ครม. อนุมัติหลักการ อัตราข้าราชการ ก.สาธารณสุข 45,684 อัตรา

ทำเนียบฯ 7 เม.ย. – ครม. อนุมัติหลักการ อัตราข้าราชการ ก.สาธารณสุข 45,684 อัตรา รองรับภาวะฉุกเฉินการแพร่ระบาดโควิด-19 พร้อมมาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นสำหรับบุคลากร ก.สาธารณสุข 


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอขออนุมัติตำแหน่งข้าราชการอัตราตั้งใหม่นี้ เป็นการขอบรรจุบุคลากรที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ในการทำงานวิชาชีพ อีกทั้งยังเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติงานด่านหน้า ทำงานในที่ที่มีความเสี่ยง ต้องทำงานผลัดเวรตลอด 24 ชั่วโมงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดในปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากอย่างรวดเร็ว กระทรวงสาธารณสุขจึงมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มขีดความสามารถด้านกำลังคนให้มีจำนวนเพียงพอ และมีสมรรถนะเหมาะสมในการตรวจคัดกรอง วินิจฉัยโรค การรักษาพยาบาล การควบคุมการแพร่กระจายของโรค รวมทั้งการฟื้นฟูสุขภาพของประชาชน โดยการขอบรรจุข้าราชการใหม่ มีดังนี้

1.อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุบุคลากรในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน24 สายงานรวมทั้งสิ้น 38,105 อัตรา 


2.อัตราข้าราชการตั้งใหม่เพื่อบรรจุนักศึกษาผู้สำเร็จการศึกษาในปี 2563  5 สายงาน จำนวน 7,579 อัตรา

3.คัดเลือกบรรจุบุคคลซึ่งมิได้สำเร็จการศึกษาในวุฒิที่ กพ. กำหนด ให้คัดเลือกบรรจุเข้ารับราชการตามหนังสือสำนักงาน กพ. ที่ นร 1004/ว/17 ลงวันที่ 19 กันยายน 2562

ทั้งนี้ การบรรจุอัตราข้าราชการใหม่ รายละเอียดหลักเกณฑ์จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุม คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังภาครัฐ  (คปร.) ซึ่งกำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินงานภายใน 2 สัปดาห์ จากนั้นจะส่งเรื่องให้ กพ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการนำเสนอ รายงานต่อ ครม. เพื่อรับทราบตามที่ ครม. ได้อนุมัติ  ต่อไป


น.ส.ไตรศุลี ยังกล่าวอีกว่า ครม. ยังได้พิจารณามาตรการการเพิ่มสิทธิประโยชน์อื่นสำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข คือ สนับสนุนเงินเพิ่มพิเศษรายเดือน สำหรับบุคลากรกระทรวงสาธารณสุข  จัดสรรโควตาพิเศษ ความดีความชอบพิเศษสำหรับบุคลากรสาธารรณสุข  การปรับสิทธิประโยชน์ของบุคลากรที่ได้รับความเสียหายกรณีปฏิบัติหน้าที่ (กรณีเสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพ) และนับเวลาอายุราชการทวีคูณเพื่อคำนวณบำเหน็จบำนาญ   ลดอัตรดอกเบี้ยเงินกู้ส่วนบุคคลกรุงไทยธนวัฏ  ธนาคารออมสิน ระยะเวลา 1 ปี สำหรับบุคลากรสาธารณสุข  ปรับอัตราชดเชยใน ม.18 ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้บริการสาธารณสุขที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการทางสาธารณสุข (กรณีติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด 19 จำนวน 2 เท่าจากอัตราเดิม) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง