ฮ่องกง 24 ก.ย.- ไต้ฝุ่นรากาซา (Ragasa) ซึ่งเป็นพายุรุนแรงที่สุดของปีนี้ นอกจากทำให้ฮ่องกงต้องยกเลิกเที่ยวบินและสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาลแล้ว ยังทำให้ต้องย้ายเครื่องบินไปลงจอดที่สนามบินอื่นเพื่อความปลอดภัย
ข้อมูลในเว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์24 (Flightradar24) ที่ติดตามการสัญจรทางอากาศในเวลาจริงพบว่า ก่อนที่ไต้ฝุ่นรากาซา ซึ่งมีกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวมาถึงฮ่องกงในวันนี้ เครื่องบินราวร้อยละ 80 ของสายการบิน 4 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในฮ่องกงถูกย้ายไปลงจอด หรือสั่งจอดที่ท่าอากาศยานอื่นในญี่ปุ่น จีน กัมพูชา ยุโรป ออสเตรเลีย และอีกหลายแห่ง ตามที่การท่าอากาศยานฮ่องกงได้สั่งยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกทั้งหมดเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ตั้งแต่เย็นวันอังคารที่ผ่านมา สนามบินนานาชาติฮ่องกง ถือเป็นสนามบินที่มีการขนส่งสินค้ามากที่สุดในโลก และมีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดับ 9 ของโลก
เกรทเทอร์เบย์แอร์ไลน์ แจ้งว่า จอดเครื่องบินที่มีอยู่ทั้งหมด 7 ลำ นอกฮ่องกง ขณะที่ฮ่องกงแอร์ไลน์ดูเหมือนได้จอดเครื่องบินนอกฮ่องกง 27 ลำ จากทั้งหมด 28 ลำ ส่วนคาเธ่ย์แปซิฟิค สายการบินใหญ่ที่สุดของฮ่องกง มีฝูงบินโดยสารและขนส่งสินค้ารวมทั้งหมด 179 ลำ และเอชเคเอ็กซ์เพรส สายการบินต้นทุนต่ำในเครือคาเธ่ย์แปซิฟิค ข้อมูลติดตามการสัญจรทางอากาศพบว่า มีเครื่องบินจำนวนหนึ่งจอดอยู่ในฮ่องกง
ฮ่องกงแจ้งสัญญาณเตือนภัยไต้ฝุ่นเป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเช้าวันนี้ ธุรกิจและการคมนาคมต้องงดให้บริการ ทั้งนี้ ตามหลักการปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม สายการบินสามารถเคลื่อนย้ายเครื่องบินไปจอดที่อื่นในช่วงที่สภาพอากาศเลวร้ายครั้งใหญ่ หรือเกิดความขัดแย้งเสี่ยงเป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสามารถส่งเครื่องบินไปลงจอดนอกที่ตั้งสำนักงานใหญ่เป็นการล่วงหน้า เพื่อรอเดินทางกลับเมื่อพายุสงบลง ส่วนในกรณีที่มีกระแสลมแรง สายการบินสามารถเก็บเครื่องบินไว้โรงเก็บเครื่องบิน หรือเติมน้ำมันไว้เพื่อถ่วงน้ำหนัก ขณะที่เครื่องบินเล็กจะถูกผูกเอาไว้.-814.-สำนักข่าวไทย