“ชาญศิลป์” เผยกลุ่ม ปตท.ฝ่าวิกฤติ COVID-19 ทวบทวนแผนใน 1 เดือน


“ชาญศิลป์”
เผยกลุ่ม  ปตท.ฝ่าวิกฤติ
COVID-19 ทวบทวนแผนใน 1 เดือน



กรุงเทพฯ 9
เม.ย.-“ชาญศิลป์” ซีอีโอ ปตท. สั่ง บริษัทในเครือทุกแห่ง ปรับแผน รับมือผลกระทบจาก
COVID-19 ทบทวนแผนใน 1 เดือน เบื้องต้น โครงการที่ลงทุนแล้วเดินหน้าเต็มที่
ตัดลดรายจ่ายไม่จำเป็น ส่วนน้ำมันเจ็ทนำมาผลิตเป็นดีเซลขาย ระบุน้อยใจ สังคมวิจารณ์ราคาจำแหน่ายแอลกอฮอล์ราคาต่ำ
เตรียมร่วมมือ ก.พลังงานแจกแอลกอฮอล์ระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ

นายชาญศิลป์
ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. เปิดเผยว่า
จากภาวะโรคระบาด โควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างรุนแรง มีการล็อคดาวน์ทั่วโลก การใช้น้ำมันดิบตลาดโลกลดลง
25-30 ล้านบาร์เรล/วัน ดังนั้น 
จึงให้ทุกบริษัทในเครือศึกษาการปรับตัวรับมือ และเสนอแผนกลับมาภายใน 1
เดือน จากเดิมที่จะมีการทบทวนแผนทุกกลางปี 
โดยเบื้องต้นได้ให้ตัดงบค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น  แต่ไม่มีการลดเงินเดือนหรือลดพนักงาน  ส่วนงบลงทุน ระยะยาวยังเดินหน้าเช่นเดิม  เช่น  โครงการพลังงานสะอาด
(
Clean Fuel Project)ของ
บมจ.ไทยออยล์ 
โครงการ Ultra
Clean Fuel Project (UCF)
รองรับการผลิตน้ำมันตามมาตรฐานยูโร5  ของ บมจ.ไออาร์อีซี และโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงานที่มาบตาพุด  (มาบตาพุดเรโทรฟิต) ของ บมจ.พีทีทีโกลบอลเคมิคอล  เป็นต้น

ส่วนการใช้น้ำมันที่ลดลง โดยเฉพาะน้ำมันอากาศยาน หรือเจ็ทนั้น
นายชาญศิลป์ กล่าวว่า เจ็ทขายไม่ได้เพราะการบินเชิงพาณิชย์หยุดไปทั่วโลก มีแต่ยังมีการบินเชิงความมั่นคงและมนุษยธรรม  ทำให้มีน้ำมันค้างสตอก โรงกลั่นฯในกลุ่ม
ปตท.ได้ปรับเปลี่ยนการผลิต จากที่มีกำลังกลั่นเจ็ทประมาณร้อยละ 12-15
ก็นำมาผลิตเป็นน้ำมันกลุ่มดีเซลทดแทน เนื่องจากการใช้ภาครถยนต์
แม้จะมีการล็อคดาวน์หลายพื้นที่ แต่การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงมีขนส่งต่อเนื่อง
ยอดขายดีเซลจึงยังไม่กระทบมากนัก ในขณะที่กลุ่มเบนซินมียอดใช้ลดลงมา โดยโรงกลั่น
กลุ่ม ปตท.มีกำลังกลั่น ดีเซลประมาณร้อยละ 35-40 กลุ่มเบนซินร้อยละ 15-20 และ
เจ็ทร้อยละ 12-15  


นายชาญศิลป์
กล่าวด้วยว่า การใช้น้ำมันทั่วโลกขณะนี้ลดลงราว 20 -25 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปกติที่มีความต้องการใช้ราว
100 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งมาทั้งปัจจัยจาก
COVID-19 และสงครามราคาน้ำมัน โดยจากราคาน้ำมันต่ำมากในระดับ20-30
ดอลลาร์/บาร์เรล ที่ผ่านมา เป็นราคาที่ผู้ผลิตหลายรายไม่สามารถเดินหน้าต่อได้
เพราะต้นทุนสูงกว่าราคาจำหน่าย  จึงเป็นที่มาที่กลุ่มโอเปกพลัส และสหรัฐหันมาพูดคุยกัน
และโอเปกมีการหารือเพื่อลดกำลังผลิตในวันนี้  ในขณะที่จีนก็ได้สตอกน้ำมันและเริ่มเปิดเมือง
กลับมาซื้อขาย ผลิตสินค้า โดยหลังจากโควิด-19 คลี่คลายแล้ว เศรษฐกิจในเอเชียจะเป็นผู้พยุงเศรษฐกิจโลก
ซึ่งคาดว่า สถานการณ์ โควิด19 น่าจะดีขึ้นในช่วงปลายไตรมาส 2 ปีนี้   

ยอมรับว่า ไตรมาส 1/63 กลุ่ม ปตท.ได้รับผลกระทบหนัก แต่มองว่า
ภาวะการระบาดของโควิด-19 นั้น
สุดท้ายแล้ววิทยาการทางการแพทย์จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงได้ ซึ่งจะเห็นได้จากจีนเริ่มกลับมาเปิดเมืองเดินหน้าผลิตสินค้า
เริ่มสตอกน้ำมัน ราคาปิโตรเคมีเริ่มขยับขึ้น  รัฐบาลทั่วโลก รวมทั้งไทย มีการอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ
ก็คาดว่า ใน3-6 เดือนข้างหน้าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 35-45
ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลจากที่ขณะนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบลดลงอยู่ที่ระดับ 24
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และต้องจับตาดูการประชุมโอเปกในวันนี้
รวมทั้งการหารือกับรัสเซียด้วยว่าจะมีข้อตกลงประกาศปรับลดกำลังผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมันปริมาณเท่าใด”นายชาญศิลป์
กล่าว

นายชาญศิลป์
กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยดำเนินหลากหลายมาตรการในการดูแลผลกระทบจาก
COVID-19 นั้นเป็นเรื่องที่ดี  และจะเห็นได้ว่าเอกชนและรัฐวิสาหกิจก็ร่วมกันเข้ามาช่วยในด้านต่างๆ
ทั้งการร่วมผลิตพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยในส่วนของบริษัทในกลุ่ม ปตท.ก็เข้าร่วมในหลายมิติทั้งพัฒนาเครื่องมือแพทย์
ร่วมบริจาคแอลกอฮอล์ เจล และอื่นๆ ซึ่งกลุ่ม ปตท.ขอเป็นกำลังใจแก่ทีมแพทย์
รวมทั้งประชาชนในการฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ ส่วนกรณีที่มีการวิจารณ์เรื่องการจำหน่ายแอลกอฮอล์ราคาพิเศษของกลุ่ม
ปตท. ในราคา ลิตรละ 110 บาท ซึ่งเป็นราคาต้นทุนและราคาต่ำกว่าท้องตลาดกว่า 3 เท่า
ก็ยอมรับว่า รู้สึกน้อยใจบ้าง เพราะเรื่องนี้เป็นความตั้งใจดีที่เข้ามาช่วยตามนโยบายรัฐบาล
โดย ปตท.ไม่มีบริษัทผลิตแอลกอฮอล์ 70
% ต้องซื้อจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน
อย.มาจำหน่ายในราคาต้นทุนและจัดหาได้ในปริมาณจำกัด  อย่างไรก็ตาม ล่าสุด
ปตท.ก็ได้ร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน  ในการจัดหาแอลกฮอล์เพิ่มเติม
ส่งไปให้ระดับหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง
ซึ่งเป็นการโครงการใหม่เพิ่มเติมจาก เดิมที่
 ปตท. ั้งเ้าจัดหาแอลกอฮอล์กว่า 160,000 ลิร เพื่อช่วยเหลือด้านการแพย์และสาธารณสุขของระเ

นายชาญศิลป์
กล่าวถึงการจัดตั้งบริษํท
  PTT International Trading USA Inc. (PTTT USA)  ในสหรัฐ โดย
ปตท.ถือหุ้นทั้งหมดด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก
5,000 เหรียญสหรัฐ นั้น ก็เนื่องจากว่า สหรัฐเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลว
(แอลเอ็นจี) รายใหญ่ ของโลก
ในขณะที่ประเทศไทยมีความต้องการใช้แอลเอ็นจีนำเข้าเพิ่มขึ้น
และนำเข้าน้ำมันถึงร้อยละ 80 ดังนั้น
การมีสำนักงานตัวแทนในสหรัฐก็เพื่อติดต่อการค้าได้ทันท่วงที  เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
และขยายเครือข่ายการค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก
ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งการสร้างรายได้
สร้างมูลค่าเพิ่ม และ สนับสนุนการทำธุรกรรมของกลุ่ม ปตท. และบริษัทในเครือ
โดย ปัจจุบัน ปตท.มี การจัดตั้งบริษัทการค้าระหว่างประเทศ
ในสิงคโปร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ,อังกฤษ และมีสำนักงานตัวแทน ณ.เมืองเซ่ยงไฮ้
ประเทศจีน และ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย
สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย