ภูเก็ตใช้มาตรการเชิงรุก Active Case Finding สแกนหาผู้ป่วยโควิด-19

ภูเก็ต 9 เม.ย.- ภูเก็ตพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 21 ราย ดันยอดสะสม 161 ราย  หลังใช้มาตรการ Active Case Finding สแกนหาผู้ป่วยเชิงรุก ในการคัดกรองผู้ติดเชื้อและส่งสารคัดหลั่งไปตรวจที่กรุงเทพฯ ทำให้มีความรวดเร็วในการตรวจมากขึ้น 


วันนี้ (9 เม.ย.) นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 จังหวัดภูเก็ต โดยพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ 21 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 161 ราย ในจำนวนนี้อาการรุนแรง 3 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 45 ราย ยังรักษาอยู่โรงพยาบาล 115 ราย รอผลตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 104 ราย 


สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 21 รายนั้น เป็นคนไทยอยู่ในกลุ่มที่พบจากการตรวจหาเชื้อเชิงรุก (Active case finding) ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการเพิ่มเป็นพิเศษในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อค้นหาผู้ป่วยกลุ่มผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงสูง อยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้สัมผัสของผู้ป่วยยืนยัน โดยไม่รอให้ผู้มีอาการเดินเข้าไปที่โรงพยาบาลเอง และมีการใช้เครื่องมือทางการแพทย์จากบริษัทเอกชนทำการเก็บสารคัดหลั่งหลังโพรงจมูก เพื่อตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโควิด-19 ซึ่งสามารถตรวจค้นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้ถึงวันละ 500 คน จากนั้นจะนำตัวอย่างสารคัดหลั่งไปตรวจยังห้องปฏิบัติการ (Laboratory : Lab) ที่กรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในขณะนี้ ที่ช่วยให้การคัดกรองเป็นไปอย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ที่จะหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19  ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยังกล่าวถึงการตรวจคัดกรองหาผู้ป่วยต้องสงสัยในพื้นที่ต่าง ๆ ด้วยว่า เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) จังหวัดภูเก็ตได้รับมอบเครื่องวัดอุณหภูมิจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 3,000 เครื่อง ตามโครงการชุดปฏิบัติการสนับสนุนแอพพลิเคชั่น (Application) ตรวจวัดอุณหภูมิประชาชน ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อใช้สอบสวนควบคุมโรคโควิด-19 ซึ่งถือเป็นจังหวัดนำร่องที่จะดำเนินการตรวจวัดคัดกรองอุณหภูมิให้กับประชาชนทุกคนทุกครัวเรือน โดยเครื่องวัดอุณหภูมิชนิดอินฟาเรดที่ได้รับในครั้งนี้ จังหวัดจะนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ประกอบด้วย  อสม., อปพร., อาสาสมัคร, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะลงไปเคาะประตูบ้านทุกครัวเรือนเพื่อทำการตรวจวัดอุณหภูมิ สอบสวนโรคโควิด-19 ซึ่งจะต้องดำเนินการควบคู่กับแอปพลิเคชั่น “คลิกนิก แอพพลิเคชัน” เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม

รพ.รามาธิบดี แถลงบุคลากรบาดเจ็บ 1 คน เหตุเพลิงไหม้

รพ.รามาธิบดี แถลงเหตุเพลิงไหม้ ผู้ป่วยทุกคนปลอดภัย มีบุคลากร 1 คน บาดเจ็บสูดเขม่าควัน รักษาตัวอยู่ไอซียู คาดกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ ด้านอุปนายกวิศวกรรมสถานฯ ตรวจสอบเบื้องต้นอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ ขณะที่ พฐ. คาดไฟฟ้าลัดวงจร

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีในชั้นศาล ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคม-สโมสร

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ฟ้อง ย้ำทุกอย่างทำเพื่อสมาคมและสโมสร

ซ่อมรถบัสทิพย์

บุกจับ 7 จนท.กองกีฬาฯ จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์เสียหาย 2.7 ล้าน

ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ปปท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหายกว่า 2.8 ล้านบาท