กรุงเทพฯ 6 เม.ย.-กรณ์ แนะจับตา 3 พระราชกำหนดสำคัญสู้โควิด19 เผยเทคนิคคลังทำรัดกุม-ยุติธรรม-ทั่วถึง
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ชี้แจงให้จับตา 3 พระราชกำหนดสำคัญเพื่อรับมือต่อวิกฤติเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยระบุว่า ในวันพรุ่งนี้(7 เม.ย.) คณะรัฐมนตรีจะพิจารณา 3 พระราชกำหนดสำคัญ คือ พ.ร.ก. กู้เงิน พ.ร.ก. สินเชื่อช่วย SMEและ พ.ร.ก. ให้แบงค์ชาติรับซื้อพันธบัตรเอกชนไทย ซึ่งทั้ง 3 เรื่องถือว่าสำคัญดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องพิสูจน์ให้เห็นก่อน คือต้องปรับงบที่ไม่เร่งด่วนหรือชัดเจนว่าใช้ไม่ทันสิ้นปีงบประมาณ และเอางบนั้นมาจัดสรรใหม่ในการต่อสู้กับสภาวะวิกฤติ ขณะเดียวกันรัฐยังมีวงเงินกู้ตามเพดานตามกฎหมายในปีงบประมาณ (เหลืออยู่ประมาณ 300,000 ล้านบาท) รัฐควรพิจารณาวิธีใช้วงเงินนี้ก่อนที่จะออก พ.ร.ก. หรือหากยังต้องออก พ.ร.ก. รัฐต้องออกในวงเงินที่จะใช้จริงอย่างเร่งด่วนทันทีเท่านั้น ส่วนที่เหลือควรเป็นการใช้เงินในงบประมาณปี 2564 ซึ่งต้องมีการรื้อใหม่ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป และสำหรับพ.ร.ก.สินเชื่อ SME ธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องมีระบบประเมินความยุติธรรมในการเข้าถึงวงเงิน
ส่วน พ.ร.ก. ให้แบงค์ชาติรับซื้อพันธบัตรเอกชนไทยนั้น นายกรณ์ ระบุว่า เป็นกฎหมายที่สุ่มเสี่ยงที่สุด เพราะไม่เคยมีมาตรการนี้ในประเทศไทยมาก่อน จึงเห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ควรต้องประเมินสถานการณ์ของแต่ละบริษัทที่ออกพันธบัตรแต่เนิ่นๆ เพื่อกำหนดทั้งโครงสร้างการเงินที่เหมาะสมโดยรวมของกิจการ ต้องกำหนดแผนยุทธศาสตร์การดำเนินการของผู้ประกอบการในช่วงนี้และช่วงหลังวิกฤต และต้องเจรจาร่วมกับเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นในการกำหนดการแบ่งรับภาระความความเสียหายและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น และกำหนดระดับความช่วยเหลือที่จะได้รับจากธนาคารกลาง
“เรื่องการเตรียมกู้วิกฤติเศรษฐกิจจากโควิดเป็นเรื่องต้องทำแน่นอน และต้องทำอย่างรัดกุม ยุติธรรมและทั่วถึง ขอเป็นกำลังใจให้ทีมแบงก์ชาติ ทีมคลัง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน” นายกรณ์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย