กรมประมงแจงแนวปฏิบัติผู้เพาะเลี้ยงสัตว์-ชาวประมงช่วงเคอร์ฟิว

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. – กรมประมงชี้แจงแนวทางปฏิบัติผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการ ชาวประมงจำเป็นต้องประกอบอาชีพช่วงเคอร์ฟิว


นายบัญชา  สุขแก้ว  รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ผู้ประกอบอาชีพทางการประมงที่ได้รับการยกเว้นให้ออกนอกเคหสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว มีแนววิธีปฏิบัติที่เป็นไปตามข้อกำหนด พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฉบับที่ 2) ข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย และข้อสั่งการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ การประกอบอาชีพทางการประมงตลอดสายการผลิตที่จำเป็นจะต้องออกนอกเคหสถานไปประกอบอาชีพทางการประมงและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาเคอร์ฟิว (เวลาที่ห้าม 22.00 – 04.00 น.) โดยไม่สามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลาได้ 

ทั้งนี้ ให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ประกอบการ  ชาวประมง ขออนุญาตต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือตำรวจประจำท้องที่ การขนส่งผลผลิตทางการประมง สินค้าประมง เพื่อนำเข้าหรือส่งออก หรือส่งข้ามเขตพื้นที่หรือข้ามจังหวัดแบ่งได้ 3 กรณี คือ การขนส่งของภาคเอกชนจะต้องมีหนังสือรับรองบุคคล โดยให้ผู้ประกอบการ/นายจ้าง ของผู้เดินทางไปกับพาหนะในการขนส่งเป็นผู้ออกหนังสือรับรองให้กับผู้เดินทาง ซึ่งหนังสือดังกล่าวจะต้องระบุ ชื่อ – สกุล /เลขบัตรประจำตัวประชาชน / อาชีพ / ตำแหน่ง และระบุภารกิจ / เวลาในการเข้า – ออก และระบุต้นทาง ปลายทาง และประเภทของสินค้าให้ชัดเจน กรณีมีเอกสารเกี่ยวกับตัวสินค้าให้แนบไปด้วย การขนส่งของผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่ขนส่งผลผลิตด้วยตนเอง กรณีจำเป็นต้องให้ทางราชการออกหนังสือรับรอง ให้เจ้าหน้าที่กรมประมงออกหนังสือรับรองให้ โดยเร่งรัดบริการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนอย่างให้ได้รับผลกระทบ โดยให้ประมงจังหวัด ประมงอำเภอ และหน่วยงานของกรมประมงทุกแห่งประสานกับจังหวัด อำเภอ เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปในแนวทางและมีความสอดคล้องกัน การขนส่งสัตว์น้ำของหน่วยงานกรมประมง ให้ปฏิบัติตามแนวทางของภาคเอกชนคือ ต้องมีหนังสือรับรองซึ่งออกโดยหัวหน้าหน่วยงานต้นสังกัด


“หากจังหวัดใดมีมาตรการที่เข้มงวดหรือหลักปฎิบัติที่เป็นข้อปฏิบัติ เกษตรกรและชาวประมงต้องยึดปฏิบัติตามข้อสั่งการของพื้นที่เป็นหลัก เพื่อความเหมาะสมของการบริหารจัดการแต่พื้นที่ หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสำนักงานประมงในพื้นที่ ซึ่งพร้อมช่วยเหลือและแก้ปัญหาในช่วงที่ประเทศมีวิกฤติให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน” รองอธิบดีกรมประมง กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง