงกระแสการซื้อยาโมลนูพิราเวียร์จากประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ทางกรมการแพทย์ยังคงยืนยันการใช้ยาตามข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ และต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยการจ่ายยาต้ายไวรัส ทั้งโมลนูพิราเวียร์ และแพ็กซ์โลวิด ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ ไม่ใช่ไปซื้อหายามารับประทานเอง เนื่องยาทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นยาควบคุมและใช้ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งมีการใช้มาเพียงแค่ 1 ปี ยังไม่รู้ถึงผลข้างเคียงจากยา อีกทั้งจะมั่นใจได้อย่างไรว่ายาที่ได้มานั้นเป็นยาจริง ไม่ใช่ของปลอม โดยการจัดซื้อยาของไทย นอกจากกรมการแพทย์แล้วยังมีองค์การเภสัชกรรม จัดซื้อยา และปัจจุบันราคายาก็ถูกกว่าในอดีต ยืนยันไม่ได้มีการขาดแคลนยา แต่เป็นการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาพบปัญหาภาวะรีบาวด์เกิดขึ้นแล้วกับผู้ป่วยไทย 2 คน จากเดิมที่มีการรายงานพบในคนที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศอย่าง โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ที่ป่วยโควิดรับยาแพ็กซ์โลวิด จนยาหมดแล้วกลับมาป่วยซ้ำ เป็นอาการของภาวะรีบาวด์ บอกระยะเวลาที่แน่ชัดไม่ได้ บางรายอาจเจอหลังจากหายดี 5-7 วัน หรือ 10-14 วัน ซึ่งผู้ป่วยในไทยเองที่พบเป็นผู้ป่วย 60 ปีขึ้นไป คนแรกอายุ 60 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน ความดัน ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์จนหาย แต่เมื่อวันที่ 13-14 กลับมาตรวจ ATK พบผลบวก ผู้ป่วยมีอาการไอเล็กน้อย จึงให้คำแนะนำ ให้ติดตามอาการเท่านั้น จากนั้นไม่นานผลตรวจ ก็เป็นลบ


ส่วนอีกคนเป็นผู้ป่วยอายุ 70 ปี ไปต่างประเทศ รับยาจากต่างประเทศ หลัง 14 วัน พบตรวจ ATK เป็นบวก จึงไม่สามารถสรุปได้เอย่างชัดเจนว่ารีบาวด์เกิดได้จากอะไร ทั้งนี้ภาวะการรีบาวด์ อาจเกิดจากซากเชื้อ หรือผลบวกลวงของ ATK หรือมาจากอะไร แต่หากอยู่ในความดูแลของแพทย์ การจ่ายยาก็อยู่ในความดูแของแพทย์ จึงมีกรณีบางคนอาจจำเป็นต้องตรวจหาเชื้อด้วยวิธีอาร์ทีพีซีอาร์อีกครั้ง เพื่อดูไซเคิลไทม์ว่าต่ำกว่า 28-30 หรือไม่ แต่หากมีอาการปกติก็ให้สังเกตอาการต่อ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ต้องการให้ผู้ป่วยใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล

นพ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เกณฑ์การยาจ่ายต้านไวรัสรักษาโควิดมีการปรับตามสถานการณ์ตอนนี้มาถึงฉบับที่ 24 อาจมีการปรับเปลี่ยน เพราะขณะนี้ต้องยอมรับยังไม่มีใครรู้จักโควิดดีพอ และเชื้ออาจมีการกลายพันธุ์ได้อีกหรือไม่. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล